Fortnite Mobile เกม Battle Royale ชื่อดังจากค่าย Epic Games ล่าสุดได้โดนนำออกจากร้านค้าออนไลน์ของทั้ง Play Store และ App Store ฐานละเมิดกฎผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่นจากการเปิดให้ซื้อค่าเงินในเกม (IAP) โดยที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากระบบของ Google และ Apple อีกทั้งค่าใช้จ่ายของบริการนั้นก็ถูกโอนเข้า Epic Games โดยตรงอีกต่างหาก
ทุกคนก็น่าจะเคยเติมเกมออนไลน์บนมือถือกันมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ROV, PUBG, Call of Duty ฯลฯ หรือเกมกาชาเกลือทั้งหลายแหล่ (ผมก็เคย 😂) ซึ่ง App store นั้นได้มีกฎชัดเจนเกี่ยวกับการขายสินค้าในแอปพลิเคชั่น อยู่ในหน้าไกด์ไลน์ของแอปสโตร์อยู่แล้วว่า การสมัครเพื่อเปิดฟีเจอร์พิเศษ หรือซื้อค่าเงินในเกม จำเป็นจะต้องใช้สิ่งที่เรียกว่า IAP (In-app Purchase) ในการซื้อสินค้า หรือบริการผ่านตัวแอปพลิเคชั่นที่ได้รับการตรวจสอบจาก App Store มาแล้ว อีกทั้งยังห้ามใส่ปุ่มกดที่นำไปสู่การจ่ายเงินนอกแอปพลิเคชั่นก่อนได้รับอนุญาตอีกด้วย
โดยเมื่อวันที่ Fortnite โดนแบนออกจาก App Store นั้น ทาง Epic Games ได้จัดโปรโมชั่นในการซื้อหน่วยเงินในเกมที่เรียกว่า V-bucks ในราคา 7.99 USD (ราว ๆ 250 บาท) ต่อ 1 ,000 V-bucks ซึ่งการจะซื้อแพ็กเกจนี้ ผู้เล่นจะต้องไปซื้อผ่านหน้าเว็บของ Epic Store เท่านั้น ซึ่งขัดกับกฎข้อบังคับของ App Store โดยตรง ทำให้ Apple จำเป็นที่จะต้องถอนแอปพลิเคชั่น Fortnite ออกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่ใช่เพียงแค่ App Store เท่านั้น แต่ Play Store ของ Google ก็ยังถอนแอปพลิเคชั่น Fortnite ออกไปด้วยเหตุผลเดียวกัน
จากเหตุการณ์ดังกล่าว Epic Games ก็ไม่นิ่งเฉย ยื่นฟ้องร้องทั้ง 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ด้วยใจความสำคัญหลัก ๆ ที่ว่า “Apple ได้ใช้ความเป็นผู้ผูกขาดทางการค้าของตนเองในการควบคุมตลาด ตัดขาคู่แข่งทางการค้า และขัดขวางการพัฒนาของผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่นอย่างไม่เป็นธรรม” อีกทั้งยังกล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่าการเก็บค่าคอมมิชชั่นถึง 30% ของทุกการซื้อขายใน Play Store และ App Store นั้นมันมากเกินไป
Epic Games has defied the App Store Monopoly. In retaliation, Apple is blocking Fortnite from a billion devices.
Visit https://t.co/K3S07w5uEk and join the fight to stop 2020 from becoming "1984" https://t.co/tpsiCW4gqK
— Fortnite (@FortniteGame) August 13, 2020
นอกจากนี้ Fortnite ก็ยังกัด Apple อย่างเจ็บแสบด้วยการทำคลิปสั้น ๆ อิงหนังสือชื่อดังของ George Orwell เรื่อง 1984 ที่ตราหน้าให้ Apple เป็นเหมือนเผด็จการที่คอยเอาเปรียบผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่นทั้งหลาย แถมยังเชิญชวนผู้เล่นให้ออกมาช่วยแสดงจุดยืนร่วมกับ Epic Game อีกด้วย
Epic Games ได้ออกมาให้เหตุผลในการฟ้องว่าแอปพลิเคชั่นจำพวก Uber หรือ StubHub ที่ซื้อขายสินค้า และบริการจริง ๆ ยังไม่เห็นจะต้องผ่านระบบ IAP ของ App-store เลย แล้วทำไม Fortnite จึงจำเป็นต้องทำตามกฎดังกล่าวด้วย?…แล้วทุกคนคิดว่า Epic Games ทำถูกหรือไม่? (ส่วนตัวคิดว่ากฎมันชัดเจนอยู่แล้วนะครับ 😂)
Source: MacRumors, AppleInsider
epic อีกแล้ว เกมนี้ตอนลง play store ใหม่ๆ ก็อยากลองนะ พอเล่นไปซักพักเครื่องสูบแบตมาก แถมร้อนอีก และ fps ได้แค่ 30 อีก ถึงจะใช้ snap 855 คับ เลยลบทิ้งไปอย่างรวดเร็วคับ
กำ ต้องกลับไปซื้อบนแอปสโตซึ่งแพงกว่างี้หรอ ที Spotify ขายพรีเมียมผ่านเวปตัวเองยังไม่โดนแบนเลย
จาก fortnite กลายเป็น fortnight
เขามีการจ่ายกันหลังบ้านครับ Spotify ก็ได้กำไรน้อยหน่อยแต่ผู้ใช้ก็จ่ายเท่าเดิม ยกเว้นมีโปรฯพิเศษ ถ้าจ่ายผ่าน Store จะไม่ได้ตรงนี้เฉยๆครับ
ลิงค์ไปจ่ายบนเวปแทนมันทำให้ Spotify ไม่ต้องขึ้นราคาครับ คำถามคือ Spotify ก็ไม่เห็นโดนแบนนี่ครับ
https://metro.co.uk/2017/10/19/how-to-upgrade-to-spotify-premium-on-app-oh-you-cant-7012106/
อันนี้ขัดกับกฎของเค้าโดยตรงอยู่แล้ว ยังจะฟ้องร้องเค้าอีก ทำตัวเหมือนเด็กที่ไม่มีวุฒิภาวะเลย
อเมริกามีกฎหมายห้ามผูกขาดครับ เขาเห็นช่องจึงฟ้องได้
บ้านเราก็มีกฏหมายหลายอย่างที่ห้ามทำ แต่ทำกันจนเป็นนิสัย 55
ROV ก็ไม่เห็นโดนแบน
ผมสงสัยต้อง google play มากกว่า มือถือ android มันใช้ apk ลงได้ ถ้าเขาทำแยก apk แบบไปโหลดหน้าเว็บเหมือนบางเกม ซึ่งจะมีช่องให้เติมเงินผ่านระบบอื่นได้ แบบนี้ไม่ต่างกัน ทำไม google จึงไปแบน เพราะ google เอาจริงๆ ห้าม apk นอก ไม่ได้
ผมว่า Epic ตั้งใจหาเรื่องให้เป็นกระแส ทั้งที่รู้ว่ามีกฎ แต่อยากแหก ซึ่งถ้าต้องการทำ หรือต้องการให้ปรับเปลี่ยนอะไร ทางที่ดี ก้อควรยื่นเรื่อง หรือหาพันธมิตรร่วม ในการยื่นเรื่องต่อ Apple หรือ Google เป็นขั้นตอนไป อยู่ไปแหกแบบนี้ ก้อสมควรคับ ลูกค้าหาย กำไรหด คนเล่นซวย เติมเยอะก้อซวยเยอะ