Mi 11 Ultra สมาร์ทโฟนระดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Xiaomi ในที่สุดวันนี้ก็ได้เดินทางมาเปิดตัวที่ประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งอัดแน่นไปด้วยฮาร์ดแวร์ระดับคุณภาพคับแก้วทุกภาคส่วน มีฟีเจอร์และคุณสมบัติที่โดดเด่นมากมาย นอกจากนี้ยังมีหน้าจอเสริมที่ด้านหลังเก๋ไก๋ไม่เหมือนใครอีกด้วย ทาง DroidSans จึงได้หยิบยกเอา 11 ข้อเด็ด ๆ รวบรวมสรุปมาให้แบบเน้น ๆ ในบทความนี้

1. กันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP68

Mi 11 Ultra มีคุณสมบัติทนทานต่อฝุ่นรอบทิศทาง และอยู่ใต้น้ำลึก 1.5 เมตรได้เป็นเวลา 30 นาที แม้ว่า โดยปกติแล้วเราคงไม่ได้เอาสมาร์ทโฟนไปจุ่มน้ำหรือคลุกฝุ่นเล่น แต่การที่ความสามารถนี้ติดตัวเอาไว้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะอุบัติเหตุอาจเกิดได้ทุกเมื่อนั่นเอง

2. เซนเซอร์กล้องหลัก “ใหญ่” มาก

Xiaomi เป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจที่ดีกับ Samsung เสมอมา มักจะได้ประเดิมใช้เซนเซอร์ภาพจากผู้ผลิตสัญชาติเกาหลีใต้ก่อนใครเพื่อนอยู่เสมอ และที่อยู่ใน Mi 11 Ultra นี้ก็คือ ISOCELL GN2 ที่มีความละเอียด 50MP ตัวเซนเซอร์มีขนาดใหญ่ถึง 1/1.12 นิ้ว (ใหญ่กว่ากล้องที่ขายในตลาดหลาย ๆ ตัวเสียอีก) พิกเซลมีขนาด 1.4μm ขยายเพิ่มเป็น 2.8μm จากการรวม 4 จุดเล็ก เป็น 1 จุดใหญ่ ผลลัพธ์ที่ตามมา คือ ไวแสงมากขึ้น และมีนอยส์น้อยลง

จุดเด่นที่สุดของ ISOCELL GN2 คงหนีไม่พ้นเรื่องของระบบออโต้โฟกัสแบบใหม่ที่มีชื่อว่า Dual Pixel Pro ซึ่งพิกเซลทุกจุดบนเซนเซอร์จะทำหน้าที่ตรวจจับเฟสได้ในตัว รวมแล้วกว่า 1 ร้อนล้านจุดเลยทีเดียว อีกทั้งยังทำงานได้ทุกทิศทาง เพราะมีการเพิ่มการตรวจจับเฟสในแนวทแยงเข้าไปด้วย เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการโฟกัส ทั้งความเร็วและความสามารถในการติดตามวัตถุ อัปเกรดขึ้นจาก Dual Pixel แบบเก่า ที่ตรวจจับได้แค่ซ้ายกับขวาเท่านั้น

3. ระยะการถ่ายภาพยืดหยุ่น

นอกเหนือจากกล้องหลัก 50MP ที่กล่าวไปแล้วนั้น Mi 11 Ultra ยังมาพร้อมกับกล้องอัลตร้าไวด์ที่ให้ภาพมุมกว้าง 128 องศา และกล้องเทเลโฟโต้ที่มีระยะการซูมที่ยืดหยุ่น ไล่ตั้งแต่ออปติคอล 5 เท่า, ไฮบริด 10เท่า และดิจิทัล 120 เท่า ประเด็นน่าสนใจอีกอย่าง คือ กล้อง 2 ตัวหลังนี้มีความละเอียด 48MP บนเซนเซอร์ภาพขนาด 1/2.0 นิ้วเท่ากัน คุณภาพไม่ใช่ไก่กาแบบสักแต่ยัดมาอะไรทำนองนั้น

4. กล้องเทพ การันตีด้วยคะแนน 148 แต้มจาก DXOMARK

ทาง DXOMARK ให้ความเห็นว่า Mi 11 Ultra ควบคุมปริมาณนอยส์ในภาพได้ดี ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ลดทอนรายละเอียดของพื้นผิว ไวต์บาลานซ์แม่นยำ ระบบออโต้โฟกัสทำงานได้รวดเร็วและติดตามเป้าหมายได้แน่นหนึบ มีไดนามิกเรนจ์ที่กว้างอย่างน่าพอใจในสถานการณ์ส่วนใหญ่ ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่กวาดคะแนนรวมไป 148 แต้ม รั้งอันดับ 1 ในตารางคะแนนอยู่ ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีใครโค่นลง

5. บันทึกวิดีโอสูงสุด 8K ได้จากกล้องหลังทุกตัว

ความสามารถด้านงานวิดีโอเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจ เพราะกล้องทั้ง 3 ตัวนี่ถ่ายที่ระดับ 8K ที่ 24 เฟรมต่อวินาที ได้หมดเลย แถมมีฟีเจอร์ที่ดูแล้วใช้ประโยชน์ได้จริงอย่าง Audio zoom กับ Ultra Night Video ใส่มาให้อีกต่างหาก

6. ชาร์จเร็วทั้งแบบมีสายและไร้สาย

Mi 11 Ultra รองรับเทคโนโลยีชาร์จไวทั้งแบบมีสายและไร้สายที่ 67W เท่า ๆ กัน ชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 – 100% ใช้เวลาเพียงแค่ประมาณครึ่งชั่วโมงกับอีกนิดหน่อยเท่านั้นเอง ไวนรกแตก เสริมด้วยคุณสมบัติเจ๋ง ๆ อีก 2 อย่าง คือ สามารถชาร์จได้แม้อยู่ในสภาวะที่อุณหภูมิติดลบ 10 องศาเซลเซียส และรองรับการชาร์จไร้สายแบบย้อนกลับให้อุปกรณ์อื่นที่ 10W ด้วย

7. หน้าจอคุณภาพสูง สีสันสวยสดและเที่ยงตรง

พาเนลชนิด AMOLED นั้นขึ้นชื่อเรื่องความเที่ยงตรงของสีสันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ Xiaomi ได้มีการปรับเทียบเพิ่มเติมให้ใกล้เคียงกับค่าในอุดมคติมากขึ้นไปอีก มีความคลาดเคลื่อนตามการวัดของ International Commission on Illumination (CIE) อยู่ที่ ΔE≈0.41 เท่านั้นเอง ซึ่งเป็นค่าที่ต่ำจนดวงตามนุษย์แทบจะไม่สามารถแยกความแตกต่างได้แล้ว

นอกจากนี้ขอบเขตสียังกว้างถึงสเปกตรัม DCI-P3 แบบเดียวกับที่ใช้กันในอุตสาหกรรมการผลิตภาพยนตร์ และมีความลึกระดับ 10-bit แสดงผลได้ 1.07 พันล้านสี มีอัตรารีเฟรชสูง 120Hz และอัตราตอบสนองการสัมผัสสูง 480Hz คอนทราสต์เรโช 5,000,000:1 ส่วนความสว่างสูงสุดทำได้ 1,700 นิต ผ่านมาตรฐาน HDR10+ สบายบรื๋อ หากสรุปแบบง่าย ๆ คือเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอแสดงผลเด็ดดวงที่สุดในตลาดเลยล่ะครับ

8. หน้าจอเสริม อรรถประโยชน์

เดี๋ยวนี้หลายคนมักบ่นกันว่า สมาร์ทโฟนออกแบบได้จำเจและฟีเจอร์เริ่มซ้ำ ๆ กันไปหมด แต่ Mi 11 Ultra อาจเป็นข้อยกเว้นแล้วหนึ่ง อย่างน้อยหน้าจอเสริมที่ด้านหลังนี้ก็ไม่ได้พบเห็นกันทั่วไปแน่ ๆ ล่ะ โดยเราสามารถนำหน้าจอนี้มาใช้งานได้ค่อนข้างหลากหลาย อาทิ ใช้งานเป็นนาฬิกา แสดงผลการแจ้งเตือนต่าง ๆ เรียกดูสถานะแบตเตอรี่ หรือแม้แต่ใช้เป็นจอภาพพรีวิวขณะถ่ายเซลฟี่ก็ได้เช่นกัน แถมยังเป็นแบบทัชสกรีนอีกด้วยนะ

9. หน่วยประมวลผลและหน่วยความจำระดับท็อป

Mi 11 Ultra ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon 888 ชิประดับท็อปที่สุดในปัจจุบันจาก Qulacomm ทุกคนคงทราบถึงประสิทธิภาพความแรงเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่ซึ่งที่พ่วงมาข้างในนั้นเจ๋งไม่แพ้กัน อย่างเช่นภาคประมวลผลสัญญาณภาพ ภาคประมวลผลสัญญาณดิจิทัล ภาครับสัญญาณ ภาคประมวลผลกราฟิก พวกนี้ล้วนแต่เป็นระดับไฮเอนด์เหมือนกันทั้งหมด เพราะอัดมาเป็นก้อนอยู่ในชิปเซตเดียวกัน ซึ่งหาไม่ได้จากสมาร์ทโฟนในระดับมิดเรนจ์หรือต่ำกว่า

สำหรับหน่วยความจำที่ให้มาเป็นแบบ LPDDR5 กับ UFS 3.1 อัปเกรดความเร็วขึ้นมาจากรุ่นก่อนหน้าประมาณ 16% เห็นผลอย่างยิ่งเวลาถ่ายโอนข้อมูลขนาดใหญ่หรือมีปริมาณมาก รวมถึงการติดตั้งแอปพลิเคชันหรือการโหลดข้อมูลบางอย่าง (จากภายใน) ตอนเล่นเกมด้วย

10. ระบบระบายความร้อน 3 เฟส ไม่ต้องกลัวเฟรมเรตตก

เพื่อไม่ให้เสียอรรถรสตอนเล่นเกมหรือป้องกันไม่ให้การถ่ายวิดีโอกระตุกอันเนื่องมาจากปัญหาด้านอุณหภูมิ Xiaomi จึงได้ใส่ระบบระบายความร้อนแบบ 3 เฟส ที่เป็นการผสมผสานระหว่าง ของแข็ง ของเหลว และก๊าซ (solid-liquid-gas) มาให้ บริษัทฯ กล่าวว่า สามารถถ่ายเทความร้อนได้ดีกว่าแผ่นทองแดงแบบทั่ว ๆ ไปถึง 100%

11. ลำโพงคู่ จูนเสียงโดย harman / kardon

มีหน่วยประมวลผลที่ดี มีหน้าจอที่สวยงาม พอได้ลำโพงสเตอรีโอเสียงแจ่ม ๆ มาเสริมยิ่งเติมเต็มความสมบูรณ์แบบด้านประสบการณ์การใช้งานอย่างไม่ต้องสงสัย เอาไปเล่นเกม ดูหนัง หรือฟัง ล้วนต่างได้ประโยชน์ไปเต็ม ๆ ทั้งสิ้น ซึ่ง Xiaomi เคลมว่า ได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญจาก harman / kardon ในการปรับจูนลำโพงให้แก่ Mi 11 Ultra จนเปรียบเสมือนเป็นเครื่องเสียงเกรดโปรในขนาดย่อม ๆ เลยทีเดียว

เอาเป็นว่าใครที่สนใจก็รีบไปกดกันได้ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2564 เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป โดยวางจำหน่ายเฉพาะที่ JD Central เท่านั้นในราคา 33,990 บาท และยังมีจำนวนจำกัดสุด ๆ เพียง 100 เครื่อง หมดแล้วไม่มีการนำเข้ามาอีกแล้วนะครับ

Xiaomi Mi 11 Ultra เรือธง 2 จอ พร้อมกล้องระดับเทพ เคาะราคาศูนย์ไทย 33,990 บาท จำนวนจำกัด 100 เครื่อง หมดแล้วหมดเลย