สวัสดีเพื่อนๆสมาชิก Droidsans กลับมาพบกับผมอีกครั้งในการรีวิวมือถือ Android ในตลาดกลางๆ ราคาไม่แพงที่ต้องบอกว่า มีออกมาจำหน่ายกันไม่ขาดสาย เลือกกันไม่หวาดไม่ไหว สู้กันหนักจริงๆตั้งแต่ปี 2014 ที่ผ่านมา โดยวันนี้เราจะมารีวิว vivo Y28 มือถือ Android ราคาคุ้มจาก vivo ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน Android ที่ถือว่ามีชื่อเสียงเจ้าหนึ่งจากประเทศจีน โดย vivo Y28 รุ่นนี้จัดเป็นมือถือระดับกลางทั้งสเปกและราคา มีวางจำหน่ายแล้วในสนนราคา 6,990 บาท สีเดียวคือสีขาว สามารถรองรับเครือข่าย 3G ได้ทุกค่าย เอกลักษณฺของมือถือ vivo ที่หลายคนรู้กันคือ มือถือเสียงดีโดยจะเน้นใส่ชิปเสียงแยกมาในมือถือเกือบทุกรุ่น และเจ้า vivo Y28 ก็ไม่ได้รับการงดเว้น เป็นมือถือเสียงดีอีกตัวหนึ่งเลยทีเดียว ว่าแล้วก็เข้าสู่รีวิวกันเลยครับ


สำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก vivo ว่าเป็นใครมาจากไหน ลองเข้าไปอ่านใน blog ทำความรู้จัก vivo แอนดรอยด์น้องใหม่จากจีน ของ mod Gimme กันได้ รายละเอียดครบถ้วนพอสมควรแล้ว และสาเหตุที่มือถือ vivo เสียงดีก็เพราะว่า บริษัทเริ่มต้นมาจากการทำ MP3 Player นั่นเอง ประสบการณ์โชกโชนถึง 19 ปี ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเอาจุดเด่นของตัวเองมาใส่ในสมาร์ทโฟนด้วย

i9uidQ3.jpg

vivo Y28 เป็นมือถือในตลาดกลางค่อนไปทางล่างสักหน่อยด้วยราคาจำหน่ายเพียง 6,990 บาท โดยมือถือรุ่นนี้ไม่เน้นสเปกสักเท่าไหร่นักเพราะหากเปรียบเทียบกับมือถือในราคาระดับเดียวกันในตลาดตอนนี้ ต้องบอกว่า vivo Y28 น้อยหน้ากว่าคนอื่นพอสมควร ด้วยหน้าจอ 4.7 นิ้วความละเอียด qHD พร้อม RAM 1GB และ ROM 8GB ส่วน OS ก็ยังเป็น Android 4.2.2 Jelly Bean อยุ่ในขณะที่ส่วนใหญ่ไป Android 4.4 KitKat กันแล้ว แต่มือถือรุ่นนี้มีจุดเด่นที่สามารถชดเชยกับสิ่งที่กล่าวมา จะเป็นอะไรนั้นต้องตามมาดูกัน

 

ขอมาดู Package ของ vivo Y28 กันซะก่อน

สำหรับอุปกรณ์ที่ vivo เตรียมมาให้ในกล่องของ vivo Y28 นั้นก็ตามมาตรฐานทั่วไปแต่มีของแถมนิดหน่อย ได้แก่

  • เครื่อง vivo Y28
  • สาย USB
  • Adaptor สำหรับชาร์จขนาด 5V 1.2A
  • หูฟังสเตอริโอ Smalltalk แบบ earbud
  • ฟิล์มกันรอย (ติดมาจากโรงงาน)

 

สเปกของ vivo Y28

อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่า มือถือรุ่นนี้ไม่ได้เน้นสเปกสู้กับคู่แข่งในตลาดสักเท่าไหร่นัก โดยจะมีส่วนอื่นมาชดเชยแทน รายละเอียดของสเปกมีดังนี้

  • ชื่อและรหัสเครื่อง : vivo Y28
  • สัดส่วน: 137.4 x 68.6 x 9.8 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก: 156 กรัม
  • หน้าจอ: IPS LCD ขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด qHD 960 x 540 พิกเซล 216 ppi
  • เครือข่ายที่รองรับ:
    • 3G : HSPA 850/900/2100
    • 2G : GSM 850/900/1800/1900
  • SIM : 2 SIM แบบ Micro SIM พร้อม dual-standby รอรับสายได้พร้อมกัน
  • CPU : MediaTek MT6582 Quad-core 1.30 GHz
  • GPU : Mali-400MP2
  • RAM : 1 GB
  • หน่วยความจำภายใน : 8 GB เพิ่ม MicroSD ได้ถึง 128GB
  • กล้องหน้า : 5 ล้านพิกเซล เลนส์ F2.4
  • กล้องหลัง : 8 ล้านพิกเซล เลนส์ F2.0 พร้อม LED flash และ Autofocus
  • แบตเตอรี่ : Li-Po 2,100 มิลลิแอมป์ (ถอดเปลี่ยนได้)
  • OS : Funtouch OS บน Android 4.2.2 Jelly Bean
  • NFC : ไม่มี
  • OTG : ไม่มี
  • การเชื่อมต่ออื่นๆ:
    • Wi-Fi 802.11 b/g/n
    • Bluetooth 4.0 A2DP, EDR
    • A-GPS, GLONASS
    • USB 2.0
    • หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร


หน้าตาและงานประกอบ

vivo Y28 นั้นมีงานออกแบบที่ค่อนข้างดูดีเลยทีเดียว มองแว็บแรกหลายคนอาจจะคิดว่าเหมือน HTC One M7 แต่ผมว่าไม่เหมือน แค่ได้รับแรงบันดาลใจมาเท่านั้น 😛 ตัวเครื่องเลือกใช้วัสดุเป็นพลาสติกเคลือบมันเงา ดูดลายนิ้วมือพร้อยเลยทีเดียว ดีที่ตัวเครื่องเป็นสีขาวทำให้มองไม่เห็นสักเท่าไหร่ ส่วนกรอบของเครื่องเป็นโครเมียม สำหรับงานประกอบตัวเครื่องนั้นดีเกินคาด เหลี่ยม,มุม,ฝาหลังนั้นประกบเข้ากันได้สนิท ไม่มีเสียงกรอบแกรบหรือรู้สึกว่ามันมีช่องว่าง จับถือแล้วยิ่งรู้สึกได้ว่า QC มาดี เอาเป็นว่าคุณภาพงานประกอบอยู่แถวหน้าของมือถือราคาช่วงนี้เลย

 

ด้านหน้า : ประกอบด้วยหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว แบบ IPS LCD ความละเอียด qHD 960 x 540 พิกเซล ความคมชัดตามตัวเลขคือ 216 ppi จากการใช้งานจริงพบว่าภาพยังไม่คมมาก แต่ก็ยังถือว่าชัดเจนสำหรับใช้งานทั่วไป ถ้าไม่มานั่งจ้องจับผิดกัน ระดับนี้ถือว่าไม่น่าเกลียด แต่ขอบจอยังมีที่ว่างสีดำเยอะไปหน่อย น่าจะบางได้กว่านี้ ส่วนบนของด้านหน้ามีลำโพงสนทนาและกล้อง Selfie ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล F2.4 สำหรับส่วนล่างจะมีปุ่มสัมผัส 3 ปุ่มตามมาตรฐาน คือ เมนู , Home และ Back

R4kupyF.jpg

 

ด้านบน : ไม่มีอะไรมาก นอกจากช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

 

ด้านล่าง : ประกอบด้วยไมค์สำหรับสนทนาและช่องเสียบสาย microUSB สำหรับชาร์จและโอนถ่ายข้อมูลกับเครื่องคอมพิวเตอร์

 

ด้านขวา : ประกอบด้วยปุ่มปรับเสียง, ปุ่ม Power และช่องสำหรับงัดเปิดฝาหลังของเครื่อง

 

ด้านซ้าย : รถไม่ติด…. โล่งตลอดแนว

 

ด้านหลัง : ประกอบด้วยโลโก้ vivo สีเงินเด่นตรงกลาง มีกล้องหลังและแฟลชอยู่ด้านบน ส่วนด้านล่างเป็ยช่องลำโพงสำหรับเสียงเรียกเข้าและเสียงแจ้งเตือนต่างๆ ซึ่งลำโพงถือว่าเสียงดังใสกิ๊งสมกับเป็นมือถือของ vivo จริงๆ

เปิดฝาหลังออกมาจะเห็นช่องเสียบ SIM 2 ช่องเพราะรุ่นนี้รองรับ Dual SIM Standby โดยใช้ MicroSIM ทั้งสองช่องเลย ด้านขวาสุดจะเป็นช่องเสียบ MicroSD card โดยรองรับได้สุงสุดถึง 128 GB สำหรับแบตเตอรี่ที่ให้มานั้นเป็นแบบ Lithium Polymer หรือ Li-Po ความจุ 2,100 mAh

 

ว่ากันด้วยเรื่อง Funtouch OS

Funtouch OS เป็นระบบปฏิบัติการที่ vivo พัฒนาขึ้นมาเพื่อสร้างความแตกต่างให้ผลิตภัณฑ์ของตัวเอง โดย Y28 ตัวนี้มาพร้อมกับ Funtouch OS เวอร์ชัน 1.8 ร้างบนพื้นฐานของ Android 4.2.2 Jelly Bean แต่สำหรับ vivo รุ่นที่สูงกว่านี้เห็นว่าไป Funtouch OS เวอร์ชัน 2.0 ที่เป็น Android 4.4 KitKat กันหมดแล้วนะครับ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเวอร์ชันของ Android จะดูเก่าไปสักหน่อย แต่ความสามารถที่ vivo ใส่มาให้ Funtouch OS นั้นช่วยชดเชยสิ่งความล้าสมัยของ Android ได้เป็นอย่างดี เรามาดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้างครับ

 

BBK Launcher

BBK Launcher เป็น Launcher ของ Funtouch OS ที่อาศัยการจัดเรียงแอพผ่านทางหน้า Homescreen ทั้งหมด จะไม่มีหน้ารวมแอพหรือ App Drawer เหมือนกับ Launcher ทั่วไปของ Android โดยถ้าใครเคยใช้ MIUI มาก่อนจะคุ้นเคยดี จริงๆแล้ว Launcher ของผู้ผลิตมือถือจากจีนหลายเจ้าก็มาแนวนี้กันหมดเลย

นอกจาก App Drawer ที่หายไป ตัว Funtouch OS ยังมีการปรับหน้าตาให้ต่างไปจากแนวทางของ Android ในอีกหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นส่วนของ แถบแจ้งเตือนหรือ Notification shade ที่เราเอานิ้วลากลงมาจากด้านบนนั้นจะโชว์รายการการแจ้งเตือนอย่างเดียว ไม่มีปุ่มเปิดปิด Wifi, 3G, Bluetooth, GPS, Airplane mode ใดๆทั้งสิ้น โดยปุ่มเปิดปิดทั้งหมดจะถูกย้ายไปอยู่แถบด้านล่างแทน เดี๋ยวจะพูดถึงต่อไป ในส่วนแถบแจ้งเตือนเราสามารถ สั่งบล็อคการแจ้งเตือนจากแอพที่ไม่ต้องการได้อีกด้วย ที่เห็นว่ามีประโยชน์คงจะเป็นการบล็อคโฆษณาต่างๆ ที่ฝังมาในแอพที่เราติดตั้งเองจาก Play Store ซะมากกว่า

 

มาดูส่วนแถบเครื่องมือด้านล่างที่เปิดได้โดยการลากนิ้วจากล่างสุดของจอขึ้นมากลางจอ ในส่วนนี้จะรวม Toggles ที่ใช้เปิดปิดฟังก์ชันต่างๆ เช่น Wifi, 3G, Bluetooth, GPS, และไฟฉาย เป็นต้น นอกจากนั้นเรายังสามารถปรับความสว่างของหน้าจอ รวมถึง Task Manager ที่เอาไว้ปิดแอพที่ไม่ได้ใช้ออกจากหน่วยความจำได้ด้วย

 

i Manager

i Manager เป็นศูนย์รวมเครื่องมือสำหรับจัดการระบบรักษาความปลอดภัยของเครื่องและการจัดการข้อมูลและแอพต่างๆภายในเครื่อง ตรงนี้ถ้าใครรู้จักแอพ Clean master ก็จะคุ้นเคยดีเพราะมันทำหน้าที่แบบเดียวกัน โดย i Manager ประกอบด้วย

Phone clean : เป็นส่วนที่เอาไว้ clear ram หรือ clear cache และไฟล์ขยะต่างๆที่รกอยู่ในเครื่อง ทำให้เสียพื้นที่โดยเปล่าประโยชน์

 

Data monitor : เป็นส่วนที่เอาไว้ตรวจการใช้งานอินเตอร์เน็ตในเครื่อง โดย Data monitor เอาไว้เช็คว่าใช้อินเตอร์เน็ตเกินจากที่ตั้งไว้หรือยัง, Data rank ดูว่าแอพไหนมีการใช้งานอินเตอร์เน็ตเป็นปริมาณมากที่สุดทั้ง Wifi และ 3G หรืออีกนัยหนึ่งคือ แอพที่ใช้เน็ตเปลืองมากที่สุด นั่นเอง และ Manager เอาไว้สั่งบล็อคไม่ให้แอพที่ไม่ต้องการเข้าใช้งานอินเตอร์เน็ตได้อีกด้วย

 

App manager : เป็นศูนย์รวมการจัดการแอพทั้งหมดที่อยู่ในเครื่องโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการย้ายข้อมูลแอพลง SD card ผ่านทาง “App mover”, การค่าแอพเริ่มต้นสำหรับงานต่างๆภายในเครื่องผ่านทาง “Default app settings,” การอนุญาตให้แอพเปิดเองได้อัตโนมัติผ่านทาง “Autostart manager” และการกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวและบริการต่างๆของแอพผ่านทาง “Authority manager”

 

Power manager : ใช้สำหรับตรวจสอบและจัดการการใช้พลังงานแบตเตอรี่ในงานส่วนต่างๆ โดยใน “General” เราสามารถดูได้ว่าแบตเตอรี่ถูกใช้ไปกับกิจกรรมใดมากที่สุด เช่น โทรศัพท์, ฟังเพลง, ดูวิดีโอ หรือเล่นเน็ต ถัดมาเป็น “Super saver” ระบบประหยัดพลังงานที่จะทำให้สมาร์ทโฟนกลับไปเป็นมือถือธรรมดา เพราะใช้โทร, sms และตั้งปลุกได้เท่านั้น ถัดมาอีกเป็น “CPU mode” ที่ให้เราปรับความเร็วของหน่วยประมวลผลเป็นแบบ Balanced ซึ่งเป็นค่าเริ่มต้นหรือแบบ Top speed ที่ให้ความเร็วแบบเต็มประสิทธิภาพ ส่วนตัวแนะนำให้เปิด Top speed ไว้เลย เปลืองแบตกว่ากันไม่มาก และสุดท้าย “Rank” เอาไว้ดูลำดับของแอพที่กินแบตเตอรี่มากที่สุด

 

Rejection : ใช้ในการจดบัญชีดำบล็อคเบอร์ที่เราไม่ต้องการรับสายหรือข้อความจากเบอร์นั้นได้เลย นอกจากนั้นหากต้องการความเป็นส่วนตัวมากๆก็ตั้งบัญชีขาว หรือ Whitelist เพื่อเลือกเฉพาะเบอร์ที่เราต้องการจะรับสายเท่านั้น เบอร์อื่นบล็อคหมด และยังสามารถกำหนดช่วงเวลาที่เราจะบล็อคเบอร์ได้อีกด้วย

 

Privacy : เป็นส่วนพิเศษที่เอาไว้เก็บข้อมูลลับหรือ ของลับ ที่เราไม่อยากให้ใครมาเปิดดูได้ นอกจากเราหรือคนที่รู้รหัสผ่านเท่านั้น โดยเมื่อเข้ามาในส่วนนี้ ระบบจะให้เราตั้งรหัสผ่านก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นเราก็สามารถเลือกรูปภาพ,วิดีโอ, เสียง หรือไฟล์ประเภทอื่นๆ เพื่อป้องกันการเข้าถึงด้วยรหัสผ่านได้ นอกจากไฟล์แล้วเรายังเลือกเบอร์โทรและแอพต่างๆ ให้มีการป้องกันด้วยรหัสผ่านได้เช่นกัน เหมาะสำหรับซุกกิ๊กเลยล่ะ

 

i Theme

แหล่งรวม Theme ของมือถือ vivo ที่ใช้ Funtouch OS ทั้งหมด มีหลายหลายรูปแบบให้เลือกสรรค์ แล้วแต่ความชอบและศรัทธากันเลย โดยเรายังสามารถจับเอา Wallpaper และ Icon จาก theme ต่างๆที่เราเคยโหลดเก็บไว้ในเครื่องแล้ว มาทำการ Mix-match พร้อมปรับรูปแบบการปลดล็อคและ effect ต่างๆภายในเครื่องได้เองอีกด้วย เหมือนสร้าง theme เองเลย

 

Smart motion

เป็นความสามารถในการตรวจจับการสัมผัสและการเคลื่อนไหวของโทรศัพท์เพื่อให้เกิดการทำงานบางอย่างได้ แต่ผมคงไม่อธิบายทั้งหมดว่ามีอะไรบ้าง เอาเฉพาะที่สำคัญๆและน่าสนใจดีกว่านะครับ

 

Smart wake

  • Black screen glance : เมื่อเราเอามือโบกผ่านหน้าจอตอนที่ดับอยู่ จะมีหน้าจอบอกเวลา, สายที่ไม่ได้รับ และข้อความที่ยังไม่อ่าน โผล่ขึ้นมาแวบหนึ่ง คล้ายๆกับ Glace screen ของ Windows Phone
  • Slide upward to unlock : ลากนิ้วขึ้นตอนหน้าจอดับจะเป็นการปลดล็อคเข้าใข้งานเลย
  • Slide downward to take a photo : ลากนิ้วลงเพื่อเปิดกล้องถ่ายรูป
  • Draw ‘c’ to wake dialer : วาดรูปตัว C เพื่อเข้าหน้ากดเบอร์โทร
  • Draw ‘m’ to play music : วาดรูปตัว m เพื่อเล่นเพลง

 

Smart light & unlock

  • Light screen when out of a pocket : หน้าจอจะติดเองเวลาเอามือถือออกจากกระเป๋า
  • Double click to light : แตะสองครั้งเพื่อเปิดหน้าจอ
  • Air unlock : เอามือโบกผ่านหน้า lockscreen จะเป็นการปลดล็อค
  • Smart keep bright : หน้าจอจะติดตลอดเวลาที่เรามองหน้าจออยู่ เหมือนกับ Smart stay ของ Samsung
 

ตัวอย่างการใช้งาน Smart motion

Play video

 

Super Screenshot

เป็นความสามารถประจำตัวของมือถือ vivo เลยทีเดียวสำหรับ Super Screenshot โดยเราสามารถจับภาพหน้าจอได้ 2 แบบ

  • Long screenshot เป็นการจับภาพหน้าจอแบบต่อเนื่องจากบนลงล่าง เอาไว้จับภาพหน้าจอตอนที่เปิดหน้าเว็บหรือเอกสารที่ยาวเกิน 1 หน้าจอแลัวต้องมีการ scroll down ลงไปเพื่อดูเนื้อหา หากใครเคยใช้ Snagit บนคอมพิวเตอร์จะเข้าใจการจับภาพหน้าจอแบบนี้
  • Funny screenshot จับภาพหน้าจอตามรูปทรงที่ต้องการได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นรูปสี่เหลี่ยม, วาดรูปทรงเอาเอง หรือระบายส่วนที่อยากจับภาพ ลองดูวิดีโอตัวอย่างเพื่อความเข้าใจนะครับ

Play video

 

เสียงเพลงที่ไพเราะ…

vivo Y28 นั้นถึงจะเป็นมือถือตลาดกลางค่อนไปทางราคาถูก แต่ vivo ก็ยังคงไม่ลืมเอกลักษณ์ของตัวเองด้วยการใส่ชิปเสียงเข้ามาเพื่อการฟังเพลงที่ไพเราะมากขึ้น เสียงที่ได้จาก vivo Y28 นั้นถือว่าอยู่ในระดับแถวหน้าของมือถือราคานี้ก็ว่าได้ โดยส่วนตัวผมเป็นคนชอบฟังเพลงผ่านหูฟังอยู่แล้วและก็รีวิวมือถือในช่วงราคานี้มาหลายรุ่น แต่รุ่นนี้คือที่สุดของพลังเสียงเท่าที่เคยฟังมาของช่วงราคานี้เลยทีเดียว เสียดายที่ไม่สามารถหาข้อมูลได้ว่าใช้ชิปเสียงอะไร แต่แค่ฟังก็รู้แล้วว่ามันดี ตรงนี้ถือเป็นจุดเด่นของมือถือรุ่นนี้เลย เสียงลำโพงของมือถือรุ่นนี้ก็ถือว่า เสียงดังและมีความชัดเจนดีเช่นกัน

 

กล้องหลังและกล้องหน้า

กล้องหลัง ของ vivo ถ่ายภาพนิ่งได้ที่ความละเอียดสูงสุด 8 ล้านพิกเซลในสัดส่วนแบบ 4:3 และความละเอียด 6 ล้านพิกเซลในแบบมุมกว้าง (wide) 16:9 กล้องตัวนี้ใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงขนาด F2.0 โหมดการถ่ายรูปนั้นมีให้ใช้ค่อนข้างครบทั้ง HDR, Face beauty, Panorama, Pose และ Micro video ที่เอาไว้ถ่ายวิดีโอสั้น 6 วินาทีเพื่อแชร์ใน Social Network เช่น Vine เป็นต้น นอกจากจากนั้นยังสามารถเปิดโหมด Pro สำหรับคนที่ต้องการปรับแบบ Manual เองทั้งหมดไม่ว่า EV, ISO, Shutter Speed, White ฺBalance, และ ระยะโฟกัส โดยหน้าตาจะคล้ายๆกับ Lumia camera อยู่เหมือนกัน

สำหรับการถ่ายรูปในที่แสงน้อยก็มีการชดเชยแสงให้อัตโนมัติ สำหรับคุณภาพของภาพที่ได้ดูได้จากรูปด้านล่างเลย ไม่มีการปรับแต่งใดๆทั้งสิ้น

 

 

 

สำหรับการถ่ายวิดีโอสามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด HD 1280 x 720P และ framerate ที่ 24 fps ภาพวิดีโอที่ได้ถือว่าชัดเจนดีไม่กระตุก โดยการถ่ายวิดีโอสามารถ Pause กลางทางแล้วถ่ายต่อได้ไม่จำเป็นต้องกด stop เพื่อบันทึกวิดีโอแล้วเริ่มถ่ายเป็น clip ใหม่ ตัวอย่างวิดีโออยู่ด้านล่างครับ

Play video

 

กล้องหน้า ของ vivo Y28 เป็นแบบ Fixed focus ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ถือว่าตอบรับกระแส Selfie ได้ดี คุณภาพของภาพถ่ายจากกล้องหน้าถือว่าดี มีโหมด Face beauty มาให้ขา Selfie สร้างภาพโดยเฉพาะ ผู้หญิงถ่ายมันก็ดูน่ารักนะครับ แต่ถ้าเป็นผู้ชายมันก็จะเป็นแบบด้านล่างนี่แหละ

 

ประสิทธิภาพและความอึด

ผลการวัดประสิทธิภาพ vivo Y28 ด้วยโปรแกรม benchmark ยอดนิยมอย่าง Antutu, PCMark และ 3DMark ต้องบอกว่าได้คะแนนไม่น้อยเลย อาจจะเป็นเพราะความละเอียดหน้าจอแค่ qHD และหน้าจอใหญ่เพียง 4.7 นิ้ว จากการใช้งานจริงพบว่า การใช้งานโดยทั่วไปลื่นไหลดี มีอาการสะดุดบ้างประปราย แต่การ scroll ในหน้า News feed ของ Facebook นั้นกระตุกชัดเจน ส่วนการดู Youtube ไม่มีปัญหาด้วยหน้าจอที่คมชัดและลำโพงที่เสียงดังฟังชัดให้อรรถรสได้ดีพอสมควร การเล่นเกมส์นั้นก็เล่นได้สบายๆไม่มีปัญหาอะไร

 

ในส่วนของแบตเตอรี่ 2100 mAh นั้นถือว่าเหลือๆสำหรับใช้งาน 1 วันสบายๆ โดยผมถอดสายชาร์จตอนเช้าใช้งานเรื่อยๆตามชีวิตประจำวันคือ Social, ถ่ายรูป และ ฟังเพลง จนกลับถึงบ้านเวลาผ่านไปประมาณ 18 ชั่วโมง พบว่ามีแบตเตอรี่เหลืออยู่ถึง 18% ส่วนพื้นที่หน่วยความจำ 8GB นั้นก็มีเหลือให้ใช้งานแค่ประมาณ 2.69GB ถือว่าน้อยพอสมควร เพราะมีการแบ่ง Partition ให้ System ไปถึง 4.20GB ดังนั้นควรจะมี SD Card ไว้ใช้งานเพิ่มเติมด้วยครับ

 

สรุปข้อดีและข้อเสีย

ข้อดี

● งานประกอบดีแน่นหนา

● มีชิปเสียงแยกฟังเพลงเพราะ

● แบตเตอรี่อึดข้ามวันสบาย

● กล้องมีโหมด Pro สำหรับขา Manual

● ลำโพงเสียงดี

ข้อเสีย

● สเปกล้าหลังกว่าคู่แข่ง

● Android 4.2.2 Jelly Bean

● เครื่องมีน้ำหนักพอสมควร

● ผิวเคลือบมันทำให้เก็บรอยนิ้วมือ


ส่งท้าย

vivo Y28 ดูสเปกปราดแรกเทียบกับราคาแล้วอาจจะคิดว่า ทำไมถึงกล้าขายราคานี้? CPU มาตรฐาน แต่ RAM 1GB และ ROM เพียง 8GB ดูจะไม่เพียงพอต่อมือถือราคาเกือบ 7 พันบาท แถม OS ยังอยู่บน Android 4.2.2 Jelly Bean ซึ่งถือว่าตกไป 2 รุ่นแล้ว นี่อาจจะเป็นจุดที่หลายคนเมินหน้าหนีมือถือรุ่นนี้ไป แต่จากการใช้งานเป็นเวลาพอสมควร ผมพบว่ามือถือรุ่นนี้มีส่วนดีที่สามารถชดเชยความล้าหลังหลายๆอย่างของสเปกออกไป Funtouch OS นั้นเป็น OS ที่ผ่านการปรับปรุงและมีอายุในตลาดมาแล้วพอสมควร ประสบการณ์ใช้งานที่ได้รับถือว่าดีและสนุกเหมือนกับชื่อของมัน โดยเฉพาะความลื่นไหลนั้นทำได้ดีเกินคาด ฟีเจอร์หลายอย่างที่อัดแน่นมาให้ใช้งาน และหลายอย่างก็ใช้งานได้ดี นอกจากนั้นการฟังเพลงบนมือถือรุ่นนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่สุดยอด คุณภาพเสียงนั้นหายห่วง จนผมเองคิดว่าซื้อมันมาเป็น MP3 Player ที่เล่นอินเตอร์เน็ตได้ ยังคุ้มเลย ก็ต้องลองช่างน้ำหนักกันดู แต่จริงๆ เพิ่มเงินอีก 3000 บาทไปซื้อ vivo Y27 ที่สเปกดีกว่าและ OS ใหม่กว่าก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเหมือนกัน วันนี้ลากันแค่นี้ก่อน พบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ