หลังจากที่เคยมีข่าวว่า Samsung จะเริ่มเดินสายผลิตชิปเซตประมวลผลขนาด 3 นาโนเมตรในระดับ Mass Production เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ตอนนี้ Samsung ก็ได้ประกาศเปิดตัวชิปนาฬิกา Exynos W100 ที่ใช้เทคโนโลยีขนาด 3nm ผลิตเป็นครั้งแรกของแบรนด์ โดยคาดว่าชิปนี้จะเป็นชิปที่ถูกใช้ใน Galaxy Watch7 และ Galaxy Watch Ultra ที่เปิดตัวในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้ด้วย

Exynos W1000 ถือเป็นชิปตัวแรกที่ใช้เทคโนโลยี 3nm ที่ล้ำที่สุดในการผลิตอย่าง Gate All Around (GAA) ที่มีข้อดีในเรื่องของการควบคุมกระแสไฟได้ดี ช่วยให้ชิปประหยัดพลังงานมากขึ้น และใช้เทคโนโลยีใหม่อย่าง Fan-out panel-level packaging (FOPLP) เข้ามาช่วยระบายความร้อน

นอกจากนี้ตัวชิปยังใช้เทคโนโลยีหน่วยความจำที่เรียกว่า Package-on-Package (ePOP) ซึ่งเป็นการซ้อนตัวชิปหน่วยความจำ RAM และ ROM มาเรียงซ้อนกันและยังนำวงจรรวมที่ทำงานในด้านการจัดการพลังงาน ower management integrated chip (PMIC) มาฝังให้อยู่รวมกันภายในชิปเซตประมวลผลเดียว ทำให้ได้ขนาดแพ็กเกจชิปที่เล็กจิ๋ว เหมาะกับการนำมาใช้ในอุปกรณ์อย่างสมาร์ทวอทช์

ภายในชิปเซตรุ่นนี่ประกอบไปด้วย CPU Cortex-A78 @ 1.6GHz 1 คอร์ + Cortex-A55 @ 1.5GHz 5 คอร์ และใช้ GPU เป็น Mali-G68 MP2 โดยสามารถทำประสิทธิภาพการประมวลผลแบบ Single Core ได้ดีขึ้น 3.4 เท่า และ Multi-Core 3.7 เท่า เปิดแอปได้รวดเร็วกว่าเดิมถึง 2.7 เท่า ช่วยให้สลับแอปไปมาได้ลื่นไหลขึ้น เมื่อเทียบกับชิป Exynos W930 ขนาด 5 นาโนเมตรที่ใช้บน Galaxy Watch6 Series

ส่วนชนิดความจุแล้ว ได้มีการอัปเกรดให้รองรับ RAM LPDDR5 ช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น มากับความจุ ROM eMMC 32GB ในตัว รองรับการใช้งานกับจอแสดงผลความละเอียด qHD (960×540) หรือ 640×640 พิกเซล มากับเอนจิน 2.5D Always-on Display ช่วยให้รายละเอียดหน้าตา UI ต่าง ๆ ในโหมด AOD คมชัดยิ่งขึ้น

ด้านการเชื่อมต่อ ตัวชิปรองรับทั้ง 4G LTE Cat.4 (Download 150Mbps / Upload 75Mbp) รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi b/g/n และ Bluetooth LE สำหรับรับส่งเสียง รองรับ GPS, GLONASS, Beidou, Galileo และการเชื่อมต่อ NFC ด้วย

จากข่าวลือที่ผ่านมาอุปกรณ์ที่คาดว่าจะได้ใช้ชิปเซต Exynos W1000 เป็นรุ่นแรกก็หนีไม่พ้น นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่อย่าง Galaxy Watch7 และ Galaxy Watch Ultra ซึ่งก็น่าจะช่วยให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ชาร์จครั้งเดียวอาจใช้ได้ยาวนานถึง 2 – 3 วันเลยก็เป็นได้

ที่มา: Samsung