จากกรณีที่ Epic Games ได้ยื่นฟ้องร้อง Google ในข้อกล่าวหาว่าผูกขาดแอปสโตร์และระบบจ่ายเงินในปี 2020 ผ่านมา 3 ปี การไต่สวนได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 1 เดือนก่อน และวันนี้ คณะลูกขุนของรัฐบาลกลางในแคลิฟอร์เนียได้มีมติตัดสินแล้วว่า Google มีความผิดจริง ในการผูกขาดร้านค้า Google Play และบริการชำระเงิน Google Play Billing

Epic Games อ้างว่า Google ได้ยื่นข้อเสนอเป็นเงินใต้โต๊ะให้นักพัฒนารายใหญ่หลายรายเพื่อกีดกันไม่ให้นำแอปต่าง ๆ ไปเผยแพร่บนแอปโตร์ของค่ายอื่น หรือไม่ให้มีการเปิดแอปสโตร์ของตนเองมาแข่งขันกับ Google Play

Google ยังถูกกล่าวหาว่ามีการตกลงจ่ายส่วนแบ่งรายได้อย่างลับ ๆ กับผู้ผลิตมือถือ Android ให้แอปของ Google มีความ ‘โดดเด่น’ บนตัวอุปกรณ์ เช่น วางแอป Google ไว้บนหน้าแรกของหน้าโฮมเป็นค่าเริ่มต้น หรือเปิดใช้งานบริการ Google เป็นค่าเริ่มต้น โดยกรณีล่าสุดที่ Epic Games ออกมาแฉคือ การจ่ายเงิน จำนวน 8 พันล้านดอลลาร์ให้ Samsung ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา

ส่วนทาง Google ยืนกรานปฏิเสธมาตลอด โดยระบุว่าการกระทำของตนเป็นการกระทำโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่เข้าข่ายการผูกขาดทางการค้า เพราะทำไปเพื่อแข่งขันกับ Apple แม้ว่าสุดท้ายแล้วคณะลูกขุนจะไม่ได้คิดแบบเดียวกับ Google ก็ตาม

Google จะได้รับบทลงโทษอะไรหรือไม่

ผู้พิพากษา James Donato ยังไม่ได้ประกาศว่า Google จะได้รับบทลงโทษ หรือต้องดำเนินการอย่างไรต่อไปนับจากนี้ ซึ่งทาง Epic Games ไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายเป็นตัวเงิน แต่สิ่งที่ Epic Games ต้องการคือ ‘เสรีภาพ’ ในการใช้ระบบจ่ายเงินของตนโดยไม่ผ่าน Google Play Billing นอกจากนี้ Epic Games ยังได้ร้องขอสิทธิ์แบบเดียวกันสำหรับนักพัฒนารายอื่นด้วย

Tim Sweeney ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Epic Games กล่าวว่าการไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้ Google จะนำไปสู่รายได้ที่เพิ่มขึ้นหลายร้อยล้านดอลลาร์หรือมากกว่านั้น

คดีคล้ายกัน Apple รอด แต่ Google โดน…

ข้อสังเกตประการหนึ่งคือ Epic Games ได้ยื่นฟ้องร้อง Apple ในปีเดียวกับที่ยื่นฟ้องร้อง Google ด้วยข้อกล่าวในลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่ศาลชั้นต้นตัดสินในปี 2021 ว่า Apple ไม่มีมูลความผิด และศาลอุทธรณ์ก็ยืนยันคำตัดสินเดิมอีกครั้งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งประเด็นนี้อาจนำไปสู่คำถามที่ว่า ‘ทำไม Apple รอด แต่ Google โดน…’

อย่างไรก็ดี Google ยืนยันกับสื่อต่างประเทศว่าจะมีการยื่นอุทธรณ์คำตัดสินต่อไป ส่วนบทสรุปสุดท้ายจะลงเอยเช่นไร ต้องรอติดตามกันต่อไป

ที่มา : The Verge