แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีข่าวยืนยันการประมูลคลื่นในช่วงกลางปีนี้มาโดยตลอด เพราะสัมปทานคลื่นในปัจจุบันกำลังจะหมดลง และทาง CAT (dtac) จะต้องคืนคลื่นทั้งหมดกลับมาสู่การประมูล แต่มาวันนี้ดูท่าทุกอย่างจะกลับไปสู่จุดเริ่มต้นหาความแน่นอนไม่ได้อีกครั้ง เมื่อทาง นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกสทช. ได้ออกมาเปิดเผยว่าการประมูลช่วงกลางปีน่าจะไม่เกิดขึ้นแล้ว

รวมข้อมูลการประมูลคลื่น 4G 900/1800MHz ปี 2018

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมหรือข้อมูลก่อนหน้าสามารถเข้าไปอ่านที่บทความเดิมได้เลยนะครับ แต่เริ่มไม่แน่ว่าการประมูลนี้จะได้จัดในปี 2018 นี้ซะแล้ว

กสทช. ยังไม่ตัดสินใจเรื่องการซอยใบอนุญาต ลดราคาตั้งต้น

แม้ว่าในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา จะมีข่าวว่าทางกสทช.เล็งจะซอยใบอนุญาตให้แต่ละใบมีความถี่เล็กลง จากเดิม 15MHz ให้เหลือเพียง 5MHz ซึ่งจะทำให้ราคาตั้งต้นการประมูลลดลงเหลือใบละ 12.4 พันล้านบาท จากเดิม 37.45 พันล้านบาท ซึ่งเป็นแนวทางการประมูลที่หลายฝ่ายเห็นตรงกันว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่อย่างไรก็ดี ทาง นพ.ประวิทย์ เปิดเผยว่าบอร์ดกสทช. ทั้งหมดยังไม่ตกลงที่จะปรับเปลี่ยนตามแนวทางนี้ และยังต้องรอการประชุมหารือกันต่อไป

ประมูลล่าช้าไม่ทันใบอนุญาตเดิมหมดอายุ เตรียมหาทางเยียวยา

ทางนพ.ประวิทย์ ได้ให้ความเห็นว่าการประมูล 4G ที่ล่าช้าลงไปนี้ อาจจะได้จัดอีกทีก็ช่วงปลายปีนี้เลย กสทช.ชุดปัจจุบันกำลังจะหมดวาระ ถามไปทางคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าสามารถจัดการประมูลได้มั้ยก็ไม่มีคำตอบยืนยันมา จึงน่าจะต้องรอให้ทางคณะกรรมการชุดใหม่ที่สรรหามาในช่วงเดือนเมษายนเป็นคนจัดแทน ซึ่งไม่น่าจะดำเนินการทุกอย่างได้ทันเดือนมิถุนายนตามกรอบเวลาเดิม และอาจจะไม่ทันเดือนกันยายนที่ใบอนุญาตคลื่น 850/1800 MHz ของ CAT ที่ดีแทคใช้ให้บริการอยู่ในปัจจุบันจะหมดอายุลงอีกด้วย ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบก็ต้องมีการออกมาตรการเยียวยาเพื่อให้มีผลกระทบต่อผู้ใช้น้อยที่สุด และดีแทคจะต้องจ่ายค่าใช้งานคลื่นความถี่โดยยกผลประโยชน์ให้ทั้งหมดหลังหักค่าดำเนินการแล้วให้รัฐ

ดีแทคแจงเลื่อนประมูลไม่กระทบการใช้งานลูกค้า

หลังจากที่มีข่าวนี้ออกมาทาง ดีแทคก็รีบออกจดหมายข่าวตามทันทีว่า การเลื่อนประมูลนี้จะไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อลูกค้าดีแทค บริษัทยังคงสามารถใช้งานคลื่นได้ตามปกติ ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ได้เคยเกิดขึ้นกับผู้ให้บริการรายอื่นมาก่อนแล้วและยังสามารถให้บริการได้ตามเดิมนั่นเอง ฉะนั้นลูกค้าดีแทคไม่น่าต้องห่วงอะไร แต่คนที่ทำงานในดีแทคก็คงต้องอัดอั้นกันต่อไปเพราะจะทำอะไรเพิ่มก็ลำบากเพราะไม่มีใบอนุญาตเป็นของตัวเองนั่นเอง

 

ที่มา BangkokPost แฟ้มภาพคุณประวิทย์จาก mxphone.net