แม้ว่าเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับจะเริ่มพัฒนาไปเรื่อย ๆ แล้ว แต่ก็ยังไม่วายมีข่าวอุบัติเหตุจากรถยนต์อัตโนมัติออกมาให้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ เพราะลำพังระบบ AI เองก็ไม่สามารถคาดเดาพฤติกรรมของผู้ใช้ท้องถนนที่เป็นมนุษย์จริง ๆ ได้แบบ 100% ซึ่งล่าสุดก็มีรายงานออกมาว่า ในโซนสหราชอาณาจักร หากรถยนต์ขับอัตโนมัติคันไหนไปชนใครเข้า จะถือว่าบริษัทเจ้าของรถยนต์เป็นผู้รับผิดชอบแทนคนขับที่นั่งอยู่ในรถครับ

การออกกฎหมายแบบนี้ก็จะเป็นการตัดสินอย่างชี้ชัดไปเลยในประเด็นที่เคยเป็นปัญหากันมาก่อน อย่างในปี 2017 ที่เคยมีรถ Uber ที่กำลังทดสอบโหมดอัตโนมัติอยู่ขับชนคนเสียชีวิตไป ซึ่งในกรณีนั้นศาลตัดสินให้คนขับมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา แต่ตัวบริษัท Uber เองกลับไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย อีกคดีนึงก็มีในปี 2019 ที่รถ Tesla ในโหมด Autopilot ขับชนคนเสียชีวิตไป ซึ่งศาลก็ตัดสินให้คนขับมีความผิด ขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่ Tesla เองก็ไม่ได้โดนอะไรอีกเช่นกัน

ดังนั้นทางสหราชอาณาจักร (UK) ที่กำลังวางโร้ดแมพให้มีการใช้รถขับอัตโนมัติอย่างแพร่หลายในอนาคต ก็ได้ทำการปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ เพื่อวางแผนออกกฎหมายมาสร้างมาตราฐานความปลอดภัยบนท้องถนน พร้อมลงโทษบริษัทที่ไม่สามารถรักษาความปลอดภัยของรถยนต์อัจฉริยะของตัวเองไว้ได้ ทำให้ความผิดจากการเกิดอุบัติเหตุไม่ไปตกอยู่กับผู้โดยสารที่นั่งอยู่ในรถฝ่ายเดียว

โดยรัฐบาล UK คาดการณ์ไว้ว่าพวกรถไร้คนขับที่สามารถขับได้บนทางด่วน จะเริ่มออกวางขายจริงในปีหน้าเป็นต้นไป ส่วนในขณะนี้แม้รถ Tesla จะมีระบบขับอัตโนมัติแบบเต็มตัวแล้ว (ADAS) แต่กฏหมายของ UK ยังไม่อนุญาตให้คนขับเปิดโหมดนี้ครับ ต้องรอกฎหมายใหม่นี้ออกมาก่อนนั่นเอง

 

ที่มา: Techcrunch