สำหรับมือถือราคาประหยัดในช่วงนี้ Wiko ถือว่าเป็นแบรนด์นึงได้รับความนิยมมากๆ ในบ้านเราเลยทีเดียว ด้วยราคาที่สุดแสนจะเป็นมิตร วัสดุและการดีไซน์ที่ดูดีมีชาติตระกูล บวกกับสเปคที่ถึงจะเป็นสเปคระดับมือถือรุ่นประหยัด แต่สามารถใช้งานทั่วไปได้สบายๆ ไม่หงุดหงิดเลยล่ะ และวันนี้เราก็ได้ Wiko View 2 Plus ราคาไม่ถึง 5,000 มารีวิวให้ดูกัน ว่ามันเป็นยังไงบ้าง

Wiko View 2 Plus เปิดตัวในบ้านเรามาในราคาเพียง 4,990 บาท เท่านั้นเอง และแน่นอนว่ามันเป็นมือถือ Android ที่สามารถใช้งานทั่วไปได้แบบลื่นๆ แม้สเปคจะไม่แรงเหมือนกับมือถือระดับหมื่นบาทก็ตาม โดยทาง Wiko ได้มีการเปลี่ยนมาใช้ UI สไตล์ Pure Android เพื่อให้สามารถใช้งานได้ลื่นขึ้น

ตัวเครื่องและดีไซน์

สำหรับ Wiko View 2 Plus ตัวที่ได้มารีวิวนี้ เป็นสี Lavender Bleen แบบไล่เฉดคล้ายๆ กับ Huawei P20 Pro มีวัสดุฝาหลังเป็นพลาสติก แต่ก็ไม่ได้ดูกิ๊กก๊อกอะไรเลย (เอาจริงๆ คือสีมันวิบวับสวยดีด้วย) แต่เนื่องจากมันเป็นพลาสติกสีมันวาว ก็เลยทำให้มันเป็นรอยนิ้วมือง่ายสุดๆ โชคดีที่ในกล่องมีเคสใสแถมมาให้ด้วย ก็เลยตัดปัญหาส่วนนี้ไปได้บ้าง

รอบๆ เครื่องก็ไม่มีอะไรมากมาย มีปุ่ม Power และปุ่มปรับเสียงอยู่ฝั่งเดียวกันทางด้านขวา, ด้านบนเครื่องมีรูหูฟัง 3.5 มม., ด้านล่างก็เป็นช่อง MicroUSB, ถาดใส่ซิมจะอยู่ที่ด้านซ้าย ซึ่งเป็นถาดแบบมีช่องให้ใส่ได้ทั้ง SIM 2 ช่อง และช่องใส่ MicroSD Card  อีก 1 ช่อง ส่วนด้านหลังก็จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

 

Software และ UI

เนื่องจาก Wiko View 2 Plus เป็นมือถือ Pure Android ทำให้มันมีหน้าตาที่แสนจะแอนดร๊อยแอนดรอยเลยล่ะ ไม่มีแอปไร้สาระที่เราไม่ได้ใช้งานใส่มาให้รกเครื่องเลย แต่ก็จะมี Wiko Launcher ติดมาให้ สำหรับลูกเล่นนิดๆ หน่อยๆ อย่างพวก Gesture ใช้ 3 นิ้ว รูดบนหน้าจอเพื่อแคปภาพได้ อะไรประมาณนี้

ประสิทธิภาพการใช้งานและเล่นเกม

ถึงแม้ว่า Wiko View 2 Plus จะใช้แค่ชิป Snapdragon 450 ซึ่งเป็นชิปตัวท็อปในซีรี่ส์ 4xx ซึ่งสามารถใช้งานทั่วไปได้สบายๆ ทั้งดูไฟล์หนัง สตรีมหนัง เล่นโซเชียล เล่นเว็บ ฟังเพลง ฯลฯ ไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น ในการทดสอบได้คะแนน AnTuTu ไปถึง 71033 คะแนน

ส่วนประสิทธิภาพการเล่นเกมยอดฮิตอย่าง ROV ถ้าอยากจะเล่นลื่นๆ ก็ต้องปรับกราฟฟิคลงมานิดนึง ส่วนระบบทัชในเกมเหมือนจะมีปัญหาหน่อยๆ บางทีเดินๆ อยู่ ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทัชตรงนิ้วโป้งซ้ายหลุด ยืนนิ่งให้ศัตรูตบฟรีเฉยเลย (แล้วเป็นหลายทีด้วย) แต่ที่งงคือเหมือนจะเป็นกับเกมนี้เกมเดียว

เกมกราฟฟิคโหดอย่าง PUBG ก็เล่นได้ แต่แน่นอนว่าอย่าไปหวังว่ามันจะปรับกราฟฟิคสูงได้ ต้องปรับเป็นกราฟฟิคแบบสมดุลเอาก็จะเล่นได้ลื่นๆ สบายแฮ

แต่แปลกที่เกมภาพงามอย่าง Maze : Shadow of Light สามารถปรับกราฟฟิคเป็นระดับสูงได้ และยังสามารถเล่นได้แบบลื่นๆ เลยด้วย ระบบทัชก็ไม่มีปัญหาอีกต่างหาก (งงเลย)

กล้องถ่ายรูปและวิดีโอ

กล้องหลังคู่ของ Wiko View 2 Plus ที่ให้มา 2 ตัว ความละเอียด 12MP + 5MP ถือว่าถ่ายออกมาได้คุณภาพที่โอเคเลยล่ะสำหรับมือถือราคาระดับนี้ แต่ถ้าเกิดเป็นช่วงกลางคืนหรือที่แสงน้อย ก็ต้องมือนิ่งกันนิดนึงเพราะโฟกัสจะช้าลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนภาพที่ออกมาก็พอใช้ได้ noise แน่นอนว่าต้องมี แต่จะเห็นได้ชัดก็ตอนแสงน้อย แต่ก็ไม่เยอะจนน่าเกลียด ส่วนโทนสีของภาพนั้นอาจจะจืดๆ นิดๆ

โหมดหน้าชัดหลังเบลอก็ถือว่าทำได้ดีพอตัว ตัดฉากหลังเนียนใช้ได้เหมือนกัน

ส่วนกล้องหน้าขนาด 8MP ก็มีโหมด Beauty ที่สามารถปรับได้ถึง 100 ระดับ, โหมด Camera Fun ให้ใส่สติ๊กเกอร์ดุ๊กดิ๊กๆ เล่นได้ และยังมีโหมดหน้าชัดหลังเบลอที่เนียนใช้ได้เลยล่ะ

โหมดการถ่ายวิดีโอของ Wiko View 2 Plus ยังมีโหมด Stabilizer หรือโหมดกันสั่นมาให้ด้วย (กดเปิดตรงริมซ้าย ที่เป็นรูปสามเหลี่ยม) ถึงแม้ว่าจะไม่ได้กันสั่นได้เนียนเท่ากล้องมือถือระดับสูง คือเดินถ่ายนี่พอไหว แต่วิ่งถ่ายนี่จะเห็นคลื่นๆ ในภาพเลย

Play video

เปิด Stabilizer

Play video

ปิด Stabilizer

นอกจากนี้ยังมีโหมด Auto Zoom (กดเปิดตรงที่เป็นรูปคน) ที่เราสามารถใช้นิ้วลากเส้นล้อมรอบวัตถุที่ต้องการ แล้วกล้องจะคอยซูมและจับโฟกัสที่วัตถุนั้นแบบอัตโนมัติ (จนกว่าวัตถุนั้นจะออกไปไกลเกินระยะที่ซูม) ก็ถือว่าเป็นลูกเล่นสนุกๆ ที่ติดมาให้ด้วย

Play video

Autozoom

โหมด Slow Motion ก็มีมาให้เล่นด้วยนะ โดยสามารถถ่ายได้ที่ความละเอียด 720p

Play video

Slowmotion

ระบบสแกนหน้าปลดล็อคเครื่อง

ระบบสแกนหน้าแบบ 2 มิติ ด้วยกล้องเซลฟี่ ก็ถือว่าแม่นยำ และรวดเร็วใช้ได้ จากที่ทดลองบันทึกใบหน้าไว้ตอนแรกแบบหน้าเปล่าๆ ไม่ได้ใส่แว่น แต่พอตอนปลดล็อค ลองใส่แว่นเอาไว้มันก็ยังจำหน้าได้และปลดล็อคให้ด้วย (ลองใช้หน้าคนอื่นมันก็ไม่ปลดให้นะ) แต่ถึงยังไง ถ้าใครที่มีข้อมูลสำคัญอยู่ในเครื่องก็แนะนำว่าให้ใช้การปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือจะปลอดภัยกว่า

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่ขนาด 4000 mAh ที่ให้มานี้ ถือว่าเหลือเฟือสุดๆ เลย ถ้าหากเทียบกับสเปคของ Wiko View 2 Plus ที่ใช้ชิป Snapdragon 450 และหน้าจอความละเอียด HD+ เพราะจากการทดสอบดูวิดีโอจาก YouTube ผ่าน WiFi ความสว่างหน้าจอประมาณ 70% และเสียบหูฟังดูคลิปมาราธอนยาวประมาณ 8 ชม. เกือบครึ่ง พบว่าแบตเตอรี่ยังเหลือถึง 66% เลยทีเดียว ถ้าเอามาใช้งานทั่วๆ ไป คาดว่าน่าจะอยู่ได้ 2 วันสบายๆ

สเปค Wiko View 2 Plus

  • หน้าจอขนาด 5.93 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1512 x 720)
  • CPU : Snapdragon 450
  • GPU : Adreno 506
  • RAM : 3GB
  • ความจุ : 32GB รองรับ MicroSD Card 256GB (ช่องแยก)
  • กล้องหลังคู่ : 12MP + 5MP
  • กล้องหน้า : 8MP
  • มีวิทยุ FM
  • มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • เซ็นเซอร์ : Accelerometer, Magnetic Sensor, Gyroscope, Proximity Sensor, Fingerprint (ด้านหลัง)
  • การเชื่อมต่อ : WiFi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.2, MicroUSB 2.0
  • สแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่อง (2D)
  • แบตเตอรี่ : 4000 mAh
  • ระบบ Android 8.1
  • ราคาเปิดตัว 4,990 บาท

สรุป

Wiko View 2 Plus เป็นมือถือ Android ราคาประหยัดที่ครบเครื่องรุ่นนึง ทั้งการใช้งานทั่วไป ถ่ายรูป เล่นเกม หรือด้านบันเทิงต่างๆ แถมด้วยแบตเตอรี่ขนาด 4000 mAh ที่ถือว่าเหลือเฟือมากๆ กับสเปคที่ให้มา บวกกับรูปร่างหน้าตาที่ไม่ได้ออกมาก๊องแก๊งราคาถูก แต่สวยงาม ดูดี เดินถือได้ไม่อายใคร ก็นับว่าเป็นมือถือราคาประหยัดราคาไม่ถึง 5,000 บาท (ถึงจะทอน 10 บาท แต่ก็ถือว่าไม่ถึงล่ะนะ) ที่น่าสนใจรุ่นนึงเลย