Xiaomi 14 และ Xiaomi 14 Pro เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วที่ประเทศจีน ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ถึงแม้ว่าดีไซน์อาจจะไม่ได้ดูแตกต่างจากเดิมเท่าไหร่ แต่สเปคภายในทั้งจอ กล้อง ชิป เรียกได้ว่าใหม่แบบหมดจด อีกทั้งยังได้เลนส์สุดพรีเมียม LEICA SUMMILUX มาใช้งานเป็นครั้งแรกของแบรนด์ด้วย

เปิดตัว Xiaomi 14

Xiaomi 14 เปิดตัวมาพร้อมกับบอดี้ไซส์เท่าเดิม 152.8 มม. x 71.5 มม. x 8.20 มม. บอดี้ใช้วัสดุกระจกเงางาม และมีรุ่นวัสดุหนังเทียมให้เลือก มาพร้อมขอบเฟรมแบบโลหะเงางาม ส่วนจอแสดงผลมาในดีไซน์แบบแบน แต่จะมีความโค้งมนเล็ก ๆ ที่ขอบจอนิดหน่อย อีกทั้งยังได้จอที่ขอบบางมาก ๆ เพียง 1.61 มม. เท่านั้น ครอบทับด้วยกระจกทนรอย Gorilla Glass Victus มาในขนาดพอดีมือเท่าเดิม 6.36 นิ้ว แต่จะได้อัปเกรดความละเอียดเป็น 1.5K (1200 x 2670 พิกเซล)

นอกจากนี้ในรุ่นนี้ยังได้อัปเกรดจอพาเนลใหม่ LTPO OLED Huaxing C8 ที่ทางแบรนด์ได้จับมือร่วมพัฒนากับ TCL ทำให้ดันความสว่างไปได้ถึง 3,000 nits ซึ่งถือว่าสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของวงการ อีกทั้งรองรับการปรับรีเฟรชเรตแบบอัตโนมัติ 1 – 120Hz ได้รับการรับรองมาตรฐานสีเที่ยงตรง CIE2015 เหมาะสำหรับเหล่าครีเอเตอร์ที่ต้องการความแม่นยำในค่าสี นอกจากนี้ยังรองรับการแสดงผลในโหมด HDR10+, ZREAL, HDR Vivid และ Dolby Vision ช่วยให้ดูคอนเทนต์ได้เต็มประสบการณ์มากขึ้น

Xiaomi 14 ยังมาพร้อมกับชิป Snapdragon 8 Gen 3 เป็นรุ่นแรกของโลก ทำให้ประสิทธิภาพ CPU ของตัวเครื่องแรงขึ้นถึง 32% และ GPU แรงขึ้น 34% อีกทั้งยังประมวลผล AI ได้เร็วขึ้นถึง 98% ในขณะที่กินพลังงานน้อยกว่าเดิมถึง 34 – 41% ส่วนเรื่องความร้อนก็ไม่ต้องห่วง เพราะรุ่นนี้ใช้ระบบระบายความร้อนแบบวงแหวน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ทำให้ลดอุณหภูมิได้ดีกว่าระบบ Vapor Champer ทั่วไปถึง 3 เท่า ใช้งานหนัก ๆ ได้หายห่วง

ด้านความจุรุ่นนี้ให้ RAM LPDDR5X และ ROM UFS 4.0 ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นความจุ ได้แก่ 8GB + 256GB / 12GB + 256GB / 16GB + 512GB / 16GB + 1TB ส่วนแบตเตอรี่ให้มาที่ 4610 mAh รองรับชาร์จไวผ่านพอร์ต USB-C 3.2 90W และรองรับระบบชาร์จไร้สายที่ 50W

ไฮไลต์เด็ดของรุ่นนี้อยู่ที่กล้องถ่ายภาพ ที่มาพร้อมกับเซนเซอร์ 3 ตัว พร้อมชุดเลนส์คุณภาพระดับ High-End จาก LEICA อย่าง VARIO-SUMMILUX โดยเซนเซอร์หลักจะใช้เป็นเซนเซอร์ชื่อ Light Hunter 900 ความละเอียด 50MP ขนาด 1/1.31″ มาพร้อมรูรับแสงกว้าง f/1.6 ทำให้เก็บแสงได้ดีกว่าเดิมถึง 80% เก็บ Dynamic Range ได้ที่ 13.5EV ซึ่งเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนแล้ว ถือว่าเก็บได้มากกว่าถึง 8 เท่า ใช้ชุดเลนส์ 7 ชิ้น พร้อมเคลือบสาร ALD ช่วยให้แสงสะท้อนต่ำ มีเซนเซอร์กันสั่น OIS ถ่ายภาพได้ที่ระยะ 23 มม.

ส่วนเลนส์ Telephoto มาในความละเอียด 50MP (เฉพาะในโหมด Portrait โหมดถ่ายภาพธรรมดามาในความละเอียด 32MP) ที่มาพร้อมกับระบบการโฟกัสแบบ Floating ที่สามารถเคลื่อนที่เพื่อติดตามวัตถุได้ รองรับการถ่ายแบบ Close-up ได้ใกล้สุด ๆ ถึง 10 ซม. และมีเซนเซอร์กันสั่น OIS มาให้ ถ่ายภาพได้ที่ระยะ 75 มม. ส่วนกล้อง Ultrawide ให้มาที่ 50MP มุมกว้าง 115 องศา ไม่มี Auto Focus รองรับระบบกันสั่นแบบ EIS ถ่ายได้ที่ระยะ 14 มม. ด้านกล้องเซลฟี่ให้มาที่ 32MP

แน่นอนว่าเมื่อร่วมงานกับ LEICA โหมดถ่ายภาพต่าง ๆ ก็ยังคงจัดเต็มเหมือนเดิม ซึ่งนอกจากจะเลือกถ่ายโทนภาพแบบ LEICA VIBRANT และ LEICA AUTHENTIC ได้แล้ว ในรอบนี้ยังมาพร้อมกับระบบ Style Preset ที่สามารถเลือกปรับแต่งค่าสีเองตามชอบก่อนถ่ายได้เลย ซึ่งสามารถเซฟค่าที่ชอบไว้ถ่ายคราวหน้า รวมถึงยังแชร์ Preset ที่เราปรับเองให้เพื่อนใช้งานได้ด้วย

สำหรับสเปคด้านอื่น ๆ นั้น Xiaomi 14 มาพร้อมกับไมโครโฟน 4 ตัวที่สามารถบันทึกเสียงได้แบบ 360 องศา แถมยังมาพร้อมกับลำโพงคู่ รองรับ Dolby Atmos, Hi-Res Audio และ Hi-Res Wireless ส่วนลำโพงสนทนายังออกแบบมาเพื่อป้องกันเสียงเล็ดลอดเพื่อความเป็นส่วนตัว และตัวเครื่องติดตั้งมากับระบบ HyperOS ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ล่าสุด และยังรองรับมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่นเหมือนเดิม

สเปค Xiaomi 14

  • จอภาพ : OLED LTPO C8 ขนาด 6.36 นิ้ว
    – ความละเอียด 1.5K (1200 x 2670 พิกเซล)
    – สว่างสูงสุด 3,000 nits
    – อัตรารีเฟรช 1 – 120Hz
    – มาตรฐานสีเที่ยงตรง CIE2015
    – รองรับ HDR10+, Dolby Vision
  • ชิป : Snapdragon 8 Gen 3
  • RAM LPDDR5x : 8GB / 12GB / 16GB
  • ROM UFS 4.0 : 256 /512GB / 1TB
  • กล้อง LEICA VARIO-SUMMILUX 3 ตัว :
    – กล้องหลัก Light Hunter 900 ขนาด 1/1.31 นิ้ว 50MP (f/1.6), ระบบกันสั่น OIS
    – กล้องอัลตราไวด์ 50MP มุมกว้าง 115 องศา (f/2.2)
    – กล้องเทเลโฟโต 50MP (f/2.0), ระบบกันสั่น OIS, Floating Focus ระยะซูม 75 มม.
  • กล้องหน้า : 32MP (f/2.0)
  • เสียง : ลำโพงสเตอรีโอ
    – รองรับ Dolby Atmos, Hi-Res, Hi-Res Wireless
  • แบตเตอรี่ : 4,610 mAh
    – รองรับชาร์จไว 90W
    – รองรับชาร์จไร้สาย 50W
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 7 / Bluetooth 5.4 / NFC
  • พอร์ต : USB Type-C 3.2
  • ความทนทาน : ทนน้ำและฝุ่น IP68
  • ระบบปฏิบัติการ : HyperOS บนพื้นฐาน Android 14
  • ขนาด / น้ำหนัก :
    • รุ่นกระจก 152.8 มม. x 71.5 มม. x 8.20 มม. / 193 กรัม
    • รุ่นหนังเทียม 152.8 มม. x 71.5 มม. x 8.28 มม. / 188 กรัม

เปิดตัว Xiaomi 14 Pro

Xiaomi 14 Pro กลับมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบใหม่ ที่รอบนี้ไม่ได้ใช้จอโค้ง 3D เหมือนในรุ่นก่อน ๆ แล้ว แต่จะใช้เป็นกระจกแบบ 2.5D ที่ตามมุมต่าง ๆ จะยังมีความโค้งนูนออกมาจากตัวเครื่องอยู่นิดหน่อย โดยตัวจอมาในขนาด 6.73 นิ้ว ความละเอียด 2K (3200 x 1440 พิกเซล) พาเนล LTPO OLED C8 ที่สว่างสูงสุดถึง 3,000 nits รองรับการแสดงผลในโหมด HDR10+, ZREAL, HDR Vivid และ Dolby Vision เช่นกัน

จอของรุ่น Pro ครอบทับด้วยกระจกชนิดพิเศษ Xiaomi Dragon Crystal Glass ที่ทนทานต่อแรงตกกระแทกได้สูงกว่าในรุ่นที่แล้วถึง 10 เท่า รวมถึงยังทนรอยขีดข่วนได้ดีกว่าเดิมถึง 1.25 เท่า แต่ยังคงความใส และมองเห็นได้ชัดเจนเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง

ความพิเศษของในรุ่น Pro คือ นอกจากจะมีตัวเครื่องที่ใช้วัสดุฝาหลังกระจก + เฟรมโลหะเงางามแล้ว ในรุ่นนี้ยังมีตัวเครื่องเวอร์ชั่นพิเศษ ใช้วัสดุขอบตัวเครื่องสุดฮอตอย่าง ไทเทเนียมเกรดยานอวกาศ 99% และมาในดีไซน์แบบขอบขัดด้าน ส่วนฝาหลังก็ใช้วัสดุกระจก Xiaomi Dragon Crystal Glass แบบด้านเช่นกัน ช่วยเสริมความทนทานขึ้นไปอีกเมื่อเทียบกับรุ่นปกติ

สเปคด้านประสิทธิภาพถือว่าไม่ได้ต่างจากรุ่นมาตรฐานเท่าไหร่ ต่างกันเพียงแค่รุ่นความจุที่ในรุ่น Pro มีให้เลือกเพียง 3 รุ่น ได้แก่ 12GB + 256GB / 16GB + 512GB / 16GB + 1TB ส่วนแบตเตอรี่ให้มาเยอะกว่าที่ 4880 mAh รองรับชาร์จไวผ่านพอร์ต USB-C 3.2 120W และรองรับระบบชาร์จไร้สายที่ 50W

จุดที่แตกต่างมากที่สุดของทั้งสองรุ่นอยู่ที่เรื่องกล้อง ซึ่งถึงแม้จะได้ชุดเลนส์ LEICA VARIO-SUMMILUX เหมือนกัน แต่ตัว Pro จะมีฟีเจอร์เสริมเข้ามาเยอะพอสมควร เช่นเซนเซอร์หลักที่มาพร้อมรูรับแสงที่สามารถปรับได้หลายระดับแบบอัตโนมัติ ปรับได้กว้างสูงสุดถึง f/1.42 และแคบสุดที่ f/4.0

เช่นเดียวกับกล้อง Telephoto ที่ถึงแม้จะมาในเซนเซอร์ตัวเดียวกัน แต่รุ่น Pro จะสามารถถ่ายภาพ Portrait Mode ได้ในความละเอียดสูงกว่าที่ 40MP ส่วนเลนส์ Ultrawide จะมีระบบ Auto Focus มาให้ และถ่ายภาพมาโครได้ ในระยะใกล้สุด 14 มม.

นอกจากนี้ Xiaomi 14 Pro ยังมาพร้อมกับโหมดกล้อง LEICA Street Photography ที่เมื่อเจอมุมสวย ๆ บนท้องถนน หรือสถานการณ์ที่ต้องการความเร็วในการถ่ายแบบด่วน ๆ เพียงกดปุ่มลดเสียงแค่ 2 ที ระบบก็จะถ่ายรูปให้โดยใช้เวลาเพียงแค่ 0.8 วินาทีเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนระยะ Focal Lenght (0.6m / 1m / 2m / 3m และโหมด Auto Focus) ได้อย่างรวดเร็วเพียงเลือกจากมุมขวาของตัวแอปกล้อง ทำให้ไม่พลาดโมเมนต์สำคัญ ๆ ในเวลาเร่งด่วนนั่นเอง

สเปค Xiaomi 14 Pro

  • จอภาพ : OLED LTPO C8 ขนาด 6.73 นิ้ว
    – ความละเอียด 2K (3200 x 1440 พิกเซล)
    – สว่างสูงสุด 3,000 nits
    – อัตรารีเฟรช 1 – 120Hz
    – มาตรฐานสี P3
    – รองรับ HDR10+, Dolby Vision
  • ชิป : Snapdragon 8 Gen 3
  • RAM LPDDR5x : 12GB / 16GB
  • ROM UFS 4.0 : 256 /512GB / 1TB
  • กล้อง LEICA VARIO-SUMMILUX 3 ตัว :
    – กล้องหลัก Light Hunter 900 ขนาด 1/1.31″ 50MP (f/1.42 – 4.0 ปรับอัตโนมัติ), ระบบกันสั่น OIS
    – กล้องอัลตราไวด์ 50MP มุมกว้าง 115 องศา (f/2.2), รองรับโหมด Super Macro 5 ซม
    – กล้องเทเลโฟโต 50MP (f/2.0), ระบบกันสั่น OIS, ระบบ Floating Focus, ระยะซูม 75 มม.
  • กล้องหน้า : 32MP (f/2.0)
  • เสียง : ลำโพงสเตอรีโอ
    – รองรับ Dolby Atmos, Hi-Res, Hi-Res Wireless
  • แบตเตอรี่ : 4,880 mAh
    – รองรับชาร์จไว 120W
    – รองรับชาร์จไร้สาย 50W
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 7 / Bluetooth 5.4 / NFC
  • พอร์ต : USB Type-C 3.2
  • ความทนทาน : ทนน้ำและฝุ่น IP68
  • ระบบปฏิบัติการ : HyperOS บนพื้นฐาน Android 14
  • ขนาด / น้ำหนัก :
    • รุ่นปกติ 161.4 มม. x 75.3 มม. x 8.49 มม. / 223 กรัม
    • รุ่นไทเทเนียม 161.4 มม. x 75.3 มม. x 8.49 มม./ 230 กรัม

ราคา และการวางจำหน่าย

Xiaomi 14 มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี 2 วัสดุ โดยตัวเครื่องวัสดุกระจกจะมีสีดำ, สีขาว และสีเขียวเข้ม ส่วนตัวเครื่องวัสดุหนังวีแกนจะมีเพียงสีเดียวคือ สีชมพู ส่วนราคา และรุ่นความจุเปิดมาดังนี้

  • 8GB + 256GB ราคา 3,999 หยวน หรือราว ๆ 20,000 บาท (มีเฉพาะสีดำ และสีเขียว)
  • 12GB + 256GB ราคา 4,299 หยวน หรือราว ๆ 21,500 บาท
  • 16GB + 512GB ราคา 4,599 หยวน หรือราว ๆ 23,000 บาท
  • 16GB + 1TB ราคา 4,999 หยวน หรือราว ๆ 25,000 บาท

Xiaomi 14 Pro มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี 2 วัสดุ โดยตัวเครื่องวัสดุกระจกจะมีสีดำ, สีขาว และสีเขียวเข้มเช่นกัน และจะมีตัวเครื่องรุ่นพิเศษ Titanium Edition ที่มีเพียงแค่รุ่นความจุเดียว 16GB + 1TB ส่วนราคา และรุ่นความจุเปิดมาดังนี้

  • 12GB + 256GB ราคา 4,999 หยวน หรือราว ๆ 25,000 บาท
  • 16GB + 512GB ราคา 5,499 หยวน หรือราว ๆ 27,500 บาท
  • 16GB + 1TB ราคา 5,999 หยวน หรือราว ๆ 30,000 บาท (เฉพาะรุ่นวัสดุกระจก)
  • Xiaomi 14 Pro Titanium Edition (16GB + 1TB) ราคา 6,499 หยวน หรือราว ๆ 32,500 บาท

Xiaomi 14 Series เปิดให้สั่งจองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ประเทศจีน ส่วนประเทศอื่น ๆ รวมถึงในไทยเองยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการออกมา แต่คาดว่าในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า ก็น่าจะได้เห็นกันแบบเต็ม ๆ แล้ว

 ที่มา: Xiaomi ประเทศจีน (1) (2)