วันนี้ทาง Samsung ได้เปิดตัวบริการ Samsung Pay ในงาน Thailand Mobile Expo กันไปเรียบร้อยแล้ว หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้จักมันสักเท่าไหร่ หรือเคยได้ยินมาผ่านๆแต่ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจถ้าจะให้ใช้งาน วันนี้เลยขอเอามาเล่าให้ฟังกันแบบละเอียดว่าบริการนี้จะช่วยลดปัญหาความยุ่งยากของการพกบัตรเครดิตที่ทำให้กระเป๋าตังค์ตุงกันได้อย่างไร และมันปลอดภัยแค่ไหนถ้าจะใช้มัน

Samsung Pay คืออะไร

เป็นบริการของทาง Samsung ที่ทำมาให้ผู้ใช้ Samsung Galaxy สามารถนำเอาบัตรเครดิตที่มีอยู่ บันทึกลงในโทรศัพท์ แล้วนำเอาไปใช้จ่ายตามร้านค้าทั่วไปที่มีเครื่องรูดการ์ด EDC ได้เลย ทั้งแบบใช้บัตรรูดหรือแบบ NFC ทำให้เราไม่ต้องพกบัตรแข็งอีกต่อไป จากการทดสอบของทีมดูแลงาน สามารถใช้กับเครื่องรูดต่างๆได้มากกว่า 99% หรือแทบทุกเครื่องในประเทศเลยนั่นเอง ซึ่งการมีอุปกรณ์รองรับนี้เองเป็นจุดแข็งของ Samsung Pay ที่เหนือกว่าคู่แข่งอย่าง Apple Pay หรือ Android Pay ในทุกๆทาง

Play video

Samsung Pay ทำงานอย่างไร?

เครื่องรูดการ์ด EDC ที่เราเห็นอยู่ตามร้านค้านั้น เวลาทำการรูดการ์ดผ่านช่องไปจะมีการส่งข้อมูลผ่านแถบแม่เหล็กไป ซึ่งทาง Samsung ได้มีเทคโนโลยีที่จะสามารถจำลองคลื่นแม่เหล็กนี้ได้เช่นเดียวกันอยู่ในโทรศ้พท์ เรียกว่า Magnetic Secure Transmission (MST) ทำให้สามารถส่งข้อมูลบัตรของเราเข้าไปแทนการรูดได้เลยทันที ส่วนเครื่องรูดแบบ NFC ก็เช่นเดียวกัน ตัว Samsung Galaxy รุ่นที่รองรับนั้น ก็มี NFC มาให้แล้วในเครื่อง พร้อมแตะและจ่ายเงินได้ทันที นอกจากนี้ Samsung Pay ยังสามารถใช้งานกับเครื่องรูด mPOS ที่เสียบกับโทรศัพท์ได้อีกด้วยนะ

ตัวอย่างเครื่อง mPOS ของทางกรุงศรีฯที่เริ่มนิยมใช้กัน ก็รองรับ Samsung Pay นะ

ข้อมูลน่ารู้ ปัจจุบันประเทศไทยมี EDC ราว 4 แสนเครื่องทั่วประเทศ ราว 94% เป็นระบบ magnetic และอีก 6% เป็น NFC ซึ่ง Samsung Pay พร้อมใช้งานได้เกือบ 100% ส่วนในอนาคตหากระบบของ Apple Pay จะเข้ามาในไทย จะใช้งานได้กับเครื่องที่เป็น NFC เท่านั้นนะ อิอิ

[updated 30/9/16] แก้ไขภาพ mPOS นะครับ ก่อนหน้านี้แปะรูปของเครื่องกสิกร ซึ่งไม่รองรับ Samsung Pay เพราะอ่านข้อมูลจากชิปบนบัตรได้อย่างเดียว ซึ่ง Samsung Pay จะรองรับเพียง Magstripe และ NFC เท่านั้น โดยภาพใหม่ของทางกรุงศรีฯนี้จะรองรับทั้งชิปและ Magstripe ครับ

Samsung Pay ใช้งานยากรึเปล่า

ใช้งานง่ายมาก แค่รออัพเดทผ่าน FOTA แล้วตัวเครื่องจะมีแอป Samsung Pay ให้ทันที จากนั้นก็แค่กรอกข้อมูลบัตรพร้อมยืนยันตัวตน แต่ก็รัดกุมพอที่จะปกป้องไม่ให้ถูกแฮกหรือโจรกรรมข้อมูลไปได้ง่ายๆนะ ลองดูวิธีได้จากคลิปนี้เลยครับ

Play video

1. ดาวน์โหลด Samsung Pay จาก Google Pay เครื่องจะได้รับอัพเดท FOTA มาที่เครื่องโดยตรง

2. ล็อคอินเครื่องด้วย Samsung Account

3. ล็อคเครื่องด้วย Fingerprint และใส่ Backup Password

4. เลือก PIN สำหรับใช้คู่กับ Fingerprint

5. ถ่ายรูปบัตรเครดิตเพื่อยืนยัน

6. ยืนยันข้อมูลที่ระบบอ่านได้จากบัตรเครดิต พร้อมกรอกรหัส CVC

7. ขอ OTP ยืนยันตัวตนผ่าน SMS/Email/Call Bank ตามข้อมูลที่ให้ไว้กับธนาคาร

8. หลังจากใส่ข้อมูลเรียบร้อย อีกไม่กี่นาทีบัตรก็พร้อมใช้ทันที

หากเกิดปัญหาในเรื่องของการยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิต เช่น เพิ่มไม่ได้ ข้อมูลไม่ตรง ฯลฯ ตรงนี้จะไม่ใช่ปัญหาของทางแอปแต่เราอาจต้องติดต่อทางธนาคารอีกทีนะครับ อาจจะโดนล็อคเอาไว้อยู่หรือติดอะไรสักอย่างอยู่

หากต้องการเลิกใช้งานก็สามารถกดลบจากในแอปได้ทันที และไม่มีผลกระทบอะไรต่อบัตรพลาสติกที่ใช้อยู่แต่อย่างใด

*เพิ่มเติม* ผู้ใช้ในไทยไม่ต้องดาวน์โหลด Samsung Pay จาก Play Store นะครับ แต่ทาง Samsung จะทำการพุชตัวแอปผ่าน FOTA มาให้ในเครื่องเลย เพื่อความปลอดภัย และจำกัดเครื่องที่สามารถใช้ได้อย่างแม่นยำนั่นเองครับ

 

วิธีใช้งาน Samsung Pay กับเครื่องรูดบัตรตามร้านต่างๆ

หลังจากเราโหลดและลงทะเบียนบัตรเรียบร้อยแล้ว ตัวแอปจะมีการสร้างทางลัดให้เวลาจะใช้งานก็แค่รูดจากขอบหน้าจอล่างขึ้นมาก็จะเข้าแอปไปให้เลือกบัตรเครดิตที่ต้องการ และยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือหรือ PIN ก็พร้อมจ่ายทันที โดยเราต้องเอา Samsung Galaxy ของเราไปแตะหรือวางใกล้ๆเครื่อง EDC เท่านั้น ระยะทำการจะอยู่ที่ 0-6 เซนติเมตร ซึ่งหลังจากที่เครื่องได้รับสัญญานเรียบร้อย ตัวเครื่องก็จะพิมพ์สลิปออกมาให้เราเซ็นตามปกติ เหมือนกับใช้การ์ดรูดทั่วไปเลย (จะไม่เหมือนกับในคลิปของอเมริกานะ บ้านเค้าไม่ค่อยมีการพิมพ์สลิปออกมาให้เซ็นแล้ว)

Play video

ใช้ Samsung Pay แล้วลำบากกว่าเดิม? ไม่สามารถให้บัตรเด็กที่ร้านเอาไปรูดได้?

บางที่ก็ลำบากกว่าเดิมเพราะให้บัตรไปไม่ได้ บางที่ก็สะดวกขึ้นเพราะยกมือถือขึ้นมาแตะได้ทันที

ขอเสริม สำหรับพวกร้านอาหาร หรือที่ต้องให้พนักงานเอาไปรูดจะบอกว่าให้เอาโทรศัพท์ไปทั้งเครื่องก็ดูจะไม่เหมาะ แต่เอาจริงๆแล้วระเบียบปฎิบัติในประเทศไทย ที่เอาบัตรเครดิตให้เด็กเอาไปรูดนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควรสักเท่าไหร่นะครับ เพราะถ้าคนเหล่านั้นมีการเก็บข้อมูลของบัตรทั้งเลข 16 หลัก วันที่หมดอายุ ชื่อบนหน้าบัตร และเลข CCV ด้านหลังไป ก็เท่ากับว่าเค้าสามารถใช้บัตรเครดิตของเราได้ทันทีเลย หนักเข้าไปใหญ่คือบางร้านมีการพิมพ์เลขบัตรเครดิตของลูกค้าเก็บเอาไว้ในฐานข้อมูลที่ไม่มีการเข้ารหัสอีกต่างหาก โดนแฮกหรือพนักงานทุจริตขึ้นมานี่เจ๊งกันเป็นแถบๆแน่นอน ถ้าเป็นที่อเมริการ้านค้าจะเลี่ยงปัญหาโดยการให้ลูกค้าเป็นคนเสียบบัตรดำเนินการทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมด พนักงานไม่มีโอกาสสัมผัสบัตรเครดิตเลยเสียด้วยซ้ำไป เอาว่าจริงๆผมไม่ค่อยสนับสนุนการจ่ายด้วยบัตรแบบบ้านเราสักเท่าไหร่นัก แต่ก็เลี่ยงไม่ได้มากกว่า ถ้าจ่ายแบบ Samsung Pay แพร่หลายขึ้นมาจริงๆก็อยากเลือกจ่ายแบบเดินไปแตะแล้วจบเลยนะ

มาดูรายละเอียดเงื่อนไขการใช้งานของ Samsung Pay ที่น่ารู้กันสักหน่อย

Samsung Galaxy รุ่นที่รองรับการใช้งาน Samsung Pay

ปัจจุบันมีรุ่นที่รองรับการใช้งานอยู่ทั้งหมด

  1. Samsung Galaxy A5 (2016)

  2. Samsung Galaxy A7 (2016)

  3. Samsung Galaxy A9 Pro

  4. Samsung Galaxy S6 Edge Plus

  5. Samsung Galaxy S7

  6. Samsung Galaxy S7 Edge

  7. Samsung Galaxy Note 5

  8. Samsung Galaxy Note 7

ข่าวร้ายนิดหน่อยคือ Samsung Galaxy S6 และ S6 Edge ที่ขายในไทย ไม่รองรับ Samsung Pay เช่นเดียวกับที่อเมริกานะครับ เพราะไม่มี MST Module (เค้าแจ้งมาว่างี้)

เอามาทดสอบลองเล่นให้ดูนะ ว่ามันใช้งานได้แล้ว

Play video

ธนาคารใดรองรับ Samsung Pay บ้างและรองรับบัตรสูงสุดได้กี่ใบ

ปัจจุบันทาง Samsung ประเทศไทยได้แจ้งว่ามีบัตรเครดิตของ 6 ธนาคารที่พร้อมใช้งาน Samsung แล้ว ได้แก่

  1. BBL

  2. Citibank

  3. KBANK

  4. KRUNGSRI

  5. KTC

  6. SCB

ทั้ง VISA และ Master และจะมีเพิ่มอีกในอนาคตแน่นอน โดยตัวแอป Samsung Pay สามารถเพิ่มบัตรเครดิตได้สูงสุด 10 ใบ และเราสามารถเอาบัตรเดียวกันนี้ไปล็อคอินในหลายๆเครื่องก็ได้ (ขึ้นกับนโยบายของแต่ละธนาคาร ทุกธนาคารได้สามเครื่องสูงสุด ยกเว้น KBANK ที่ให้แค่เครื่องเดียวเท่านั้น) แต่จริงๆก็แนะนำให้ใช้เป็นบัตรเสริมไปจะสะดวกและควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีกว่า

ใช้ได้แต่บัตรเครดิตเท่านั้น เดบิตยังไม่ได้

สำหรับคนที่สนใจจะใช้บัตรเดบิตจาก VISA หรือ MASTER ต้องรอกันอีกสักพักนะครับ ยังมีปัญหาเรื่องระบบกันอยู่ ใช้การยืนยันตัวตนคนละวิธีกัน รวมถึงเหล่าบัตรจากแอพ Wallet เช่น WeCard ก็ยังต้องรอต่อไป แต่มีแผนที่จะเปิดให้ใช้งานได้ในอนาคตเช่นกัน

ตรวจสอบรายการใช้จ่ายผ่าน Samsung Pay ได้อย่างไร

ในตัวแอป Samsung Pay จะมีการเก็บบันทึกข้อมูลใช้จ่าย 10 รายการล่าสุดของบัตรแต่ละใบเอาไว้ (รวมสูงสุด 100 รายการ) หากต้องการตรวจสอบเพิ่มเติม สามารถดูได้จากสลิปของบัตรได้สังเกตจากท้ายหมายเลขบัตรเวลาที่จ่ายผ่าน Samsung Pay ใบนั้นๆจะมีตัว S ขึ้นมาให้ ส่วนใน Statement เดี๋ยวรอยืนยันอีกทีว่าจะมีการแจ้งยังไงนะ

มีตัว S ขึ้นด้านท้ายแบบนี้

ร้านค้าพร้อมสำหรับ Samsung Pay ขนาดไหน

ร้านที่มีเครื่องรูด EDC อยู่แล้ว ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติมแล้ สามารถรองรับคนใช้ Samsung Pay ได้เลยทันที แต่ว่าในช่วงแรกอาจจะมีการงงกันเล็กน้อย หากพนักงานที่ร้านยังไม่รู้จัก แล้วเราเอาเครื่อง Samsung Galaxy ไปแตะจ่ายเงิน มีสลิปออกมาได้ เค้าอาจจะช็อคและหาว่าเราเป็นมิจฉาชีพได้นะ (ฮา) ซึ่งคงต้องดูว่าทาง Samsung และธนาคารต่างๆเค้าจะประชาสัมพันธ์ได้ดีแค่ไหนครับ

หากต้องการวอยด์ (Void) รายการที่อาจจะทำพลาดหรือคืนสินค้า ร้านก็สามารถทำได้ตามกระบวนการปกติเลย ไม่ได้มีอะไรวุ่นวายเพิ่มเติมนะ

กด void ได้เหมือนเดิมนะ

ปล. สำหรับร้านอาหาร หรือร้านที่ต้องรับบัตรเครดิตจากลูกค้ามารูด ยังไงลองสอบถามทางแบงค์ดูละกันว่าจะขอเปลี่ยนเครื่อง EDC เป็นแบบไร้สายใช้แบตเตอรี่ได้รึเปล่า เผื่อว่าจะยกมาให้ลูกค้าจ่ายเงินที่โต๊ะได้ง่ายๆเร็วๆไปเลย ดูไฮโซขึ้นอีกมากมาย 😛

ปล.2 การใช้งาน Samsung Pay จะไม่มีการชาร์จเปอร์เซนต์เพิ่มเติมแต่อย่างใ ร้านโดนหักค่ารูดจากเครื่องเท่าไหร่ก็จะโดนเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

Samsung Pay ปลอดภัยแค่ไหน เชื่อถือได้รึเปล่า?

เอาล่ะ เข้ามาถึงเรื่องที่หลายๆคนน่าจะอยากรู้มากที่สุด และเป็นประเด็นเลยว่าจะใช้หรือไม่ใช้งาน เดี๋ยวผมจะสรุปเป็นข้อให้อ่านจะได้เข้าใจง่ายๆละกัน

ข้อมูลบัตรไม่ได้เก็บที่เครื่อง

ที่เห็นๆในคลิปว่ามันขึ้นภาพบัตรเครดิตขึ้นมานั้น เลข 16 หลักบนบัตรจะเป็นคนละเลขกับบัตรแข็งที่เราใช้อยู่ เพราะตัว Samsung Pay และ VISA Master จะทำการสร้างเลขชุดใหม่ขึ้นมาเรียกว่า Device Card Number เพื่อใช้งานกับแอปโดยเฉพาะเลย ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาส่องเอาเลขชุดนี้ไปใช้งานได้ ซึ่งถ้าเราเอาบัตรเดิมนี้ ไปใช้งานหลายเครื่อง ตัว Device Card Number ของแต่ละเครื่อง ก็จะเป็นเลขคนละชุดกันอีกด้วย

ข้อมูลต่างๆที่เรากรอกเพื่อลงทะเบียนไปนั้น ก็ไม่ได้มีการเก็บเอาไว้ในเครื่อง แต่ทำการส่งไปให้ทางธนาคารเป็นคนเก็บเอาไว้เพื่อยืนยันตัวตนแทน

ยืนยันตัวตนแบบ Tokenization ปลอดภัยได้มาตรฐาน

เมื่อเรากดยืนยันในแอปว่าต้องการใช้จ่าย ตัวแอปจะทำการสร้างชุดข้อมูลขึ้นมาจากข้อมูลในบัตรและรายละเอียดการใช้จ่าย เข้ารหัสข้อมูลชุดนี้แล้วส่งไปให้ทาง VISA Master ตรวจสอบและถอดรหัส ก่อนส่งไปให้ทางธนาคารตรวจสอบข้อมูล ว่าบัตรใช้งานได้จริง วงเงินไม่เต็ม ฯลฯ ซึ่งข้อมูลที่เข้ารหัสก่อนส่งไป VISA Master ตัวนี้จะมีอายุการใช้งานเพียง 30 วินาทีหลังจากที่สร้างขึ้นมาแล้วเท่านั้น เราเรียกระแบบแบบนี้ว่า Tokenization ซึ่งจริงๆมีอยู่หลายรูปแบบ ที่ Samsung Pay ใช้นี้เป็นของทาง VISA และ Master ที่เคลมว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในเวลานี้

ชิป Samsung Knox ช่วยเสริมความปลอดภัย

ถ้าใครกลัวว่าหากเครื่อง Samsung Galaxy ที่ใช้อยู่นั้น จะโดนจับเอาไปรูท หรือมีมัลแวร์แฮกข้อมูลไปได้นั้น ทาง Samsung ได้มีชิปเซท Secure Environment บนเครื่อง Galaxy ทุกเครื่องที่รองรับ ซึ่งชิปนี้ทำหน้าที่เป็นที่เก็บข้อมูลรวมถึงฟิวส์ หากพบว่ามีการรูทหรือกำลังได้รับการคุมคาก ตัวชิปนี้จะตัดการทำงาน และลบข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญ เช่น ลายนิ้วมือ ทิ้งให้ทันที รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับ Samsung Pay โดยไม่สามารถกู้คืนได้อีก ซึ่งหน่วยงานต่างๆในอเมริกาก็ออกมายอมรับในเรื่องความปลอดภัยของ Samsung Knox กันพอสมควร

ดังนั้นหากเครื่อง Samsung Galaxy ของใครผ่านการ Root มาแล้วล่ะก็ หมดสิทธิ์ที่จะใช้งาน Samsung Pay ไปโดยปริยายนะครับ ต้องเปลี่ยน Mainboard ใหม่เท่านั้น

เครื่องหายทำอย่างไร? สามารถสั่งลบ Samsung Pay จากเครื่องอื่นได้หรือไม่

วิธีที่ง่ายและปลอดภัยที่สุดเมื่อเครื่องหาย คือ โทรไปยังธนาคารและขอยกเลิกการผูกบัตรกับ Samsung Pay ซึ่งวิธีนี้ตัวบัตรแข็งจะยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ เมื่อเราซื้อเครื่องใหม่มาหรือตามเครื่องคืนมาได้ เราก็สามารถเอาบัตรเครดิตเติมมาผูกเข้าไปซ้ำได้อีกครั้งทันที

วิธีที่สองคือเราสามารถล็อคอินเข้าไปที่ Find my mobile เพื่อทำการสั่งล็อคเครื่อง และลบข้อมูล Samsung Pay ออกได้ทันที โดยตัว Find my mobile นี้สามารถสั่งติดตามเครื่องได้ด้วยว่าอยู่บริเวณไหนอย่างไร มีโอกาสตามเครื่องเจอสูงขึ้นกว่าเดิม

Find my mobile เว็บตามหาเครื่องและสั่งงานทางไกลของ Samsung

มีโอกาสได้เห็น Samsung Pay ในเครื่องยี่ห้ออื่นหรือไม่

จากที่บอกไปว่า Samsung Pay ต้องการฮาร์ดแวร์เข้ามาคุมเรื่องความปลอดภัยด้วย ซึ่งเป็นของเฉพาะ Samsung เท่านั้น ดังนั้นการที่จะได้เห็นแบรนด์อื่นเอาไปใช้ก็ต้องดูว่ามีแบรนด์ไหนที่ Samsung จะยอมเจรจาให้เอาไปใช้ได้…หรืออาจจะไม่มีเลย เก็บเอาไว้เป็นฟีเจอร์เฉพาะแต่ Samsung Galaxy ก็เป็นได้นะ

 

เรื่องน่ารู้อื่นๆเกี่ยวกับ Samsung Pay

  • ประเทศไทยเป็นประเทศแรกๆในโลกที่ได้ใช้ Samsung Pay ก่อนหน้านี้มีเพียง เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา จีน สเปค สิงคโปร์ ออสเตรเลีย เปอร์โตริโก และบราซิล เท่านั้น

  • เปิดใช้บริการครบ 1 ปี มีการธุรกรรมผ่าน Samsung Pay ไปแล้วกว่า 100 ล้านครั้ง

  • มีธนาคารและผู้ประกอบการเข้าร่วมกว่า 440 แห่ง และเพิ่มขึ้นอีกเรื่อย

  • Samsung Pay ไม่ใช่บัตรเครดิต แต่เป็น platform ที่ช่วยลิ้งค์ระหว่างมือถือและระบบของธนาคาร ซึ่ง Samsung ไม่เก็บค่าธรรมเนียม และไม่เก็บข้อมูลบัตร ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัว ไม่เก็บข้อมูลการชำระเงิน ทั้งบนเซิร์ฟเวอร์หรือบนโทรศัพท์มือถือ ข้อมูลการชำระเงินทั้งหมดจะถูกจัดการผ่านเครือข่ายของบัตรและธนาคารผู้ออกบัตร โทรศัพท์มือถือจะทำการเก็บข้อมูล Token เฉพาะของอุปกรณ์นั้นๆ เท่านั้น

 

จะได้ใช้งาน Samsung Pay เมื่อไหร่

Samsung Pay ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบระยะสุดท้าย (Open Beta Test)  ก่อนเปิดให้ใช้งานจริงสำหรับคนทั่วไป ระหว่างนี้ถ้าใครสนใจอยากลองใช้ก่อนใครเพื่อน สามารถเข้าไปลงทะเบียนขอเป็นกลุ่มแรกที่ได้ทดสอบที่ www.samsung.com/th/samsungpay ได้เลยครับ โดยจะมีโปรโมชั่นใช้จ่ายผ่าน ซัมซุง เพย์ สูงสุด 3,000 คนแรก จะได้ซัมซุงแบตเตอรี่แพ็ค มูลค่า 1,590 บาทโดยคนที่ลงทะเบียนนี้จะได้เริ่มใช้งานในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ทันที แต่จะจำกัดธนาคารและบัตรเล็กน้อย และเครื่อง Galaxy A9 Pro จะยังใช้ไม่ได้นะ

บัตรที่ใช้ได้ในช่วง OBT

– KBANK (Visa Only)

– SCB (Master Only)

– Citi (Visa & Master)

– KTC (Visa & Master)