ตลอดสิบกว่าปีนับตั้งแต่ iPhone เปิดตัวออกมา ผู้ใช้งาน iOS ถูกจำกัดให้โหลดแอปได้แค่บน App Store เท่านั้น ซึ่งจะเรียกได้ว่าเป็นข้อดี หรือข้อเสียก็ไม่รู้ เพราะถือเป็นการป้องกันมือถือของเราให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามไม่พึงประสงค์จากแอปนอก แต่อย่างไรก็อาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกขาดอิสระทั้ง ๆ ที่ควักเงินซื้อมือถือมาเอง แต่หลังจากนี้กำแพง “ระบบปิด” ที่ Apple ก่อสร้างมานานกว่าสิบปีจะถูกพังทลายลง หลัง EU ได้เตรียมบังคับใช้กฎหมายใหม่ในปี 2024 ให้ผู้ใช้สามารถ Sideload แอปสำหรับ iPhone ได้

สื่อใหญ่อย่าง Bloomberg ได้รายงานว่า Apple เตรียมพัฒนาฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้งาน iOS ดาวน์โหลดแอปจากนอก App Store ได้อย่างอิสระ หลังสหภาพยุโรป หรือ EU ได้ไฟเขียวเตรียมบังคับใช้กฎหมายใหม่อย่าง Digital Markets Act ในปี 2024 ซึ่งเป็นกฎหมายที่เข้ามาดูแลในเรื่องของการผูกขาดบริการออนไลน์ หลังจากที่เหล่านักพัฒนา และผู้ใช้งานต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าทั้ง App Store และ Google Play มีอำนาจมากเกินไปในตลาดนี้

กฏหมาย Digital Markets Act ที่ว่านี้จะทำให้นักพัฒนาไม่ต้องโดน Apple หักเปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งรายได้จากการจ่ายเงินในสโตร์สุดโหดกว่า 30% แถมยังถือเป็นข้อดีสำหรับผู้ใช้งานที่มีอิสระมากขึ้นในการใช้งาน แต่อย่างไรก็ตามต้องแบกรับความเสี่ยงกันเองจากภัยคุกคามไม่พึงประสงค์ที่ซ่อนอยู่ในแอปนอกสโตร์ที่ไม่ได้ผ่านการกรองจาก Apple มาก่อน

แต่อย่างไรก็ตามฟีเจอร์ที่ว่านี้ยังไม่แน่ใจว่าจะอัปเดตให้ผู้ใช้งาน iOS ทั่วโลกได้ใช้งานหรือเปล่า เพราะกฎที่ว่านี้บังคับใช้แค่เฉพาะประเทศในกลุ่ม EU เท่านั้น ซึ่งในสหรัฐอเมริกา รวมถึงไทยเองก็ไม่ได้มีกฎหมายบังคับในเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะเหตุนี้ Apple อาจหาทางหลบหลีก และปล่อยให้อัปเดตเฉพาะในเครื่องโมเดล EU ก็เป็นได้

นอกเหนือจากนี้ Apple ยังอาจเตรียมอัปเดตครั้งใหญ่ให้กับแอป iOS Only อย่าง iMessage ให้ใช้งานในระบบอื่นได้ อีกทั้งยังอาจเตรียมปลดล็อกระบบ NFC ให้ใช้งานได้ในแอปอื่น ๆ หลังจากที่ล็อกให้ใช้งานได้เฉพาะเวลาจ่ายเงินผ่าน Apple Wallet เท่านั้น เนื่องจากกฎหมาย Digital Markets Act กำหนดไว้ว่าต้องยอมให้ค่ายคู่แข่งเข้าถึงแอปเหล่านี้ได้เพื่อลดการผูกขาดนั่นเอง เรียกได้ว่าปี 2024 จะเป็นปีที่ Apple ต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เลยทีเดียว เพราะกฎบังคับใช้พอร์ต USB-C ก็บังคับใช้ภายในสิ้นปี 2024 ด้วยเช่นกัน

EU ขีดเส้นตายอย่างเป็นทางการ iPhone ต้องเปลี่ยนเป็น Type-C ภายใน 28 ธ.ค. 2024

 

ที่มา: Bloomberg, Android Authority