Apple ขอฮึดสู้อีกครั้งในสังเวียนลำโพงอัจฉริยะเปิดตัว HomePod 2 มาแบบเซอร์ไพรส์ หลังโดน Amazon Alexa และ Google Home ชกหมัดหนักจนต้องเลิกขายไปในปี 2021 และเหลือแค่ HomePod mini ไว้ขายต่างหน้า โดยรุ่นล่าสุดนี้มาพร้อมระบบเสียงที่ดีกว่าเดิม พร้อมเพิ่มไฟ LED สวยงามไว้ด้านบนด้วย
Apple HomePod 2 ใช้ดีไซน์แบบเดิม
Apple HomePod 2 มาในดีไซน์ที่ดูคุ้นตาบุผ้าลายตารางรีไซเคิล 100% แบบไร้รอยต่อคล้ายรุ่นเดิม แต่ที่พิเศษคือในรุ่นใหม่นี้ได้เพิ่มไฟ LED ให้ดูสวยงามมากยิ่งขึ้นเหมือนในรุ่น HomePod mini โดยในรุ่นใหม่นี้ มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 2 สีคลาสสิก ได้แก่สีขาว และสีดำมิดไนท์ มาพร้อมกับสายไฟแบบถักสีเข้ากันให้ด้วย
Apple HomePod 2 อัปเกรดระบบเสียงให้ดียิ่งขึ้น
HomePod 2 ได้มีการยกเครื่องระบบเสียงใหม่ มาพร้อมซัฟวูฟเฟอร์แบบ High Excursion ที่ถูกปรับแต่งมาพิเศษให้เสียงเบสทุ้มลึก กระหึ่มได้ใจ อัปเกรดไดอะแฟรม (กรวยลำโพง) ขนาดใหญ่ 20 มม. มีชุดลำโพงทวีตเตอร์ 5 ตัวเรียงต่อกัน มาพร้อมกับไมค์โครโฟนในตัวแบบ Bass-EQ
สเปคลำโพงทั้งหมดนี้จะทำงานร่วมกับชิปเสียง Apple S7 เพื่อทำการประมวลผลเสียง และวัดพื้นที่ผ่านเสียงสะท้อนแบบ real-time ไม่ว่าจะตั้งไว้ตรงไหน HomePod 2 ก็จะเปลี่ยนลักษณะเสียงให้เข้ากับพื้นที่นั้น ๆ เพื่อให้ได้อรรถรสที่สมบูรณ์ที่สุดในการฟังเพลง
นอกจากนี้แล้ว Apple HomePod 2 ยังรองรับการเชื่อมต่อกับ HomePod 2 หรือ HomePod mini อีก 1 ตัวเพื่อใช้งานเป็นลำโพงคู่แบบ Stereo นอกจากนี้แล้วตัวลำโพงยังรองรับระบบเสียงรอบทิศทาง Spartial Audio และระบบเสียง Dolby Atmos ด้วย
ฟีเจอร์เด่นของ Apple HomePod 2
HomePod 2 มาพร้อมผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Siri สามารถสั่งการได้ผ่านเสียง ซึ่ง HomePod 2 สามารถจดจำเสียงของผู้ใช้งานได้สูงสุดถึง 6 คน มีเซนเซอร์ตรวจจับควันไฟ หากตรวจพบลำโพงจะส่งการแจ้งเตือนไปที่ Apple Device ของผู้ใช้งานทันที, มีเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิ และความชื้นแบบ Real-time ที่สามารถตั้งให้แจ้งเตือน หรือสั่งปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า Smart Home ตามที่เรากำหนดไว้ เช่น กำหนดให้ปิดแอร์ หรือปิดม่านเมื่อถึงอุณหภูมิที่กำหนด
ราคา และวันวางจำหน่าย
Apple HomePod 2 เปิดตัวมาที่ราคา 299 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 9,900 บาท ไม่รวมภาษี) โดยจะทำตลาดในออสเตรเลีย, แคนาดา, จีน, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ญี่ปุ่น, สเปน, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา และอีกกว่า 11 ประเทศ แต่ยังไม่ทำในตลาดในประเทศไทยเช่นเดิม หากใครสนใจก็ยังคงต้องพึ่งร้านหิ้วเหมือนเดิม
ที่มา: Apple
Comment