สรุปฟีเจอร์ใหม่ Android 15 Beta 1 มือถือรุ่นไหนได้อัปเดตบ้าง

Google ปล่อย Android 15 Beta 1 อย่างเป็นทางการ ตรงตามไทม์ไลน์ที่ประกาศไว้ต้นปี เวอร์ชันนี้เป็นเวอร์ชันที่ฟีเจอร์และความเสถียรของระบบเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว (ต่างจากตอน Developer Preview ที่ยังมีบักเยอะ) ของใหม่ที่สำคัญคือ แอปที่ตั้ง target เป็น SDK 35 หรือ Android 15 จะแสดงผลแบบ edge-to-edge เป็นค่าเริ่มต้นโดยอัตโนมัติ และฟีเจอร์ app archiving ถูกเปลี่ยนเป็นการรองรับในระดับระบบปฏิบัติการแล้ว

บังคับทุกแอปแสดงผล Edge-to-edge เต็มจอ ไม่มีแถบดำ

การควบคุมด้วยท่าทาง หรือ gesture navigation ถูกนำมาใช้งานครั้งแรกบน Android ตั้งแต่ตอน Android 10 เมื่อประมาณ 5 ปีก่อน ปัญหาคือ แอปหลายตัวในตลาด ไม่ได้อัปเดตโค้ด EnableEdgeToEdge() ในแอปให้แสดงผลแบบ edge-to-edge หรืออัปเดต แต่ไม่ครบทุกส่วน ส่งผลให้พื้นหลังของแถบ navigation bar ยังแสดงผลเป็นสีดำ อาจดูแล้วขัดตา

แต่ใน Android 15 แอปใด ๆ ที่กำหนด target เป็น Android 15 แล้ว แถบ navigation bar และ status bar จะแสดงผลแบบโปร่งใส หรือกึ่งโปร่งใส โดยอัตโนมัติ เรียกว่า edge-to-edge โดยที่นักพัฒนาไม่จำเป็นต้องใส่ EnableEdgeToEdge() ในโค้ด (แต่ Google ก็แนะนำว่าจริง ๆ ควรใส่มาอยู่ดี เพราะจะมีผลย้อนหลังกับ Android 14 และเวอร์ชันก่อนหน้า)

ฝัง App archiving มาในระบบปฏิบัติการ

ฟีเจอร์ app archiving เป็นฟีเจอร์แบ็กอัปข้อมูลในแอปไปเก็บบนคลาวด์ พร้อมกับลบข้อมูลในส่วนที่ถูกแบ็กอัปแล้วนั้นออกไป เพื่อประหยัดพื้นที่สตอเรจในเครื่อง เหมาะสำหรับมือถือที่มีความจุไม่เยอะ และแอปที่ไม่ได้มีการใช้งานบ่อย ฟีเจอร์นี้มีมาตั้งแต่ปี 2022 ก่อนที่ Google จะอัปเกรดอีกครั้งเป็น auto-archive เมื่อปีที่แล้ว แต่จนถึงก่อนหน้านี้เป็นฟีเจอร์ที่ผูกไว้กับ Play Store ส่วน Android 15 ได้ฝังมาเป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการแล้ว ทำให้การรองรับขยายวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะมือถือในตลาดจีนที่ไม่มี GMS และ Play Store ติดตั้งมา

รองรับอักษรเบรลล์ได้มากขึ้น

TalkBack ชุดเครื่องมือช่วยการเข้าถึงของ Android 15 รองรับการแสดงผลอักษรเบรลล์ที่ใช้มาตรฐาน HID ผ่านทั้ง USB และ Bluetooth ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับที่ใช้บนเมาส์และคีย์บอร์ดแล้ว ผลคือ Android จะสามารถรองรับอักษรเบรลล์ได้หลากหลายขึ้นอย่างมาก ทั้งในตอนนี้และในอนาคต ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการมองเห็น ในการใช้งานฟีเจอร์ช่วยการเข้าถึงบน Android

ความเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ

เพิ่มการจัดตัวอักษรชิดขอบซ้ายขวา (justification) แบบเว้นช่องว่างระหว่างตัวอักษร (inter-character) จากเดิมที่มีแค่การเว้นช่องว่างระหว่างคำ (inter-word) ภาษาที่ได้ประโยชน์คือ ภาษากลุ่มที่มี white space ตัวต่อตัว เช่น ภาษาจีนและภาษาญี่ปุ่น ทำให้จัดตัวอักษรชิดขอบได้เป็นธรรมชาติแล้ว (ถ้างง ดูภาพประกอบได้)
เพิ่มคีย์จัดการการเข้ารหัส end-to-end encryption (E2EE) เป็น API ในระดับระบบปฏิบัติการ
เพิ่มการจำกัดสิทธิ์ของแอปที่ทำงานในเบื้องหลังให้เข้มงวดมากขึ้นเพื่อความปลอดภัย เป็นการต่อยอดมาจากแนวทางใน Android 10