สมาร์ทโฟนในซีรีส์ “MIX” ของ Xiaomi มักจะมีนวัตกรรมล้ำ ๆ และดีไซน์งาม ๆ มาอวดให้แฟน ๆ ได้ตื่นเต้นกันอยู่เสมอ ล่าสุดคือ Mi MIX 3 ในปี 2561 ผ่านมาราว 3 ปีจนถึงตอนนี้ ในที่สุดบริษัทฯ ก็ได้ฤกษ์เผยโฉมผู้สืบทอดออกมาเสียที กับ Mi MIX 4 ที่กลับมาอีกครั้งอย่างอลังการพร้อมกับกล้องเซลฟี่ใต้หน้าจอรุ่นแรกของแบรนด์ และเป็นอุปกรณ์รุ่นแรกของโลกที่ได้ประเดิมใช้งานชิป Snapdragon 888+ จาก Qualcomm ราคาไม่แพงอย่างที่คิด เริ่มต้นประมาณ 25,790 บาท
หน้าจอ “CUP” กล้องเซลฟี่ใต้หน้าจอ
จอภาพของ Mi MIX 4 เป็นพาเนลชนิด AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า “CUP (Camera Under Panel)” ทำให้ Xiaomi สามารถซ่อนกล้องเซลฟี่เอาไว้ข้างใต้หน้าจอได้อย่างเนียนสนิท ไม่มีบาก ติ่ง หรือรู มารบกวนสายตา แสดงได้เต็มพื้นที่ 100% และชิดขอบทั้ง 4 ด้าน
เทคโนโลยีดังกล่าวนี้ Xiaomi ได้ซุ่มพัฒนานานจนมาถึงเจเนอเรชันที่ 3 แล้ว ก่อนที่จะนำมาใช้งานกับ Mi MIX 4 ในท้ายที่สุด บริษัทฯ สามารถลดขนาดซับพิกเซลบริเวณพื้นที่หน้าจอเหนือกล้องเซลฟี่ให้มีขนาดเล็กลงกว่าปกติ จึงสามารถอัดพิกเซลเข้าไปจนมีความหนาแน่นสูงถึง 400 จุดต่อนิ้ว (pixels per inch: PPI) พร้อมทั้งเปลี่ยนวัสดุของวงจรควบคุมให้มีคุณสมบัติโปร่งใส และมีการนำอัลกอริทึมพิเศษเข้ามาช่วยปรับปรุงให้สีสันกับความสว่างสอดคล้องกับจอภาพในส่วนปกติ จึงแสดงผลได้เรียบเนียนราวกับไร้รอยต่อ มองไม่เห็นกล้องที่ซ่อนอยู่ด้านใน
วัสดุเซรามิกยูนิบอดี้ แข็งแรง พรีเมียม และน้ำหนักเบา
Xiaomi เลือกเซรามิกที่มีความบริสุทธิ์สูงขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวด้วยกระบวนการผลิตแบบพรีซิชันสำหรับฝาหลังของ Mi MIX 4 (คลุมมาถึงเฟรมเครื่องเลย) ช่วยลดน้ำหนักที่เป็นจุดอ่อนของวัสดุชนิดนี้ได้มากถึง 30% หากเปรียบเทียบกับเซรามิกทั่ว ๆ ไป
ชิป Snapdragon 888+ สุดทรงพลัง – ชาร์จไวนรกแตก 21 นาที แบตเต็ม 100%
ภายใน Mi MIX 4 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 888+ ซึ่งเป็นชิประดับไฮเอนด์ตัวล่าสุดจาก Qualcomm เรื่องประสิทธิภาพคงไม่ต้องพูดกันให้มากความ แถมยังมีระบบระบายความร้อนในตัวอีก ส่วนแบตเตอรี่ที่ให้มามีความจุเท่ากับ 4500mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไวแรงกระฉูด 120W ใช้เวลาชาร์จจาก 0 – 80% ได้ในเวลาเพียง 10 นาที และชาร์จจนเต็ม 100% ใช้เวลาแค่ 21 นาที ต่อให้ลืมชาร์จก่อนนอน ตื่นมาชาร์จตอนเช้าก่อนเดินทางไปเรียนหรือไปทำงานก็ยังทัน
กล้องหลัง 3 ตัว – กล้องอัลตร้าไวด์ใช้เลนส์ฟรีฟอร์ม
กล้องหลังที่ให้มามีด้วยกัน 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลักเซนเซอร์ ISOCELL HMX ความละเอียด 108MP จาก Samsung เสริมด้วยกล้องเทเลโฟโต้ 8MP ซูมออปติคัล 5 เท่า และที่เป็นอีกหนึ่งในไฮไลต์คือ กล้องอัลตร้าไวด์ 13MP มุมกว้าง 120 องศา ซึ่งมีการนำเลนส์ฟรีฟอร์มมาช่วยแก้ไขความบิดเบี้ยวของภาพในระดับฮาร์ดแวร์ โดย Xiaomi เคลมว่า อัตราความบิดเบี้ยวเมื่อถ่ายออกมาจะต่ำเพียง 1% เท่านั้น ในขณะที่กล้องอัลตร้าไวด์ปกติจะมีค่านี้สูงถึง 20% ถ่ายออกมาแล้วดูป่อง ๆ บวม ๆ แต่ Mi MIX 4 จะไม่เป็นอย่างนั้น
ลำโพงสเตอรีโอ harman / kardon
นอกจากนี้ Mi MIX 4 ยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจอีกหลายส่วน เช่น ลำโพงสเตอรีโอที่ปรับแต่งเสียงโดย harman / kardon แบรนด์เครื่องเสียงระดับโลก และมีเทคโนโลยี Ultra-wideband (UWB) แบนวิดท์กว้าง 500MHz ทำให้มีความสามารถในการรับรู้เชิงพื้นที่ได้อย่างแม่นยำสุด ๆ อีกต่างหาก
สเปค Xiaomi Mi MIX 4
- จอภาพ : AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว
– ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล
– ขอบเขตสี DCI-P3
– ความคลาดเคลื่อนสี JNCD ≈ 0.34, ΔE ≈ 0.40
– ความลึกสี 10-bit
– อัตราส่วนคอนทราสต์ 5,000,000 : 1
– อัตรารีเฟรช 120Hz
– อัตราตอยสนองการสัมผัส 480Hz
– รองรับเทคโนโลยี Dolby Vision
– ผ่านมาตรฐาน HDR10+
– กระจก Corning Gorilla Glass Victus - ชิป : Qualcomm Snapdragon 888+, ความเร็วสัญญาณนาฬิกาสูงสุด 3GHz
- หน่วยความจำ : RAM LPDDR 5 + ROM UFS 3.1
- กล้องหลัง :
– กล้องหลัก 108MP, ขนาดเซนเซอร์ 1/1.33 นิ้ว, ทางยาวโฟกัส 24 มม., ระบบกันสั่น OIS
– กล้องอัลตร้าไวด์ 13MP, เลนส์ฟรีฟอร์ม, ทางยาวโฟกัส 12 มม.
– กล้องเทเลโฟโต้ 8MP, ซูมออปติคัล 5 เท่า, ทางยาวโฟกัส 120 มม., ระบบกันสั่น OIS
– ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 8K - กล้องหน้า : ใต้หน้าจอ 20MP
- เสียง : ลำโพงสเตอรีโอ, ปรับแต่งโดย harman / kardon
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 6, UWB, NFC, IR blaster
- แบตเตอรี่ : 4500mAh
– รองรับชาร์จไว 120W
– รองรับชาร์จไร้สายไว 50W - สี : ขาว, ดำ, เทา
- ขนาด : 162.65 x 75.35 x 8.02 มม.
- น้ำหนัก : 225 กรัม
ราคาและการวางจำหน่าย
Mi MIX 4 มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย แบ่งตามหน่วยความจำและพื้นที่เก็บข้อมูล ราคาเริ่มต้น 4,999 หยวน ไปจนถึงแพงสุดที่ 6,299 หยวน วางจำหน่ายในจีนเป็นที่แรก ส่วนประเทศอื่น ๆ ยังไม่มีการประกาศ
- 8 + 128GB : ราคา 4,999 หยวน (ประมาณ 25,790 บาท)
- 8 + 256GB : ราคา 5,299 หยวน (ประมาณ 27,390 บาท)
- 12 + 256GB : ราคา 5,799 หยวน (ประมาณ 29,990 บาท
- 12 + 512GB : ราคา 6,299 หยวน (ประมาณ 32,490 บาท)

14 Comments
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
diass Post on August 10, 2021 at 10:01 pm
#1029244
เข้าไทยจะเท่าไรเนี้ยยยย
FordRaptor Post on August 11, 2021 at 12:04 am
#1029250
มันจะขายไหมก่อน 😂
ขนาด 11 Ultra 100 เครื่อง ไม่ทันถึง 1 นาที พริบตาเดียวหายหมด
ราคาในจีนนี่มันราคา Subsidize มันถูกกว่าขายข้างนอกพอสมควร
snasha Post on August 11, 2021 at 5:27 am
#1029252
พร้อมเสียตังแล้ว
truss1 Post on August 11, 2021 at 12:35 pm
#1029259
8+256 30,000 ผมก็ซื้อ แต่ขอเป็นร้าน House of MDroid นะครับ
dector Post on August 11, 2021 at 8:54 am
#1029253
กรี๊ดดดดด
psd Post on August 11, 2021 at 9:14 am
#1029255
ต้องโดนๆ รอๆ
Nawahamke Post on August 11, 2021 at 11:22 am
#1029258
Apple ว่าไง จะลบบากหนาๆทิ้งได้เมื่อไหร่ อีก 10 ปี? 20 ปี? สงสารสาวกจัง
Cottontail Post on August 11, 2021 at 7:53 pm
#1029273
Xiaomi ว่าไง จะก็อบ UI ของไอโฟนไอแพดไปถึงเมื่อไหร่์ อีก 10 ปี? 20 ปี? สงสารสาวกจัง
.
รอยบากไอโฟนมันรับได้เพราะมันใช้ Face ID แต่เจ้าอื่นก็แค่กล้องธรรมดาจ้า
Made In Heaven Post on August 11, 2021 at 12:50 pm
#1029261
แบบนี้สิที่รอคอย จอเต็มตาไม่แหว่งไม่พิการ
มัวแต่งมโข่งจอบากจอรูไม่ไปไหน
พอเห็นแอปเปิ้ลไม่กระดิก ฝั่งแอนดรอยด์
ก็ไม่คิดจะพัฒนาอะไรใหม่ๆ กันเลย น่าเศร้าแท้
tkb_phymed Post on August 11, 2021 at 1:51 pm
#1029262
truss1 : ถือโอกาสโฆษณาให้ร้านเลยนะ อย่างงี้ Droidsans ต้องเก็บค่าโฆษณาแล้วล่ะ
lakitu Post on August 11, 2021 at 2:36 pm
#1029265
จริงๆ เขาเรียกเป็น Xiaomi MIX 4 แล้วนะ ไม่มี Mi แล้ว
Thanapoom Post on August 11, 2021 at 2:53 pm
#1029266
ทราบครับผม เป็น MIX เฉย ๆ ตั้งแต่ FOLD แล้ว แต่คนน่าจะยังชินกับชื่อนี้อยู่ ทีมงานเลยตัดสินใจคงเอาไว้ก่อน ลำโพงตัวใหม่กับหุ่นยนต์หมาก็ไม่มีคำว่า Mi แล้ว แต่ Mi TV กับ Mi Pad ดันไม่ตัดออก ผมก็งงเหมือนกัน ตกลงจะเอายังไงแน่ ฮ่ะ ๆ
Putthabhumi Poonsawas Post on August 11, 2021 at 5:26 pm
#1029269
เฉยๆ เพราะผิดหวังกับยี่ห้อนี่พอสมควร แต่แฟนชอบมากๆ
Kaitlyn Duff Post on August 19, 2021 at 12:34 pm
#1029435
ฉันไม่ใช่แฟนของกล้อง ฉันแน่ใจว่ามันทรงพลังแต่มันดูแย่ บางทีมันอาจจะออกแบบมาให้นูนแบบนั้นเพื่อให้พอดีกับเคสโทรศัพท์ ดังนั้นมันอาจจะดูดีกว่าแบบนั้น