AIS เปิดห้องแถลงข่าวกรณีลูกค้ารวมกว่า 8 ล้านรายเตรียมมีปัญหาใช้งานไม่ได้ หลัง True เข้ารับใบอนุญาตฯคลื่น 900MHz วันนี้ แจงแค่อยากดูแลลูกค้าทุกรายให้ไม่ได้รับผลกระทบ สุดท้ายหากลูกค้าอยากย้ายค่ายไปไหนก็ยินดี แต่วันนี้ต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องและเหมาะสม ฝากกสทช.ใช้อำนาจที่มีทำเพื่อประชาชน

กำลังชุลมุนได้ที่เลยกับกรณีคลื่น 900MHz หลังการประมูลใบอนุญาตที่ AIS เจ้าของคลื่นเก่าแพ้การประมูลไป จนทำให้ผู้ใช้กว่า 12 ล้านรายที่ยังใช้งาน 2G บนคลื่นนี้เตรียมได้รับผลกระทบ ไม่สามารถใช้งาน ซึ่งล่าสุดผ่านมาเกือบ 3 เดือน ทาง AIS แจ้งว่าสามารถดูแลลูกแค้ไปได้แล้วราว 4 ล้านราย เหลืออีก 8 ล้านรายที่ยังได้รับผลกระทบ ซึ่งขอสรุปสถานการณ์ทั้งหมดออกมาดังนี้

กล่าวคือ ณ ตอนนี้มีลูกค้า AIS ราว 4 แสนรายที่เตรียมซิมดับ ได้รับผลกระทบรุนแรงทันที ส่วนลูกค้าอีกราว 7.6 ล้านคนใช้งานต่อได้ผ่านการโรมมิ่งกับ 2G Dtac (คลื่น 1800MHz) แต่ลูกค้าโรมมิ่งบางส่วนอาจจะได้รับผลกระทบเนื่องจากความครอบคลุมของ AIS และ Dtac มีไม่เท่ากันนั่นเอง

 

ไม่เคยได้รับการติดต่อจาก True และทำจริงไม่ได้ เสี่ยงผิดกฎหมาย

แม้ว่าทาง True จะได้ประกาศออกสื่อเรื่องยินดีให้ AIS ใช้งานคลื่น 900MHz ของตนฟรีนั้น แต่ทาง AIS กล่าวว่าทางบริษัทไม่เคยติดต่อมาในเรื่องนี้ ได้ยินแต่จากข่าวตามสื่อต่างๆเท่านั้น  ซึ่งทาง AIS ยินดีที่จะใช้งานพร้อมชำระเงินเสียด้วยซ้ำ หากว่ามันทำได้จริงเพราะในทางปฎิบัติแล้วติดปัญหาหลักๆอยู่ 2 ข้อ

1. ช่วงคลื่นที่ True ประมูลได้ไปนั้น เป็นคนละคลื่นกับที่ AIS ดำเนินการอยู่ก่อนหน้า ถ้าต้องการใช้งานต้องเสียเวลาในการปรับแต่งเครือข่ายค่อนข้างนาน 

2. การใช้งานคลื่นของเสี่ยงผิดกฎหมาย มาตรา 46 ซึ่ง True ไม่สามารถปล่อยคลื่นให้คนอื่นเช่าใช้งานได้ (reseller)

นอกจากนี้ยังมีเรื่องยิบย่อยอีกมากมายในทางปฎิบัติ ทั้งทาง TOT ต้องยอมให้ทาง AIS ใช้เสา และทาง True ต้องยินยอมให้บุคลากรของ AIS เข้าไปดำเนินการได้ (แต่ก็ติดม.46 อยู่ดี) และยังไม่รวมถึงการตกลงในเรื่องรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ทั้งการรับผิดชอบค่าใช้จ่าย หรือข้อตกลงในส่วนต่างๆอีกมากมาย หาก True จริงใจจะให้ AIS ใช้งานจริงแต่แรก น่าจะติดต่อตั้งแต่หลังการประมูลเพื่อให้มีการเตรียมตัวก่อน ซึ่งในตอนแรกยังกร้าวว่าจะไม่ให้โรมมิ่งอยู่เลย

ส่วนทาง JAS ที่(ยังไม่ได้)เป็นเจ้าของคลื่น Lot 1 ที่ AIS เคยใช้งานอยู่ แม้ว่าจะสามารถจ่ายเงินค่าใบอนุญาตได้ แต่ว่าทางบริษัทยังไม่ได้มี network ใดๆเลย และเช่นเดิมว่าไม่สามารถทำได้เพราะติดข้อกฎหมายเช่นกัน

 

ยินดีหากลูกค้าจะย้ายค่าย แต่วันนี้ควรทำให้ใช้งานได้ก่อน

กลุ่มลูกค้ากว่า 4 แสนรายที่เตรียมซิมดับในเที่ยงคืนวันนี้ AIS กล่าวว่าแม้ว่าจะสร้างรายได้ไม่มาก คิดเป็นรายได้ต่อหัว(ARPU)ราว 100 บาท แต่ทางบริษัทก็ไม่อยากให้ได้รับผลกระทบ ต้องการดูแลจนถึงที่สุด แล้วสุดท้ายลูกค้าจะย้ายไปไหนก็เคารพในการตัดสินใจ

 

ข้อเรียกร้องของ AIS ต่อกสทช.

เมื่อคณะกรรมการได้จัดสรรคลื่นความถี่ให้กับผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่รายใหม่แล้ว ให้คณะกรรมการกำหนดวันหยุดให้บริการ ซึ่งถือว่าเป็นวันสิ้นสุดระยะการคุ้มครองประกาศของ กสทช. เรื่องมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการ

ทาง AIS ได้เคยเรียกร้องการคุ้มครองจากทางกสทช. แต่ว่าถูกปฎิเสธด้วย 2 เหตุผล คือ ไม่มีอำนาจ และไม่อยากกลับคำพูดเพื่อความเป็นธรรมแก่ผู้ได้รับใบอนุญาต ซึ่งในความเป็นจริงมันเป็นอำนาจของ กสทช. ในการกำกับดูแล เพื่อผลประโยชน์ของผู้ใช้บริการแบบเต็มๆ กสทช. มีสิทธิและอำนาจชอบธรรมในการตัดสินใจได้ ดังที่ก่อนหน้านี้ทาง กสทช. ก็เคยปรับข้อกำหนดแบบทันด่วนเพื่อผู้บริโภคมาแล้วทีนึง ในเรื่องการย้ายค่ายให้สามารถทำเรื่องผ่านช่องทาง 7-Eleven โดยที่เอกสารไม่ต้องเป็นไปตามที่กำหนดเอาไว้ก่อนหน้านั่นเอง

AIS ต้องการจะขออนุญาตใช้งานคลื่นความถี่ 900MHz ในชุดที่ 1 ซึ่งยังว่างอยู่เพียง 5MHz (จากที่ประมูลทั้งหมด 10MHz) เนื่องจาก JAS ยังไม่จ่ายเงิน และไม่ต้องกวนการดำเนินธุรกิจของ True อีกด้วย และบริษัทไม่ได้ขอใช้งานฟรีๆ ยินดีที่จ่ายเงินให้แก่รัฐตามหลักเกณฑ์ หรือคิดตามเรตเดียวกับที่เคยเสนอคลื่นชุดที่ 1 ของ True มาก็ยังได้

 

สรุปแนวทางการดูแลลูกค้าของ AIS ในปัจจุบัน

  • จัดเครื่องทดแทนให้ฟรี ดังที่ได้เห็นการประชาสัมพันธ์อยู่ในช่วงนี้
  • ลูกค้าที่ยังถือเครื่อง 2G สามารถใช้ต่อได้ผ่านการโรมมิ่งเครือข่ายดีแทค ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
  • ขยายเครือข่าย 3G / 4G ต่อเพื่อให้ได้พื้นที่ครอบคลุมเท่า 2G เดิม (งบ 40,000 ล้านบาท)

งานนี้ก็เป็นการโยนลูกกลับไปที่ กสทช. ว่าจะตัดสินใจในกรณีนี้อย่างไร จะเลือกเดินตามคำประกาศของตัวเองให้ผู้ใช้งานที่ยังอยู่บนเครือข่าย 2G 900MHz เก่าถูกลอยแพในทันที หรือว่าจะยอมกลับคำและยื่นมือเข้าช่วยผู้ใช้งานเหล่านี้ให้ใช้งานได้ต่อไป

ไม่ว่าคำตอบที่จะออกมาแบบไหนเชื่อว่าคงจะมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นเรื่องปกติ แต่สุดท้ายก็คงได้แต่หวังว่าคนใช้บริการที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร จะได้รับผลกระทบน้อยที่สุดนั่นเองครับ