กูเกิลได้กำหนดให้แอปพลิเคชันสำหรับมือถือ Android ที่ถูกติดตั้งจาก Play Store ทำการอัปเดตตัวเองโดยอัตโนมัติเมื่อเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi เป็นค่าเริ่มต้น แม้จะเป็นวิธีการที่สะดวก ช่วยให้แอปเป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ แต่ในบางครั้งเราอาจไม่ได้ต้องการให้มันเป็นอย่างนั้นเสมอไป โดยสามารถเข้าไปตั้งค่ายกเว้นแอปบางตัวได้

วิธีปิด Auto-Update เฉพาะบางแอป บน Play Store

ก่อนอื่นให้เราเปิด Play Store ขึ้นมาตามปกติ แล้วไปยังแอปที่เราต้องการให้อัปเดตอัตโนมัติ จากนั้นให้แตะที่ปุ่มเมนูบริเวณมุมขวาบนของหน้าจอ นำติ๊กถูกที่รายการ “เปิดใช้การอัปเดตอัตโนมัติ” ออก แค่นี้เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

  • เปิด Play Store
  • เข้าไปที่แอปที่ไม่ต้องการให้อัปเดตอัตโนมัติ
  • แตะเมนู ⫶ บริเวณมุมขวาบนของหน้าจอ
  • นำเครื่องหมายถูก √ ออกจาก “เปิดการอัปเดตอัตโนมัติ”

การปิดอัปเดตอัตโนมัติแบบนี้ ยังส่งผลครอบคลุมสำหรับคนที่เลือกใช้การอัปเดตด้วยตนเองด้วย ในกรณีที่มีการกด “อัปเดตทั้งหมด” ระบบจะขึ้นข้อความแจ้งเตือนว่า มีแอปในรายการที่ถูกปิดการอัปเดตอัตโนมัติอยู่ จึงทำให้สามารถยกเว้นได้โดยการกด “ข้าม”

อาจดูเป็นเพียงเทคนิคง่าย ๆ แต่มีประโยชน์พอสมควร อย่างในกรณีของผมคือ Play Music ที่หากเผลออัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดจะไม่สามารถใช้งานแอปได้ แถมกูเกิลยังถอดแอปออกจาก Play Store ไปแล้วอีกต่างหาก สำหรับมือถือบางรุ่นที่ไม่ได้มีการติดตั้งล่วงหน้ามาจากโรงงาน การย้อนกลับไปเวอร์ชันเก่าจึงไม่สามารถทำได้

ดังนั้นด้วยวิธีนี้จึงทำให้ผมสามารถอัปเดตแอปอื่น ๆ แบบอัตโนมัติต่อไปตามปกติได้ โดยที่ระบบจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับ Play Music เพียงแอปเดียว หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ นะครับ