Apple เพิ่มหน้าเพจ Reasons to Upgrade บนเว็บไซต์ apple.com ชวนคนใช้ iPhone 11 series และ iPhone 12 series ที่กำลังจะมีอายุครบ 5 และ 4 ปี ภายในปีนี้ ให้เปลี่ยนมาใช้ตระกูล iPhone 15 series ที่เป็นมือถือรุ่นล่าสุดของค่ายแทน พร้อมทำข้อมูลเปรียบเทียบให้ดูว่า อัปเกรดเป็นรุ่นใหม่แล้ว ดีกว่าเดิมยังไง มีจุดแตกต่างกันตรงไหน ได้ฟีเจอร์อะไรใหม่บ้าง

ยกตัวอย่างข้อดีของการอัปเกรดจาก iPhone 11 series และ iPhone 12 series มาเป็น iPhone 15 series บางส่วน ตามที่ Apple นำเสนอ เช่น

  • กล้องความละเอียดสูงขึ้น จาก 12MP เป็น 48MP ทั้งกล้องหลัก กล้องอัลตราไวด์ และกล้องเทเลโฟโต
  • ถ่ายภาพซูมได้ดีขึ้น ทั้งการซูมในเซนเซอร์ และการซูมออปติคัล
  • ได้ความจุเริ่มต้นเพิ่มขึ้นในหลาย ๆ รุ่น
  • ชิป A16 Bionic ใน iPhone 15 และชิป A17 Pro ใน iPhone 15 Pro ทรงพลังกว่าเดิม
  • มีเกาะหรรษา Dynamic Island สำหรับแสดงสถานะต่าง ๆ อย่างยืดหยุ่น
  • รองรับการถ่าย ProRes และ Cinematic mode
  • เพิ่มเอฟเฟกต์พอร์เทรต หน้าชัดหลังละลาย ให้ภาพบุคคลที่ถ่ายใน Photo mode แบบปกติได้

นอกจากนี้ Apple ยังได้นับว่า USB-C เป็นหนึ่งในจุดเด่นของ iPhone 15 series ด้วย แม้ที่ผ่านมา Apple จะแสดงจุดยืนชัดเจนว่าอยากเก็บพอร์ต Lightning ไว้ตามเดิม ตามที่พนักงานระดับสูงของบริษัทเคยออกมายอมรับว่ารู้สึก ‘ไม่พอใจ’ ที่สหภาพยุโรปออกกฎบังคับใช้พอร์ต USB-C กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพา พร้อมชี้ให้เห็นว่าแนวทางนี้จะไม่ก่อให้เกิดการพัฒนา

ในความเห็นส่วนหลังสุด อาจฟังดูขัดแย้งกับความเป็นจริงที่พอร์ต Lightning อยู่เคียงคู่กับ iPhone มานานถึง 10 ปี โดยที่ยังติดแหง่กอยู่กับ USB 2.0 จวบจน iPhone 14 series ที่เป็นรุ่นสุดท้ายที่มีการใช้งาน

อย่างไรก็ดี เวลาเปลี่ยน – คนเปลี่ยน ตอนนี้ Apple ยอมนับว่า USB-C เป็น ‘ข้อดี’ แล้ว โดย Apple บอกว่า USB-C เหนือกว่า Lightning ตรงที่ถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วกว่าเดิมสูงสุด 20 เท่า และเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นได้หลากหลายด้วยสายเพียงเส้นเดียว เช่น Mac, MacBook, iPad และพีซีทั่วไป

ในหน้าเพจ Reasons to Upgrade มีให้เลือกเฉพาะ iPhone 11 series และ iPhone 12 series ในการเปรียบเทียบกับ iPhone 15 series สาเหตุที่ Apple เลือก iPhone สองรุ่นนี้ อาจเป็นเพราะตามผลสำรวจในช่วงหลัง มักพบว่าคนใหญ่มักเปลี่ยนมือถือกันทุก ๆ 3 – 4 ปี ซึ่งทั้งสองรุ่นข้างต้น ก็มีอายุห่างกับ iPhone 15 series อยู่ 4 และ 3 เจเนอเรชันพอดี

ที่มา : Apple