แม้ว่าจะเปิดไปตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาสำหรับ Vivo V20 Pro 5G แต่วันนี้ผมขอหยิบสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาขยี้ฟีเจอร์กันอีกสักรอบว่าตัวนี้จะมีจุดเด่นอะไรบ้าง สามารถทำอะไรได้บ้าง คุ้มค่าไหมกับค่าตัวที่เสียไป

รองรับ 5G ใช้งานได้ทันที

มากันที่ไฮไลท์ฟีเจอร์แรกกันก่อนเลยดีกว่า ถึงแม้ว่าจะเปิดตัวไปในช่วงปี 2020 แต่ Vivo V20 Pro 5G ก็มาพร้อมกับความสามารถในการใช้งาน 5G ได้เหมือนๆ กับมือถือรุ่นใหม่ๆ ที่เปิดตัวในปีนี้ โดย Vivo V20 Pro 5G จะรองรับการใช้งาน 5G ในย่านความถี่ n41 หรือช่วง 2500 MHz ที่ตอนนี้มี AIS และ truemove H ถือใบอนุญาตอยู่นั่นเอง

สิ่งที่ทำให้ 5G นั้นเหนือกว่า 4G นอกจากจะเป็นเรื่องของความเร็วในการ Download หรือ Upload ข้อมูลแล้ว ยังเป็นเรื่องของความเสถียรของการใช้งานอีกด้วย โดยตอนนี้ต้องบอกว่าทั้ง AIS และ truemove H ต่างเริ่มติดตั้งเสาสัญญาณรับส่งคลื่น 5G แทบจะทั่วประเทศไทยแล้ว รับประกันว่าซื้อ Vivo V20 Pro 5G มาใช้ โอกาสที่จะมีสัญลักษณ์ 5G ขึ้นบนมือถือ อันนี้น่าจะสูงมากๆ เลยล่ะ

กล้องเซลฟี่คู่ รองรับ Eye Autofocus

แม้ว่าดีไซน์ด้านหน้าของ Vivo V20 Pro 5G จะมาพร้อมกับ Notch หรือรอยบากที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ก็แลกมาด้วยกล้องหน้า 2 ตัว สเปคเทพๆ เซ็นเซอร์หลักความละเอียดสูง 44 ล้านพิกเซล และอีกตัวเป็นกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีมุมกว้างมากถึง 105 องศา เข้ามาช่วยให้การถ่ายรูปแบบกลุ่มหรือ Group Shot นั้นมีกว่าเดิม ไม่มีใครต้องตกขอบ คนถือกล้องไม่ต้องพยายามยื่นมือให้ไกลเป็นแม่นาค ฮ่าๆ

แถมกล้องหน้าของ Vivo V20 Pro 5G ยังมีระบบ Eye Autofocus ทำให้ไม่ว่าจะถ่ายระยะไหน ใกล้ไกล ตัวระบบช่วยโฟกัสเก็บกินอยู่หมด อันนี้เหนือกว่าสมาร์ทโฟนหลายๆ รุ่นในตลาดตอนนี้มาก ที่ส่วนใหญ่ยังมักจะให้กล้องหน้ามาเป็นแบบ Fixed Focus อยู่

นอกจากนี้ กล้องหน้าของ Vivo V20 Pro 5G ยังรองรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยอีกด้วย เท่ากับว่าสเปคกล้องหน้าของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ แทบจะไม่ต่างอะไรกับกล้องหลังของมือถือบางรุ่นเลยล่ะ โหดพอตัวอยู่

กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล

จบเรื่องกล้องหน้า มาต่อกันที่กล้องหลัง โดยด้านหลังของ Vivo V20 Pro 5G ก็จัดเต็มไม่แพ้กับกล้องหน้าเลยล่ะ มาพร้อมกับกล้องแบบ Triple Setup ประกอบด้วยเซ็นเซอร์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล, กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่รองรับการถ่ายภาพแบบ Macro และตัวสุดท้ายเป็นกล้อง Mono ขาวดำ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เข้ามาช่วยในโหมดหน้าชัดหลังเบลอ

Dual-View Video เห็นทั้งกล้องหน้าและหลังไปพร้อมๆ กัน

แถม Vivo V20 Pro 5G ยังมีฟีเจอร์กล้องอีกหนึ่งตัวที่บอกเลยว่าว้าวสุดๆ นั่นก็คือ Dual-View Video ที่จะเข้ามาช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถบันทึกวิดีโอกล้องหน้า และสามารถบันทึกวิดีโอกล้องหลังไปด้วยพร้อมๆ กัน เห็นทั้งสองมุมได้แบบชัดๆ

Snapdragon 765G น้องๆ เรือธง ใช้งาน + เล่นเกมลื่นไหล

นอกจากรูปทรงภายนอกสีสันจะสวยแล้ว ด้านในของ Vivo V20 Pro 5G ก็ยังไม่เป็นสองรองใคร ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตตัวเทพอย่าง Snapdragon 765G จาก Qualcomm ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 7 นาโนเมตร มีโมเด็ม LTE + 5G ใส่มาให้ในตัว ไม่ต้องติดตั้งเพิ่ม ทำให้การจัดการพลังงานดีขึ้นกว่าเดิม หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือซดแบตน้อยลงนั่นแหละ

ซึ่งถ้าใครจะเอา Vivo V20 Pro 5G มาใช้งานทั่วไป ถ่ายรูป ไถโซเชียล ฯลฯ ก็ต้องบอกเลยว่าเหลือๆ อยู่แล้ว คำถามอยู่ที่ว่าแล้วถ้าเอาไปเล่นเกมล่ะ จะลื่นไหม ปรับกราฟิกได้ถึงขนาดไหน

ตรงนี้เราเองก็ไปลองมาให้แล้ว พบว่า Vivo V20 Pro 5G สามารถปรับกราฟิกได้ (เกือบ) สุดหมดเลย ไม่ว่าจะเกม PUBG, Call of Duty หรือ RoV แถมยังไม่มีอาการกระตุกหรือแลคระหว่างเล่นอีกด้วย

แบต 4000 mAh รองรับชาร์จไว 33W

ปิดท้ายกันด้วยเรื่องของแบตเตอรี่ โดย Vivo V20 Pro 5G มากับแบตความจุ 4000 มิลลิแอมป์ ที่แม้ว่าจะไม่ได้เยอะอะไรนัก แต่ทาง Vivo ก็เคลมว่า Vivo V20 Pro 5G สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน ไม่ต้องหาปลั๊กหรือหาที่ชาร์จมาเสียบให้ยุ่งยาก

แต่ถ้าใช้งานหนักจนแบตหมดจริงๆ ก็ไม่ต้องห่วง เพราะ Vivo V20 Pro 5G รองรับระบบชาร์จไว Flash Charge 2.0 ที่มีความเร็วมากถึง 33W โดยเสียบชาร์จทิ้งไว้แค่ 30 นาที ก็ได้แบตมาใช้แบบเพลินๆ แล้วประมาณ 60 – 70%

สเปค VIVO V20 PRO 5G

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1080 รองรับการแสดงผลแบบ HDR10
  • ชิปเซ็ต Snapdragon 765G
  • RAM 8GB (LPDDR4x)
  • ความจุ 128GB  (UFS 2.1)
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    • Wide: 64MP f/1.89
    • Ultra-Wide: 8MP f/2.2
    • B&W: 2MP f/2.4
  • กล้องหน้า 2 ตัว
    • Wide: 44MP f/2.0
    • Ultra-Wide: 8MP f/2.28
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
  • รองรับ 5G คลื่นความถี่ n41/n78/n1/n3/n77
  • WiFi 2.4G, WiFi 5G, BT 5.0
  • พอร์ต USB-C, รูหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ 4000 mAh รองรับชาร์จไว 33W
  • ขนาด: 158.82 x 74.2 x 7.39 มม. น้ำหนัก 170 กรัม
  • ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 11 บนพื้นฐาน Android 10

โดยตอนนี้ทาง Vivo ได้ปรับราคาของ Vivo V20 Pro 5G จากปกติ 14,999 บาท เหลือเพียงแค่ 12,999 บาทเท่านั้น (เท่ากับว่าลดราคาไปถึง 2 พันบาทเลย) สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ Vivo Brand Shops และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

Play video