ทุกวันนี้หลายๆ คนน่าจะมีมือถือเป็นอวัยวะชิ้นที่ 33 ของร่างกายเราไปแล้ว ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องหยิบขึ้นมาจิ้มๆ ไถๆ ให้หายเครียด ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ก็คือ แบตเตอรี่มือถือในปัจจุบันไม่ได้อึดอะไรเลย เข้าเว็บ ดูคลิป เล่นเกม แป๊บๆ แบตจะหมดซะแล้ว ก็เลยต้องหาแบตสำรองมาคอยชาร์จ หรือบางทีโชคดีไปเจอช่อง USB ไว้ให้ชาร์จแบตในที่สาธารณะเอาก็มีเหมือนกัน…แต่ต้องคอยระวังนิดนึงนะ เพราะอาจจะเสี่ยงต่อการโดนแฮก และขโมยข้อมูลในมือถือได้
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อัยการประจำเมือง Los Angeles สหรัฐ อเมริกา ได้ออกเอกสารแจ้งเตือนถึงนักเดินทางและบุคคลทั่วไป ให้ระวังและหลีกเลี่ยงการเสียบสายชาร์จไฟจากพอร์ท USB ตามสถานที่สาธารณะต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น สนามบิน, ห้างสรรพสินค้า, โรงแรม, รถโดยสารประเภทรถบัส, แท็กซี่, รถตู้ ฯลฯ เนื่องจากอาจจะเสี่ยงโดนโจรกรรมข้อมูลที่อยู่ในสมาร์ทโฟนผ่านสายชาร์จที่เสียบเข้ากับพอร์ทเหล่านั้นได้
การขโมยข้อมูลของเหล่า Smart Device ผ่านสายเคเบิลแบบนี้มีชื่อเรียกว่า Juice Jacking โดยแฮคเกอร์จะใช้มือถือหรือโน้ตบุ๊คของตัวเองแอบเชื่อมเข้ากับที่ชาร์จไฟสาธารณะที่เป็นพอร์ท USB เพื่อคอยดึงข้อมูลหรือติดตั้ง Malware เข้าไปที่มือถือของเหยื่อแบบไม่รู้ตัว ซึ่งจริงๆ แล้วเวลาที่เราเสียบสายเข้ากับ USB ที่ไม่ใช่แค่พอร์ทสำหรับชาร์จอย่างเดียว มันจะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมาเตือนว่าจะอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลได้รึเปล่า? หรือต้องการจะรับ-ส่งไฟล์กับพอร์ท USB ต้นทางรึเปล่า? ถ้าคนที่สังเกตกดปฏิเสธก็อาจจะรอดตัวไป แต่ถ้าใครที่กำลังรีบๆ หาที่ชาร์จเพราะแบตกำลังจะหมด อะไรเด้งขึ้นมาก็ไม่สนใจอ่านขอชาร์จก่อน กดอนุญาตปุ๊บก็เรียบร้อย…เสร็จโจร
ตัวอย่างหน้าต่างที่จะเด้งขึ้นมาเวลาเสียบสาย USB เข้ากับอุปกรณ์อื่น ที่ไม่ใช่พอร์ทสำหรับชาร์จไฟอย่างเดียว
แล้วแบบนี้ถ้าแบตหมดระหว่างวันจะทำยังไงถึงจะไม่เสี่ยงโดนแฮก? เราก็มีวิธีต่างๆ มานำเสนอให้ไว้เป็นตัวเลือกตามนี้ครับ
- พกหัวชาร์จไปเอง
- ข้อดี: ชาร์จไว และปลอดภัยที่สุด ไม่ต้องกังวลว่าจะโดนขโมยข้อมูล
- ข้อเสีย: ต้องหาปลั๊กไฟเพื่อที่จะเสียบชาร์จ
- พกพาวเวอร์แบงค์
- ข้อดี: ไม่ต้องคอยหาปลั๊กไฟ เสียบชาร์จได้เลย
- ข้อเสีย: ต้องแบกน้ำหนักพาวเวอร์แบงค์เพิ่มขึ้นมาอีก ยิ่งความจุเยอะก็ยิ่งน้ำหนักพอๆ กับมือถืออีกเครื่องนึง
- เสียบชาร์จกับโน้ตบุ๊ค (สำหรับคนที่พกพาอยู่แล้ว)
- ข้อดี: ปลอดภัย
- ข้อเสีย: ใช้เวลาชาร์จไฟเข้านาน, โน้ตบุ๊คอาจแบตหมดแทน
- ใช้ USB Condom (อุปกรณ์ป้องกันการโอนถ่ายข้อมูลผ่านพอร์ท USB)
- ข้อดี: ไม่โดนขโมยข้อมูลแน่ๆ หากเสียบพอร์ตสาธารณะชาร์จแบตที่อื่น
- ข้อเสีย: ต้องพกอุปกรณ์เพิ่ม, ต้องซื้อเพิ่ม
- ใช้สายแบบที่ชาร์จได้อย่างเดียว
- ข้อดี: ปลอดภัย
- ข้อเสีย: ต้องพกสายเพิ่มอีกเส้น
- Wireless Charging กับมือถือเพื่อนที่รองรับฟีเจอร์ Reverse Wireless Charging
- ข้อดี: ไม่ต้องใช้สายให้วุ่นวาย เอาเครื่องวางแปะกันก็ชาร์จได้เลย
- ข้อเสีย: มือถือที่รองรับระบบนี้ไม่ได้มีหลายรุ่นให้เลือก ที่สำคัญยังชาร์จช้ามาก และจะพาลทำให้แบตอีกเครื่องหมดไปด้วย
- ชาร์จกับมือถือเพื่อนที่รองรับฟีเจอร์ Reverse Charging
- ข้อดี: ปลอดภัย
- ข้อเสีย: มีมือถือไม่กี่รุ่นที่รองรับระบบนี้ และมือถือที่ปล่อยไฟให้ก็จะแบตหมดเองเหมือนกัน
เอาเป็นว่าทางที่ดีเราควรหลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่ผ่านพอร์ท USB สาธารณะนะครับ เพราะเราไม่อาจทราบได้เลยว่าพอร์ทที่เราจะใช้นั้นปลอดภัยหรือเปล่า จะมีคนไม่หวังดีแอบไปติดตั้งโปรแกรมปล่อยมัลแวร์ หรือเตรียมขโมยข้อมูลจากเราหรือไม่ และอีกหนึ่งวิธีรับมือกับปัญหาแบตจะหมดที่ดีก็คือเปิดโหมดประหยัดพลังงาน (Battery Saving Mode) ครับ น่าจะช่วยยืดอายุการใช้งานโทรศัพท์ไปได้อีกเล็กน้อย สำหรับโทรเข้าออกหรือแชทในกรณีฉุกเฉินนะครับ
ที่มา: lacounty via LifeHacker
น่ากลัวครับ ไม่ควรไปเสียบสุ่มสี่สุ่มห้า 🙂 🙂
ติด Powerbank ซักลุกถ้าเสี่ยงไม่พอก็เอา Powerbank ไปเสียบเอาดีกว่า
ปกติหาปลั๊กตลอดเพราะ พวก port usb ตามสาธารณะ ปล่อยไฟนิดเดียว แถมส่วนใหญ่พัง