Xiaomi ได้เปิดตัวคอนเซปต์สมาร์ทโฟนที่มี “ขอบหน้าจอโค้งทั้ง 4 ด้าน” แบบ waterfall ไปเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์  บริษัทกล่าวว่า ดีไซน์ลักษณะนี้อาจกลายมาเป็นมาตรฐานใหม่ของมือถือในอนาคต ซึ่งมีจุดน่าสนใจหลายอย่าง อัดแน่นไปด้วยนวัตกรรม ทั้งกล้องเซลฟี่ใต้หน้าจอ เซนเซอร์รับสัมผัสที่ไวต่อแรงกด เทคโนโลยีชาร์จไร้สาย อีกทั้งตัวเครื่องยังไม่มีทั้งพอร์ตและปุ่มใด ๆ ทั้งสิ้นเลย และไม่แน่ว่า…สมาร์ทโฟนรุ่นนี้อาจเป็น Mi MIX 4 ก็ได้

ขอบหน้าจอโค้งทั้ง 4 ด้าน 88 องศา ตัวเครื่องบางเฉียบ

จอภาพเป็นส่วนสำคัญที่จะกำหนดรูปแบบทิศทางหรือการออกแบบมือถือ ซึ่ง Xiaomi บอกว่า “สมาร์ทโฟนหน้าจอโค้ง เดี๋ยวนี้มีใช้กันทั่วไปจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว” แต่หน้าจอโค้งทั้ง 4 ด้าน ถือเป็นความท้าทายครั้งใหม่ เพราะมีกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนกว่ามาก ๆ


แสดงผลอินเทอร์เฟซได้สุดขอบทั้ง 4 ด้าน

ความยากไม่ได้อยู่ในส่วนของพาแนลแสดงผล แต่อยู่ตรงขั้นตอนการผลิตกระจกที่มีความโค้ง 88 องศา ทั้ง 4 ด้าน ต้องดัดในขณะที่มีอุณหภูมิอยู่ที่ 800 องศาเซลเซียส อีกทั้งยังต้องใช้เครื่องมือพิเศษที่ถูกผลิตขึ้นมาแบบเฉพาะเจาะจงอีกต่างหาก แตกต่างจากกระบวนการผลิตทั่ว ๆ ไปอย่างสิ้นเชิง แถมกระบวนการเชื่อมพาแนลเข้ากับกระจกนั้นก็ทำได้ยากมาก ๆ ด้วยเช่นกัน

Xiaomi ลองผิด- ลองถูก ไปกว่า 1,000 ครั้ง และใช้สิทธิบัตรไปทั้งสิ้น 46 รายการเลยทีเดียว กว่าจะผลิตออกมาได้แบบนี้ และวิศวะกรก็พยายามรีดตัวเครื่องออกมาให้มีความบางได้มากที่สุดด้วย


ดีไซน์ลักษณะนี้นอกจากจะดูล้ำยุคแล้ว ยังช่วยเพิ่มความพรีเมี่ยมไปในตัวด้วย

ไร้ปุ่มกด ไร้พอร์ตเชื่อมต่อ ใช้ทัชสกรีนรับคำสั่งแทน

หากสังเกตดี ๆ จะเห็นได้ว่า คอนเซปต์สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ไม่มีทั้งปุ่มและพอร์ตอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว การเรียกใช้เมนูปรับระดับเสียงและเพาเวอร์ สามารถทำได้โดยตรงผ่านขอบหน้าจอ โดยการกดด้วยน้ำหนักที่แรงกว่าปกติหรือใช้นิ้วรูดที่ด้านข้าง เพราะ Xiaomi ได้ฝังเซนเซอร์รับสัมผัสที่ไวต่อแรงกดเอาไปด้านในด้วย ส่วนการชาร์จแบตนั้นใช้วิธีการชาร์จแบบไร้สายแทนเอานั่นเองครับ เดี๋ยวนี้ก็ทำได้เร็วมาก ๆ แล้ว ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแบตก็เต็ม จึงไม่น่าใช่ปัญหาในการใช้งานแต่อย่างใด


ไม่มีปุ่มอะไรเลย ปรับระดับเสียงโดยการรูดขอบหน้าจอ

กล้องเซลฟี่ใต้หน้าจอ เจเนอเรชั่น 3

กล้องเซลฟี่เองก็ถูกซ่อนอย่างแนบเนียนเอาไว้ใต้หน้าจอ ไม่ต้องมีการเจาะรูหรือเว้นที่เป็นรอยบากให้เกะกะรำคาญตาอีกต่อไป เทคโนโลยีที่นำมาใช้นี้ก็เป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 แล้ว ผู้พัฒนาก็คือ Xiaomi เองนี่แหละครับ ซึ่งคุณภาพของรูปที่ออกมาก็เคลมว่า ใกล้เคียงกับกล้องเซลฟี่แบบปกติเลยทีเดียว การแสดงผลสีสัน ความคมชัด และความสว่างตรงบริเวณนั้นเองก็ทำได้ดีขึ้นกว่าเจเนอเรชั่นก่อน ๆ ด้วย


กล้องเซลฟี่ซ่อนอยู่ใต้หน้าจอ แถบสถานะและการแจ้งเตือนย้ายมาแสดงผลที่ด้านข้างแทน

เซนเซอร์ปริศนาขนาดใหญ่ที่ด้านหลัง (?)

เมื่อพลิกมาด้านหลังจะเจอกับกล้องหลังตัวเดียว แต่มีขนาดโมดูลใหญ่พอสมควร ช่องแฟลชก็ยาวเหยียด อาจเป็นไปได้ว่า ใส่ LED มาหลายดวง หรือไม่ก็มีเซนเซอร์อื่น ๆ เช่น เซนเซอร์วัดอุณหภูมิสี ถัดลงมามีแผ่นสี่เหลี่ยมปริศนาที่ยังไม่ทราบว่าคืออะไรกันแน่ หน้าตาคล้ายทัชแพ็ดบนแล็บท็อปยังไงอย่างงั้น


เซนเซอร์ปริศนาที่ใต้กล้องหลัง

ราคาและการวางจำหน่าย

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2563 ทาง Xiaomi ก็เคยเปิดตัว Mi MIX Alpha ที่เป็นคอนเซปต์สมาร์ทโฟนมาแล้ว มีความโดดเด่นตรงหน้าจอม้วนพันรอบตัว เกือบ 360 องศา คิดเป็นสัดส่วนต่อตัวเครื่องกว่า 180% ซึ่งมีราคาสูงถึง 19,999 หยวน หากเทียบกับอัตราแลกเปลี่ยน ณ ปัจจุบัน ก็ทะลุ 90,000 บาท

ทางฝั่งของคอนเซปต์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่นี้ ยังไม่มีการเปิดเผยทั้งสเปคและราคา แต่ Xiaomi มีแย้มแถมแฟน ๆ ว่า “ถ้าบริษัทเปิดตัวมือถือในราคา 45,000 บาท จะซื้อไปใช้กันมั้ย ?” ในช่วงเวลาห่างกันแค่ 3 วัน ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่สมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวจะมีราคาในช่วงประมาณนี้ครับ

แม้ว่า Xiaomi ยังไม่ได้ตั้งชื่อให้กับมือถือรุ่นนี้ แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็น Mi MIX 4 ภาคต่อจากคอนเซปต์สมาร์ทโฟนรุ่นก่อนนั่นเองครับ

Play video

 

ที่มา : Xiaomi