นอกจากไทยแล้ว ประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างเวียดนามก็ประสบกับปัญหายอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน โดยล่าสุด Apple, Samsung และบริษัทยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ ทั่วโลกที่มีฐานการผลิตสินค้าของตัวเองในประเทศเวียดนาม ได้ขอความร่วมมือให้พนักงานประกอบชิ้นส่วนนอนค้างที่โรงงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ให้กลับบ้าน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อของโรคระบาด
สืบเนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศเวียดนามกลับมามีแนวโน้มที่สูงขึ้นอย่างน่าตกใจ ทำให้บริษัทดัง ๆ ที่มีฐานการผลิตสินค้าอยู่ในเวียดนาม ต้องออกมาประกาศนโยบาย ขอความร่วมมือไม่ให้พนักงานกลับบ้านหรือออกจากโรงงาน ให้นอนค้างที่นั่นไปเลย เพื่อเป็นการควบคุมตัวเลข ไม่ให้มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และเพื่อไม่ให้ขั้นตอนการผลิตได้รับผลกระทบอีกด้วย
ทำให้พนักงานในโรงงานประกอบชิ้นส่วนในแถบตอนเหนือของเวียดนามอย่างจังหวัด Bac Ninh และ Bac Giang กว่า 150,000 ชีวิต จำเป็นต้องอาศัยอยู่ในโรงงาน ไม่ได้ออกไปไหน ไม่ได้กลับบ้านไปเจอหน้าครอบครัวหรือสัตว์เลี้ยง
ปัจจุบัน รัฐบาลได้จัดสรรฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเวียดนามไปแล้วกว่า 4% จากประชากรทั้งหมด 98 ล้านคน ซึ่งในช่วงต้นปีหน้า ทางรัฐบาลได้หวังเอาไว้ว่าจะสามารถฉีดวัคซีนประชาชนให้ได้ครอบคลุมอย่างน้อย 75%
โดยทางโรงงานจะมีเต้นท์นอนจัดเตรียมเอาไว้ให้ แถมในโรงงานยังเปิดแอร์ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย ซึ่งพนักงานบางคนถึงกับเอ่ยปากว่าสบายกว่านอนอยู่บ้านอีกต่างหาก เนื่องจากพนักงานบางรายไม่มีแอร์ที่บ้าน แต่ถึงอย่างไร การไม่ได้กลับไปเจอหน้าครอบครัว มันก็ไปกระตุกให้ต่อมคิดถึงทำงานเหมือนกัน
ที่มา: phonearena
แล้วคนมีผัว มีเมีย จะยุ่งมั๊ยนี่
ริดรอนสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของมนุษย์
ติดคุกซะงั้น
อันนี้มันไม่ comply กับ EICC ทั้ง Apple และ Samsung ขายของให้ EU ไม่น่าจะทำได้ จริงๆบริษัทน่าจะแค่ขอความร่วมมือ (แต่ใครไม่ร่วมมือ ตรูจะจำไว้..!!) รึเปล่าครับ