AIS ZTE 5G Home WiFi เราเตอร์กระจายสัญญาณของ AIS ที่วางขายในราคา 9,490 บาท เรียกได้ว่าตอบโจทย์ชาวหอที่อยากได้อินเตอร์เน็ตความเร็วแรง คนที่อยู่ต่างจังหวัดและต้องการติดตั้งอินเทอร์เน็ตแบบง่าย ๆ และสาย IT ที่ต้องการพกพาไวไฟไปได้ทุกที่ จะใช้ดีขนาดไหน เข้ามาดูการใช้งานเต็ม ๆ ได้ค่ะ

แกะกล่อง AIS ZTE 5G Home WiFi

AIS ZTE 5G Home WiFi หรือเราเตอร์กระจายสัญญาณ WiFi ของทาง AIS ซึ่งภายในกล่องก็จะมีอุปกรณ์มาให้ ดังนี้

  • เราเตอร์ ZTE 5G Home WiFi
  • สายชาร์จ
  • สาย LAN
  • คู่มือ

ซึ่งมีขนาด 182 x 124 x 70 มิลลิเมตร น้ำหนัก 650 กรัม มีความกะทัดรัด สามารถเคลื่อนย้ายสะดวก พกพาไปได้ทุกที่ ใช้งานง่ายมาก ๆ เพียงแค่ใส่ซิมที่มีแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตเท่านั้น อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบไร้สายและแบบมีสายได้ ซึ่งมีพอร์ต LAN ความเร็ว 1 Gb 2 ช่อง

ตัวเครื่องใช้ชิป Snapdragon X62 รองรับเครือข่ายสัญญาณ 5G ทั้ง AIS 5G SA และ NSA ซึ่งมีคุณสมบัติในเรื่องของความแรง และความหน่วงต่ำ อีกทั้งยังรองรับ WiFi6 แบบ Dual Band 2.4 GHz และ 5 GHz โดยตัวที่เราเชื่อมต่อเพื่อทดสอบวันนี้เป็น 5GHz ค่ะ

ตัวเครื่องมีเสาสัญญาณใหญ่ 10dBi เพิ่มกำลังส่งให้สามารถเล่นเน็ตได้เร็วแรง และครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น สามารถทะลุทะลวงกำแพงและสิ่งกีดขวางได้ดี และเพิ่มความเร็วขึ้นอีก 15% และรองรับสัญญาณ 5G ได้ดีขึ้น อีกทั้งยังรองรับซิมอินเทอร์เน็ตของค่ายอื่น ๆ ตามคลื่นความถี่ที่ตัวเครื่องรองรับด้วย ซึ่งในการทดลองนี้อิงจากการใช้งานแบบทั่วไปของผู้ใช้งานมือใหม่ – ระดับปานกลางนะคะ

สรุปสเปค ZTE 5G HOME WIFI

  • ขนาด : 182 x 124 x 70 mm
  • น้ำหนัก : 650g
  • จอแสดงผล : ไฟ LED แสดงสถานะ (Signal / Network / Wifi / Power)
  • CPU : Snapdragon™ X62
  • RAM : 1GB
  • ความจำ : 1GB
  • ซิมการ์ด : Nano SIM 1 ซิม
  • รองรับ : 2G, 3G, 4G, 5G WiFi 6 Dual Band 2.4GHz & 5GHz

ทดสอบการใช้งาน

ซิมที่เราใส่อยู่นั้นมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 1 Gbps และสถานที่ที่เราทดสอบนั้นคืออยู่ในซอยย่านลาดพร้าว ซึ่งก็จะมีบ้านพัก หอพัก รายล้อมอยู่ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อผลลัพธ์ค่ะ

ทดสอบความเสถียร

ในการทดสอบคามเสถียรนี้ผู้เขียนได้เชื่อมต่อเราเตอร์กับโน้ตบุ๊ค 1 เครื่อง และมือถืออีก 1 เครื่อง วางในระยะใกล้กัน จากนั้นก็ทำงานปกติ โดยมีปัจจัยรอบข้างคือจำนวนคนที่อยู่ร่วมห้อง, ช่วงเวลาที่คนเข้ามาทำงานหรือช่วงคนพักเที่ยง  จากการทดสอบ 10 ครั้ง ผลความเร็วแรงของสัญญาณที่ได้ออกมาถือว่าเสถียรเลยล่ะค่ะ อีกทั้งในการใช้ทำงานก็ไม่ได้มีปัญหาหลุดกลางคันด้วย

ครั้งที่เวลาดาวน์โหลดอัพโหลดPingจำนวนคน
111.0571.9458.63356
211.0882.9858.091710
311.1884.6854.91518
413.0473.5648.834110
513.2573.1854.93156
613.45134.1453.15156
714.2489.5860.82211
815.586.0437.131512
916.2791.1333.11615
1016.5955.4842.481610

 

ทดสอบการกระจายของสัญญาณ

ทดสอบใช้งานในอาคารชั้นที่ 2

ผู้เขียนใช้งานในตึกออฟฟิศ เป็นอาคาร 2 ชั้น ในชั้นที่ 2 ที่นั่งทำงานอยู่นั้นจะมีเนื้อที่ 133 ตร.ม ไม่รวมระเบียง ในห้องทำงานเป็นที่โล่ง ไม่ได้มีห้องซ้อน ๆ กันเยอะ จากการทดสอบใช้งานเดินไปมุมห้อง ซ้ายสุดและขวาสุด ระยะห่างนับจากตัวเครื่องประมาณ 4 เมตร ก็พบว่าสัญญาณยังได้เร็วแรงอยู่ ใช้งานได้ไม่มีปัญหาเลย และเมื่อไปที่ระเบียงที่มีระยะไกลขึ้นไปอีกก็ยังโอเคอยู่

การทดสอบ ระยะห่างดาวน์โหลดอัปโหลดPingปัจจัยรอบ ๆ
ครั้งที่ 1 ใกล้เครื่อง20 ซม.92.748.819อุปกรณ์สำนักงานทั่วไป ที่โล่ง ไม่มีกำแพงกั้น
ครั้งที่ 2 มุมห้องด้านขวา4 เมตร74.654.517อุปกรณ์สำนักงานทั่วไป ที่โล่ง ไม่มีกำแพงกั้น
ครั้งที่ 3 มุมห้องด้านซ้าย3 เมตร74.249.118อุปกรณ์สำนักงานทั่วไป มีกระจกกั้น 1 ชั้น
ครั้งที่ 4 ระเบียง6 เมตร73.846.219ระยะจากเราเตอร์ถึงระเบียงต้องผ่านกระจก 2 ชั้น

ทดสอบใช้งานในอาคารชั้นที่ 1

ในชั้นที่ 1 มีเนื้อที่ 300 ตร.ม. จากการทดสอบการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบที่วางเราเตอร์ไว้ที่ชั้น 2 ที่เดิม พบว่า หากเดินลงมาด้านล่างให้หัวของเราตรงหรือเยื้อง ๆ กับเราเตอร์ สัญญาณก็ยังใช้ได้ดี แต่ถ้าเราเดินออกไปอีกห้องใกล้ ๆ สัก 5-7 เมตร สัญญาณจะอ่อนจนหายไปเลย

สถานที่ระยะห่างดาวน์โหลดอัปโหลดPingปัจจัยรอบ ๆ
ครั้งที่ 1 ชั้น 1 ยืนเยื้อง ๆ เครื่อง2 เมตร63.942.418อุปกรณ์สำนักงานทั่วไป มีฝ้าเพดานกั้น
ครั้งที่ 2 ชั้น 1 ห้องครัว5 เมตร16.44.5143ระยะห่างจากเครื่องค่อนข้างไกล ต้องผ่านหลายห้อง ซึ่งก็เป็นกำแพงหลายชั้น
ครั้งที่ 3
ชั้น 1 ห้องสตูดิโอ ติดครัว
4 เมตร49.841.819ระยะห่างจากเครื่องไกล ต้องผ่านหลายห้อง
ครั้งที่ 4 ชั้น 1 ที่จอดรถ3 เมตร73.941.919ระยะห่างไม่ไกลเครื่องมากเท่าครัว แต่ผ่านกำแพงเพียงชั้นเดียว

ทดสอบในที่โล่งแจ้ง

เราได้ทำการวางเราเตอร์ไว้ที่โล่ง ณ กลางถนน จากนั้นก็เดินไปที่ท้ายซอยซ้ายขวา  ตามภาพแผนที่ที่เราแปะไว้ พบว่า ในระยะทางเท่ากัน เมื่อเดินเข้าซอยไปทางซ้ายที่มีความแคบกว่าและรอบ ๆ เป็นบ้านพักอาศัยหลังอื่น ๆ ซึ่งสัญญาณอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด เทียบกับด้านขวาที่พื้นที่ซอยจะมีความกว้างกว่า มีบ้านที่ร่นระยะเข้าไปอีก เมื่อเดินไปยังจุดดังกล่าวตามระยะทางสัญญาณเน็ตก็ยังเชื่อมต่อและใช้งานได้อยู่

การทดสอบระยะห่างดาวน์โหลดอัปโหลดPingปัจจัยรอบ ๆ
ครั้งที่ 1ใกล้เครื่อง85.519.425กลางถนนที่โล่งแจ้ง แต่มีบ้านอยู่รอบ ๆ
ครั้งที่ 219 เมตร48.92028มีบ้านอยู่รอบ ๆ 4 หลังอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อสัญณาณอยู่
ครั้งที่ 332 เมตร22. 99.5621เดินเลยหัวมุมซอยออกไป มีบ้านอยู่รอบ ๆ 4 หลัง
ครั้งที่415 เมตร11020.420พื้นที่ซอยกว้างขึ้นและความหนาแน่นของบ้านน้อยลง มีบ้านขนาบข้าง 2 หลัง
ครั้งที่ 530 เมตร58.918.921พื้นที่ซอยกว้างขึ้นและความหนาแน่นของบ้านน้อยลง มีบ้านขนาบข้าง 2 หลัง

ZTE 5G Home WiFi สามารถกระจายสัญญาณได้ประมาณ Router ที่แถมมากับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ในรุ่นที่เก่าหน่อย) เพราะพวกรุ่นใหม่ ๆ Wi-Fi 6 คาดหวังเรื่องของประสิทธิภาพได้มากกว่านี้เล็กน้อย สัญญาณสามารถทะลุกำแพงได้ประมาณ 2 ชั้น เหมาะสำหรับพื้นที่ประมาณคอนโดที่มีห้องนอนประมาณ 2 ห้อง ตัวเดียวเอาอยู่ ส่วนถ้าต้องการประสิทธิภาพการกระจายสัญญาณ Wi-Fi ที่ดีมากยิ่งขึ้น แนะนำว่าให้ต่อ Access Point เพิ่ม จะทำให้สัญญาณแรงขึ้นกว่านี้

ทดสอบการเชื่อมต่อพร้อมกันหลาย ๆ อุปกรณ์

เราได้ทำการนำมือถือของเพื่อนชาวออฟฟิศจำนวน 10 เครื่องมาเชื่อมต่อไวไฟและเปิดวิดีโอ ภาพยนตร์แบบ 4K หรือวิดีโอไลฟไปพร้อมกัน ผลลัพธ์คือ ทุกเครื่องสามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหล ใครที่เพื่อนเยอะรับรองว่าเอาอยู่ค่ะ

ทดสอบการเล่นเกม

ในการทดสอบการเล่นเกม ผู้เขียนได้เชื่อมต่อโน้ตบุ๊ค 3 เครื่อง สมาร์ทโฟน 2 เครื่อง รวม 5 อุปกรณ์ เชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ทั้งหมด โดยมีโน้ตบุ๊คเครื่องที่ 1 เล่นเกม League of Legends และโน้ตบุ๊คทั้ง 2 เครื่อง 2 ดู Live Stream  ส่วนสมาร์ทโฟนทั้งสองเครื่องดู Youtube

พบว่าเครื่องที่เล่นเกมมีค่า Ping อยู่ที่ 20-25 ms ซึ่งถ้าเทียบกับเน็ตบ้านจะอยู่ที่ไม่เกิน 10 ms ถือว่าเล่นได้เลยนะ จะมีอาการ Ping พุ่งสูง บ้างเล็กน้อย นาน ๆ ครั้ง ไม่ได้รบกวนการเล่นเกมมากนัก ส่วนเครื่องอื่น ๆ ที่ไม่ได้เล่นเกมก็ยังสามารถดู Live Stream ได้อย่างลื่นไหล แต่คิดว่าถ้ามีเครื่องไหนโหลด Bittorrent ขึ้นมาน่าจะล่มทั้งขบวนแน่นอน

ทดสอบการจับสัญญาณ เทียบกับสมาร์ทโฟน

ในการทดสอบการจับสัญญาณ ทำโดยนำอุปกรณ์มาวางอยู่ใกล้ ๆ กัน แล้วกด Speedtest พร้อมกัน ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ทดสอบมีดังนี้ iPhone 14 Pro, iPhone 13 Pro และ โน้ตบุ๊คต่อสาย LAN เข้ากับตัว Router จากนั้นกด Speedtest พร้อมกันพบว่า ตัว ZTE 5G Home WiFi มีความเร็วที่น้อยกว่า iPhone ตั้งสองเครื่องอย่างเห็นได้ชัด

ซึ่งถ้ามองด้วยกายภาพแล้ว จะรู้สึกว่า ZTE 5G Home WiFi มีขนาดใหญ่กว่า iPhone ดังนั้นเสาสัญญาณก็น่าจะใหญ่กว่า แต่จากผลการทดสอบปรากฎว่า ความเร็วที่ได้น้อยกว่า iPhone อีก จึงอาจสรุปได้ว่าอุปกรณ์ที่เชื่อมเสาสัญญาณ (Cell Site) เดียวกันจะได้รับลำดับความสำคัญ (QoS) ที่ต่างกันในช่วงเวลานั้น ๆ โดยสมาร์ทโฟนจะได้ความสำคัญสูงสุด จึงได้ความเร็วที่มากกว่า

แต่ถ้าทดสอบโดยตัว ZTE 5G Home WiFi เดี่ยว ๆ จะทำความเร็วได้สูงกว่าทดสอบพร้อมกันมาก จึงอาจทำให้มีตัวแปรที่ควบคุมไม่ได้ส่งผลต่อความเร็วที่ได้รับในแต่ละช่วงเวลาด้วย

สรุปการใช้งาน

ZTE 5G Home WiFi เป็นเครื่องกระจายสัญญาณที่พกพาสะดวก ใช้งานง่าย ใครที่ทำงานนอกสถานที่บ่อย ๆ และต้องการตัวกระจายสัญญาณดี ๆ สักตัวถือว่าตอบโจทย์เลย หรือใครที่ไม่สะดวกติดอินเทอร์เน็ตแบบต่อสายไฟเบอร์ ต้องการจะซื้อมาใช้งานภายในบ้านก็สะดวกดีเช่นกัน เพราะสัญญาณสามารถกระจายได้กว้างค่ะ

ZTE 5G Home WiFi เหมาะกับใครบ้าง

  • เหมาะกับผู้ที่พักอาศัยที่หอพัก คอนโดมิเนียมที่เน็ตไม่สามารถลากไฟเบอร์ขึ้นไปได้
  • ผู้ที่อยู่ในพื้นที่สาย Fiber Optic เข้าไม่ถึง
  • ผู้ที่ย้ายบ้านบ่อย และไม่อยากติดเน็ตให้ยุ่งยาก
  • สาย Freelance หรือคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อย ๆ
  • องค์กรที่ต้องการอินเทอร์เน็ตสำรอง (Backup Failover)
  • ผู้ที่ต้องการ Router Mifi ที่มีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงกว่า 4G

ราคาจำหน่าย

ZTE 5G Home WiFi วางขายในราคา 9,490 บาท สามารถผ่อนชำระดอกเบี้ย 0% ได้นานสูงสุด 10 เดือน สำหรับลูกค้าทั่วไปที่ซื้อเครื่องในช่วง 1 มิถุนายน 2566 – 30 มิถุนายน 2566 รับส่วนลด 1,000 บาท เหลือเพียง 8,490 บาท สั่งซื้อได้ผ่านช่องทาง AIS Online Store  รับประกัน 1 ปี นับจากวันที่ซื้อในใบเสร็จ/ใบกำกับภาษีจากร้านค้า AIS หรือตัวแทนจำหน่าย