วันนี้ ทางทีมงาน Droidsans ได้เดินทางไปที่ AIS Flagship Store @ สยามเซ็นเตอร์ เพื่อร่วมพูดคุยถึงเครือข่ายคลื่นความถี่ที่เอไอเอสมีอยู่ในมือ วิธีการบริหารจัดการคลื่นความถี่เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุด และ ทดสอบความเร็ว 5G mmWave ครั้งแรกของไทย บนคลื่น 26GHz ของ AIS โดยสมาร์ทโฟนที่รองรับและวางขายอยู่ในตลาดจริงๆ ซึ่งมีทีมผู้บริหารเอไอเอส 2 ท่าน มาให้ข้อมูลและความรู้ถึงคลื่นความเร็วดังกล่าว ว่า AIS จะนำมาใช้ในด้านไหน รวมถึงตอนนี้ ขั้นตอนการดำเนินการไปถึงขั้นใดแล้ว แล้วคนไทยจะได้สัมผัสความเร็วนี้เมื่อไร?
โดยผู้ที่มาให้ข้อมูล คือ คุณวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าหน่วยธุรกิจงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ AIS และ คุณศรัณย์ ผโลประการ หัวหน้าฝ่ายงานผลิตภัณฑ์โทรศัพท์เคลื่อนที่กลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS
โครงข่ายเครือข่ายเน็ตเวิร์คของ AIS ครอบคลุมไปแค่ไหนแล้ว และการพัฒนาต่อไปในอนาคต
อย่างที่ทราบว่าเอไอเอสมีการพัฒนา 5G ตลอดเวลา ปัจจุบัน (ปี 2566) AIS มี 5G ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ 87%, กรุงเทพมหานคร 100%, และพื้นที่ EEC 100%
คลื่นความถี่ของ AIS ทั้งหมด
AIS ถือว่าเป็นผู้นำอันดับ 1 ด้านเครือข่าย ที่มีคลื่นความถี่มากที่สุด รวม 1460 MHz ครบทั้งย่านความถี่ต่ำ กลาง และสูง โดยมี 4G, 5G แบนวิธกว้างที่สุด
และล่าสุด ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ NT เพื่อร่วมกันพัฒนา Digital Infrastructure ของประเทศให้มีความแข็งแกร่ง สามารถใช้คลื่นความถี่ที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อคนไทยตามความตั้งใจของทั้งสององค์กรที่ได้ประมูลมา รวมถึงจะทำให้ NT เป็นองค์กรโทรคมนาคมแห่งชาติสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ลูกค้า AIS ก็จะได้รับบริการที่ดียิ่งขึ้น จากการมีคลื่น 700 MHz เพิ่มขึ้นอีก 10 MHz (Downlink 5 MHz และ Uplink 5 MHz)
จัดสรรแต่ละคลื่นมาใช้กับอะไรบ้าง?
อย่างที่บอกเรามีคลื่นความถี่มากที่สุด โดยเฉพาะคลื่นย่านความถี่สูง กลาง แล้วก็ต่ำ ที่มีครบถ้วน และความถี่ของย่านแค่ละย่านมีประโยชน์ที่แตกต่างกัน แล้วก็มีการใช้งานที่แตกต่างกัน
ก่อนนั้น ที่เราทำ 5G แรกๆ เราใช้ความถี่กลาง เป็นความถี่หลัก ก็คือความถี่ 2600MHz เนื่องจากเป็นความถี่ที่เหมาะกับทั้ง indoor และ outdoor แล้วก็แบนวิธที่เราประมูลมา เป็นแบนวิธที่กว้างมาก คือ 100MB เพราะฉะนั้น 100MB ที่เราได้มามันก็จะเป็นแบนวิธ ที่ 1 Carrier พอดี
ก่อนหน้านี้ ที่ได้ยินเอไอเอสพูดบ่อยๆ เราใช้คำว่า Super Block เพราะว่า 100MB ของความถี่กลาง คือ 1 บล็อก ของ 5G พอดี มากกว่านี้ก็ไม่มีประโยชน์ น้อยกว่านี้ก็ไม่ใช่บล็อกที่มือถือรองรับได้พอดี
อันที่สองก็คือ ความถี่ต่ำ เป็นอีกหนึ่งความถี่ที่ก่อนหน้านี้เราบอกว่า มันทะลุทะลวงได้ดีในอินดอร์ มากกว่าความถี่กลาง ก็คือ เข้าไปในตึกสูงได้ เข้าไปในคอนโดได้ แล้วก็สามารถทะลุทะลวงได้ แล้วก็ตอนนั้น เอไอเอส เรามีความชำนาญของคลื่น 900MHz
5G ความถี่ต่ำมีประโยชน์ยังไง?
5G ความถี่ต่ำมีประโยชน์มากๆ ในส่วนของอัปลิงค์ ตอนนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป แต่ก่อนเราพูดถึงดาวน์ลิงค์อย่างเดียว ดาวน์โหลดอย่างเดียว แต่เดี๋ยวนี้ทุกๆ คน อย่างบลอกเกอร์ นักข่าว รวมถึงคนที่ไปดูคอนเสิร์ต คนที่ไปดูไลฟ์ ก็จะไลฟ์สตรีมกันตลอดเวลา
พอพูดถึงเรื่องอัปลิงค์ ทำไมความถี่ต่ำ มันเวิร์คกับอัปลิงค์ ความถี่กลางเนี่ยครับ มันเป็น TDD ครับ ถึงแม้มี 100mb จริงๆ แล้วเนี่ย ความถี่ส่วนใหญ่ มันจัดสรรให้ดาวน์ลิงค์ก่อน ไม่ได้จัดสรรให้อัปลิงค์ เพราะงั้นสัดส่วนมันสามต่อหนึ่ง สังเกตเรากดสปีดเทสต์ เราก็จะได้สปีดเทสต์ที่ดาวลิงค์เยอะๆ เกือบกิ๊ก แล้วอัปลิงค์ได้ประมาณร้อย ได้แค่นี้
ความถี่ต่ำ 700MHz ดียังไง?
ความถี่ 700MHz ความถี่ต่ำนี้ มันเป็น FDD ก็จะมีบล็อกทั้งอัปลิงค์และดาวน์ลิงค์ที่เท่ากัน ก่อนหน้านี้เรามี 15 แต่จากการร่วมมือกับพันธมิตร กับ NT ทำให้เราเป็น Super block ก็เป็น 20MHz ทำให้อัปลิงค์และดาวน์ลิงค์ สามารถที่จะซัพพอร์ตในส่วนของไลฟ์สตรีมมิ่ง อะไรได้อีกหลายๆ อย่าง นอกจากความดีความงามของความถี่ต่ำ ที่ทะลุทะลวงได้ดีแล้ว ยังจะมาช่วยเสริมในเรืองของอัปลิงค์ได้ด้วย
การทำงานของเราและพันธมิตรที่ได้ความถี่มาเพิ่มเติมมา ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงดำเนินการ ยังมีกระบวนการเพิ่มเติมอีก ยังไม่ได้เสร็จสิ้น ในส่วนของ กสทช. หรืออะไรต่างๆ แต่ยังไงก็ตาม ในส่วนของ 700MHz ก็ยังเป็นความถี่ที่เรากำลังโรลเอาท์ และก็กำลังขยายเพิ่มเติมในส่วนของเอไอเอส
ซึ่งจะเห็นว่าเราเริ่มขยาย 700MHz ไปในหลายๆ จังหวัดทั่วประเทศ ตอนนี้ของเอไอเอสส่วนใหญ่ครอบคลุมในเมืองคนใช้เยอะๆ เป็นความถี่กลาง ส่วนชนบทก็จะเป็นความถี่ต่ำ แต่ตอนนี้ เราก็เริ่มเอาความถี่ต่ำทั้งหมดของ 700MHz มาขยายในเมืองเพิ่มเติม เพราะมันมีประโยชน์ ในการทะลุทะลวงอินดอร์มากกว่าความถี่กลาง และช่วยเรื่องของอัปลิงค์
mmWave ความถี่ที่กำลังจะโตในอนาคต
พอเราพูดถึงสองความถี่แล้ว อีกความถี่นึงไม่พูดไม่ได้เลย เพราะเป็นความถี่ที่มีมากที่สุด และก็มากที่สุดในโลกด้วย แต่ถามว่ามากที่สุดในโลกพอไหม อาจจะไม่พอ เพราะ mmWave กำลังจะโต เป็นความถี่ที่มีความจำเป็น มันควรจะสักประมาณ 5GB ตอนนี้เราได้ 1.2GB แล้ว
mmWave มีความจำเป็น มีประโยชน์ แล้วก็วัตถุประสงค์อย่างไร
มีการใช้กันอยู่ 3 เรื่อง เรื่องเเรกก็คือ สำหรับมือถือเนี่ยแหละ สำหรับลูกค้าที่เอามาใช้ คอนซูเมอร์โปรดักท์ ก็คือ การใช้งานในพื้นที่ ที่เป็นพื้นที่ที่มีคนอยู่มาก อย่างเช่น คอนเสิร์ตฮอลล์ อารีน่า สเตเดียม พื้นที่เหล่านี้ มีการใช้งานสูง ความดีความงามของ mmWave ก็คือ อัปลิงค์กับดาวน์ลิงค์มันสามารถที่จะคอนโทรลได้ สามารถที่จะขยับเพิ่มเติมได้ เพราะฉะนั้น มันไม่ได้ถูกฟิกซ์สามต่อหนึ่ง
อันที่สองก็คือ ใช้กับอุตสาหกรรม เอไอเอสเป็นคนแรกๆ ทันที่ที่เราประมูลคลื่น mmWave ได้ วันนั้นเราก็ประกาศความร่วมมือ SMC ศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (Sustainable Manufacturing Center: SMC) เราทำงานกับโรงงาน เพื่อให้เป็นโรงงานอัจฉริยะ โดยใช้คลื่น mmwave
การใช้ใน mmWave กับโรงงานอุตสาหกรรมเป็นที่นิยมมากในฝั่งยุโรป เนื่องจากว่าความดีของ mmWave คือมันเฉพาะที่ มันจะถูกจำกัดพื้นที่อยู่ในแค่โรงงานเท่านั้น มันไม่ได้กระจายออกไปนอกโรงงาน
อันที่ 3 ที่ถูกใช้กันเยอะๆ คือ FWA (Fix wireless access) หลายๆ ประเทศเอา mmWave มาช่วยซับพอร์ตในเรื่องของฟิกซ์บรอดแบนด์ มาช่วยซับพอร์ตเสริมกันกับไฟเบอร์ ในพื้นที่ไหนห่างไกล ไฟเบอร์เข้าไม่ได้ ไม่สามารถลากได้ เขาก็ใช้ 5G ในส่วนของ mmWave มาใช้ซับพอร์ต
ตอนนี้ก็มีหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น อิตาลี อเมริกา จึงทำให้ถูกประเมินว่า 1.2GB อาจจะไม่พอ อาจจะจำเป็นต้องมีมากกว่านั้น
บางประเทศที่ถูกพัฒนาเร็ว ๆ ต้องการถึง 5 GB ประเทศที่กำลังพัฒนาอาจจะ 3.5 GB และก็มีการแบ่งการใช้งาน แต่ 1.2 GB ยังเป็นความถี่ที่เหมาะระดับนึงแล้วแหละ สำหรับการใช้งานช่วงแรก
ตอนนี้ เรานำ 5G mmwave มาใช้งานจริงเมื่อปีที่แล้ว ตอนปลายปี เราเริ่มทำที่ FWA ยิงสัญญาณไปตามบ้าน เพื่อที่จะขายในแพ็คเกจคล้ายๆ กับแพ็คเกจไฟเบอร์ ก็คือแพ็คเกจ FWA ตอนนี้เราขายที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน แล้วก็ภาคใต้ ก็มีขายกันอยู่หลายจังหวัด
แผนขยาย FWA
ตอนนี้เราเริ่มใช้ mmWave ที่ FWA และมีการทำการตลาดขายจริงแล้ว ราคาที่เทสต์ตลาด อยู่ที่ 799 บาท ความเร็ว 500/100mb ถ้าอยู่ใกล้เสาก็จะถึง 1000/100 ได้ โดยกลุ่มลูกค้าที่สนใจจะเป็นกลุ่มลูกค้า Airnet พื้นที่ที่ไฟเบอร์ไปไม่ถึง และยังมีหมู่บ้านที่ฝังสายไฟลงใต้ดินหมด โดยสายที่ฝังเป็นทองแดง ซึ่งมีหมู่บ้านแบบนี้อยู่เยอะมาก ถามว่า 799 แพงไหม ก็แพงเมื่อเทียบกับไฟเบอร์ แต่พวกเขายินดีจ่าย เพราะไม่มีตัวเลือกมากนัก
ตอนนี้เรารอ CBE รุ่นใหม่เข้ามา ตอนนี้ปัจจุบันบันที่ใช้ ยังไม่ได้ติดจานพาราโบลา CBE รุ่นใหม่ จะเป็นรุ่นที่ยิงสัญญาณไปได้ไกล รอตัวนั้นเข้ามาก่อน คาดว่าครึ่งปีหลัง ในส่วนของคอนโดยังไม่เริ่ม การทำการตลาดยังยาก มันอยู่ที่ทุนการติด 1 เซลล์ต้องหาลูกค้าให้ได้จำนวนนึง เพื่อคุ้มในการติด แต่ถ้ามีฝั่งโมบายล์มาช่วย จะช่วยได้มาก เพราะใช้ได้หมด จะคุ้ม ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญ
ความเร็วของ AIS 5G mmWave
และในอนาคต ถ้ามีมือถือที่รองรับ mmWave เข้ามา ความแตกต่างจะเห็นชัดเจน ตอนช่วงที่มีการใช้งานหนาแน่น เครื่องของคนที่ใช้ mmWave จะยังสปีดดีอยู่ เพราะกระโดดไปใช้ mmWave ได้ แล้วในขณะเดียวกันทราฟฟิกย้ายไปบน mmWave การรองรับของความถี่ปกติก็จะดีขึ้น เวลาเรากดเทสต์สปีด เราก็ตื่นเต้นสปีด 3Gbps 4Gbps แต่ว่าเราไม่ได้ตั้งใจจะให้ใช้ 3Gbps 4Gbps แต่เราตั้งใจจะให้ใช้คนละประมาณ 10Mbps แต่ได้ 300 คน กดพร้อมกัน นั่นก็คือเป้าหมาย
อุปกรณ์ที่รองรับ 5G mmWave
ในงาน Mobile World Congress หรือ MWC 2023 ก็มีมือถือหลากหลายแบรนด์ นำดีไวซ์ที่รองรับคลื่น mmWave ความถี่ 26 GHz ที่ประเทศไทยใช้มาโชว์กว่า 170 ดีไวซ์แล้ว
ถ้าอุปกรณ์ที่รองรับ mmWave เข้ามาแล้ว วางแผนจะลง mmWave ตรงไหนบ้าง??
อย่างที่บอก mmWave เราจะถูกใช้งานในส่วนของที่ที่มีคนอยู่เยอะ ก็คือ สเตเดียม อารีน่า คอนเสิร์ต สนามกีฬา ศูนย์ปะชุมทั้งหลาย ที่ที่มีคนใช้งานสูงๆ ที่แรกสุด ก็คือสยามสแควร์ ตอนนี้ ติดไว้เรียบร้อยแล้ว แล้วก็พื้นที่ราชประสงค์ ก็เตรียมไว้ เพราะว่าพฤติกรรมคนเปลี่ยนไป ตอนที่ดูคอนเสิร์ตไม่ได้มานั่งดูแล้ว เขาหยิบมือถือมาไลฟ์ มาถ่ายรูปอัปโหลดกันตลอดเวลา เราจึงต้องมาช่วยส่วนนี้แหละ มีอุปกรณ์กระจายสัยญาณ แต่ไม่ได้เปิดตลอดเวลา
สัมผัสความเร็ว 5G mmWave ได้ที่ AIS Flagship Store @ สยามเซ็นเตอร์
โดยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทาง AIS ได้นำมือถือที่รองรับ 5G mmWave รุ่น ASUS Snapdragon Insider ใช้ชิปเซ็ตของ Qualcomm Technologies ได้ที่ความเร็วสูงสุดถึง 3 Gbps ครั้งแรกในเมืองไทย ซึ่งมีวางขายจริงที่อเมริกา มาให้ลองเทสต์ความเร็วแล้วที่ AIS Flagship Store @ สยามเซ็นเตอร์ สามารถไปทดลองเล่นกันได้เลย แต่สมาร์ทโฟนเครื่องดังกล่าว ยังไม่ได้มีการนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย เพราะว่ายังมีราคาที่สูงมากๆ ถ้านำเข้ามา ราคาจะอยู่ที่ 6-7 หมื่นบาท เลยทีเดียว
จุดติดตั้งเครื่องกระจายสัญญาณ mmWave
หากใครอยากเห็นตัวปล่อยสัญญาณ ก็ติดตั้งอยู่ภายในช้อป AIS สยามเซ็นเตอร์ไปแล้ว 2 ตัว
และนี่คือทั้งหมดที่เราได้รับทราบจากทีมผู้บริหารเอไอเอส ถึงแนวทางการวางแผนใช้คลื่นความถี่ให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุด ที่ไม่เพียงมีคลื่นความถี่ที่ครบและครอบคลุมเท่านั้น เอไอเอสยังมีการพัฒนานวัตกรรมตลอดเวลา เป็นผู้นำให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์และรองรับการใช้งานของลูกค้าที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย แล้วปรับเปลี่ยนการจัดสรรพัฒนาคลื่นความถี่มารองรับได้อย่างตรงจุด และพัฒนาก้าวล้ำหน้าเพื่อให้ทันการใช้งานก่อนอยู่เสมอ
Comment