YouTube เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ได้รับความนิยมในการติดตามข่าวสาร รวมถึงความบันเทิงด้านต่างๆ ในหลายปีที่ผ่านมา และได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ  ทำให้มี Youtubers เกิดใหม่มากมาย แต่ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายนที่ผ่านมา YouTube ได้จัดการถอดช่องที่เผยแพร่ไป ถึง 1,667,587 ช่องเพราะละเมิดกฏการใช้งานนั่นเอง

สาเหตุส่วนใหญ่ของช่องที่ถูกถอดถอน คิดเป็น 79.6% (ประมาณ 468,458 ช่อง) เนื่องจากเสนอเนื้อหาที่เป็นข่าวปลอม ข่าวลวง  Spam, Scam รวมถึงมีเนื้อหาไม่ตรงตามที่ระบุตามหมวดหมู่ที่ตั้งเอาไว้ อีก 12.6% ของช่องที่ถูกถอดถอน (ราว 73,924 ช่อง) มีการนำเสนอสื่อลากมกอนาจารหรือเรื่องเพศ และอีก 4.5% (26,529 ช่อง) ถูกระงับเพราะมีเนื้อหาที่รุนแรงและเกี่ยวพันกับความปลอดภัยของเด็ก ส่วนที่เหลือก็เป็นช่องที่นำเนื้อหาเน้นความรุนแรง การส่งเสริมความรุนแรง การปลอมตัวเป็นบุคคลอื่น การล่วงละเมิดและอันธพาลทางไซเบอร์  เนื้อหาที่แสดงความเกลียดชังหรือการทารุณ ซึ่งทั้งหมดนั้นขัดกับข้อควรปฏิบัติที่ทาง YouTube กำหนดไว้

และในไตรมาสที่ผ่านมา YouTube  ได้ถอดวิดีโอจำนวนถึง 7,845,400 คลิป โดยคลิปวิดีโอจำนวน 6.3 ล้านคลิปที่ถูกนำออกจากระบบถูกรายงาน หรือทำการติดธงที่เรียกว่า Flagger โดยอัตโนมัติด้วยระบบของยูทูป  ในขณะที่มากกว่า 878,000 คลิปถูกติดธงโดย Flagger รายบุคคล  อีก 547,000 คลิปตรวจโดยบัญชีผู้ใช้ที่สุ่มเลือก และราว 32,000 คลิปตรวจสอบโดย NGOs รวมถึงการตราวจสอบจากหน่วยงานของรัฐบาลอีก 34 ชิ้น ซึ่ง 74.5% ของวิดีโอที่ถูกติดธงแจ้งเพื่อการถอดออกจากเครือข่ายนั้นถูกนำออกไปโดยไม่มีโอกาสที่จะให้ใครได้ชมคลิปดังกล่าวแม้เพียงครั้งเดียว

และนอกจากคลิปต่างๆ บน YouTube ที่ถูกถอดแล้ว ช่วงที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ก็ลบคอมเม้นท์ที่เข้าข่ายละเมิดกฏไปถึงจำนวนกว่า 224 ล้านคอมเม้นท์เช่นกัน

จากรายงานดังกล่าวทำให้เราทราบว่าทาง YouTube เองก็ไม่ได้ละเลย หรือปล่อยผ่านสื่อต่างๆ ที่เข้ามาใช้ช่องทางบน YouTube เพื่อเผยแพร่คอนเท้นท์ของตัวเองแบบอิสระจนเกินไป ถึงแม้ว่าทุกวันนี้จะมีจำนวนช่องเยอะขึ้นเรื่อยๆ ก็ตาม และหากเราพบเจอช่องบน YouTube ที่เข้าข่ายละเมิดกฎ เราก็สามารถเป็นช่วยรายงาน Flagger หรือแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทาง YouTube ตรวจสอบได้เช่นกันค่ะ

 

ที่มา 9to5googlefastcompany