การแพร่ระบาดของไวรัสและโรค COVID-19 ที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ทำให้เหล่าซีอีโอของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ทั้ง Amazon , Apple และ Microsoft ต่างออกมาเผยแนวทางการช่วยเหลือของบริษัท ที่มีทั้งการบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์หรืออุปกรณ์ป้องกันสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งการพัฒนาซอฟแวร์เพื่อช่วยติดตามและวิเคราะห์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 จากทั่วโลกด้วย
เริ่มจากคนแรก Tim Cook ซีอีโอของ Apple ได้โพสข้อความลงบนทวิตเตอร์ว่า ทางบริษัทได้กำลังพยายามหาอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งยังได้บริจาคหน้ากากอนามัยจำนวนหลายล้านชิ้นให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานด้านสุขภาพทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรป รวมถึงได้บริจาคเงินจำนวน 15 ล้านดอลล่าร์สหรัฐในการช่วยเหลือวิกฤติในครั้งนี้ด้วย
ถัดมาคือ Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งและซีอีโอเว็บไซต์ Amazon ได้อัพเดทข้อมูลการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการจัดลำดับความสำคัญในการส่งสินค้า โดยในตอนนี้ทางบริษัทจะมุ่งความสำคัญไปที่การส่งของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน, สินค้าสำหรับเด็กเล็ก และอุปกรณ์ทางการแพทย์เป็นหลัก และยังจ้างพนักงานเพิ่มกว่า 100,000 คน บวกกับเพิ่มค่าจ้างรายชั่วโมงให้กับพนักงานที่ต้องทำงานหนักในช่วงนี้
นอกจากนี้ Bozos ยังระบุอีกว่า บริษัทได้สั่งซื้อหน้ากากอนามัยนับล้านชิ้นให้กับพนักงานประจำ และพนักงานแบบสัญญาจ้างที่ไม่สามารถทำงานที่บ้านได้ อีกทั้งยังระบุว่าหน้ากากเหล่านี้จะถูกส่งไปให้บุคลากรที่ทำงานด้านสุขภาพเป็นอันดับแรก แล้วค่อยแจกจ่ายให้กับพนักงานอื่นๆ ตามลำดับความสำคัญในแต่ละสายงานที่ทางบริษัทได้ตั้งไว้
สุดท้ายกับ Satya Nadella ซีอีโอบริษัท Microsoft ได้โพสท์อธิบายถึงซอฟท์แวร์สำหรับช่วยเหลือทางการแพทย์ในระยะไกล, ข้อมูลการติดตามผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ที่ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัย John Hopkins เพื่อพัฒนาเว็บสำหรับติดตามการระบาดของไวรัส, อีกทั้งทางศูนย์ควมคุมและป้องกันโรค (CDC) ยังได้ใช้เครื่องมือการประเมิน COVID-19 ซึ่งใช้เทคโนโลยี Chatbot ของ Microsoft ในการทำงานอีกด้วย
นอกจากนี้ Microsoft ยังได้ใช้เกม Minecraft (Microsoft ซื้อเกมนี้ไปเมื่อปี 2014) เพื่อเป็นสื่อในการสอนหนังสือทางไกลให้กับเหล่านักเรียนที่ต้องหยุดเรียนเนื่องจากการระบาดของไวรัส แถมยังกำลังพัฒนาระบบ Machine Learning สำหรับการเก็บข้อมูลต่างๆ เพื่อใช้ในการวิจัยไวรัส COVIC-19 อีกด้วย
จะเห็นได้ว่าในขณะที่โลกกำลังเกิดวิกฤติหนักขนาดนี้ เราก็ยังได้เห็นน้ำใจและการร่วมแรงร่วมใจของเหล่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ทั้งหลายออกมาช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่เพื่อที่จะผ่านเรื่องร้ายเหล่านี้ไปให้ได้นั่นเองค่ะ
ที่มา : Techcrunch
แล้วลุงจะให้เท่าไร