ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ใช้งาน YouTube หลายรายบน Reddit ออกมาโพสต์ปัญหาการใช้งานว่าจู่ ๆ หน้าเว็บก็โหลดช้าดีเลย์ไปประมาณ 5 วินาทีก่อนเริ่มคลิป ซึ่งตอนแรกหลาย ๆ คนก็คิดว่าเป็นปัญหาจากฝั่งเบราว์เซอร์ Firefox แต่เมื่อทาง The Verge ไปสอบถามกับ YouTube ก็ได้คำตอบว่า เป็นมาตรการใหม่เพื่อสกัดกั้นการปิดโฆษณาผ่าน Ad-Blocker นั่นเอง

ผู้จัดการฝ่ายการสื่อสารของ YouTube ออกมาบอกกับ The Verge ว่า ผู้ใช้งานที่ใช้ Ad-Blocker เพื่อปิดโฆษณาบน YouTube ไม่ว่าจะบนเบราว์เซอร์ไหนก็ตาม จะถูกจำกัดประสิทธิภาพการรับชม ซึ่งรวมไปถึงการปรับหน้าเว็บให้โหลดช้าลง ซึ่งปัญหาที่ว่านี้แก้ได้ง่าย ๆ แค่เพียงปิดปลั๊กอิน Ad-Blocker และรีเฟรชแอปใหม่ ก็จะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพเหมือนเดิม

ทั้งนี้ระบบที่ว่านี้คาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงทดลองใช้งาน เพราะมีผู้ใช้งานบางรายได้ทดลองเปิด YouTube ทั้งในระบบ Windows และ macOS กับทุก ๆ แอปเบราเซอร์ที่มีการใช้งาน Ad-Blocker แต่ก็ไม่พบเจอปัญหาที่ว่า แต่ในอนาคตคาดว่าจะมีการเปิดใช้ในวงกว้างด้วย

เรียกได้ว่ารอบนี้ Google จริงจังกับการปราบปรามการใช้ปลั๊กอิน Ad-Blocker ในการปิดโฆษณาบน YouTube มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยได้เพิ่มทั้งระบบ Soft-Block ทำให้หน้าเว็บทำงานได้แย่ลง รวมถึงมีระบบ Hard-Block ที่ปิดกั้นไม่ให้ผู้ใช้งานดูวิดีโอได้เลยเมื่อมีการเปิดใช้ Ad-Blocker

ทางเลือกสำหรับสายฟรีตอนนี้ก็มีทางเลือกไม่มากแล้ว นอกจากจะต้องทนดูโฆษณา หรือสมัครบริการ YouTube Premium เพื่อปิดโฆษณา ซึ่งถ้าอยากสมัครตอนนี้ในไทยก็มีแพ็กเกจราคาเริ่มต้นที่ 159 บาทต่อเดือน

ที่มา: The Verge