จากที่ Apple เริ่มเปิดบริการ Self Service Repair ให้ลูกค้าสามารถซื้ออะไหล่ iPhone ต่าง ๆ รวมถึงสามารถเช่าชุดเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการซ่อมแซมเพื่อให้เอาไปทำเองที่บ้าน ล่าสุดมีลูกค้ารายนึงได้ทดลองซื้อแบตเตอรี่เพื่อมาเปลี่ยนให้กับ iPhone 13 mini ของตัวเอง พร้อมกับขอเช่าชุดเครื่องมือสำหรับเปลี่ยนแบตเตอรี่มาด้วย…พอถึงวันที่ได้รับของ ลูกค้ารายนี้ถึงกับตะลึงแล เพราะเครื่องมือสำหรับเปลี่ยนแบตดังกล่าว ถูกบรรจุมาในกระเป๋าใบยักษ์ 2 ใบ รวมแล้วมีน้ำหนักราว ๆ 35 กก. เลยทีเดียว

ลูกค้าที่ใช้บริการ Apple Self Service Repair รายนี้เป็นทีมงานของเว็บไซต์ The Verge ซึ่งอย่างที่บอกไปว่าเค้าได้ขอซื้อแบตเตอรี่ของ iPhone 13 mini พร้อมกับเช่าเครื่องมือสำหรับเปลี่ยนแบตด้วยตัวเองมาพร้อมเลย…ตอนแรกเค้าก็คิดว่าเครื่องมือที่เช่าคงจะส่งมาแบบกล่องเล็ก ๆ มีแค่ไขควง ที่งัด หรืออะไรประมาณนี้อย่างที่เราเคยเห็นกันในคลิปซ่อมมือถือมาแล้ว

แต่พอ Apple ส่งเครื่องมือมาให้จริง ๆ ถึงกับต้องตะลึง เพราะมันถูกบรรจุอยู่ในกระเป๋าเครื่องมือใบใหญ่ราว ๆ กระเป๋าเดินทางถึง 2 ใบ น้ำหนักรวมแล้วอยู่ที่ 79 ปอนด์หรือประมาณ 35 กิโลกรัม (ยังดีว่าตามนโยบาย Apple ไม่คิดค่าส่งเครื่องมือซ่อมด้วย)

แค่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่เนี่ยนะ…

สำหรับเครื่องมือต่าง ๆ ที่ถูกบรรจุมาในกระเป๋า 2 ใบนี้ มีทั้งเครื่องสำหรับถอดหน้าจอ, เครื่องให้ความร้อนสำหรับละลายกาวที่ติดหน้าจอ, ชุดไขควงขนาดต่าง ๆ และเครื่องมืออื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการเปลี่ยนแบตเตอรี่

ซึ่งเค้าก็รีวิวว่ากว่าจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ก็ซับซ้อนเอาการอยู่เหมือนกัน แถมยังมีช่วงเสียว ๆ ที่เปลี่ยนแบตเรียบร้อย ประกอบเครื่องกลับแล้วดันเปิดไม่ติดซะนี่…แต่โล่งอกเพราะมารู้ทีหลังว่าแบตเตอรี่ที่ซื้อมาเปลี่ยนแค่ไม่ได้ชาร์จให้เท่านั้นเอง

แต่ (อีกรอบ) พอเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้ว เปิดเครื่องแล้ว เรื่องยังไม่จบแค่นั้น เพราะตัวระบบดันแจ้งเตือนว่าแบตเตอรี่ที่เปลี่ยนนั้น “ไม่ใช่ของแท้” ต้องลำบากติดต่อไปทาง Apple เพื่อทำการยืนยันกับระบบอีกทีว่าเป็นของแท้ ซึ่งต้องเชื่อมต่อ iPhone เครื่องนั้นกับ PC แล้วให้ทาง Apple เข้าถึงระบบเครื่องและปลดล็อคอีกรอบนึง

ส่วนราคารวมทั้งหมดของการเปลี่ยนแบตเตอรี่ในครั้งนี้ เค้าก็ได้แยกให้ดูอย่างละเอียดว่าต้องเสียอะไรไปบ้างสำหรับการซื้อแบตเตอรี่ + เช่าเครื่องมือมาเปลี่ยนเอง…

  • แบตเตอรี่ iPhone 13 mini ก้อนใหม่ : ราคา 69 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2,360 บาท
  • ค่าเช่าเครื่องมือเป็นเวลา 1 สัปดาห์ : ราคา 49 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,670 บาท
  • ค่ามัดจำเครื่องมือ : ราคา 1,200 ดอลลาร์ หรือประมาณ 41,100 บาท (จะโดนยึดหากไม่คืนเครื่องมือภายใน 1 สัปดาห์)

ลูกค้ารายนี้ยังบอกอีกด้วยว่า แม้เครื่องมือทั้ง 2 กล่อง จะมีเวลาให้เช่าถึง 1 สัปดาห์ แต่ว่าหลังจากสั่งของ + เช่าเครื่องไปแล้ว ปรากฎว่าเครื่องมือมาส่งก่อนหน้าแบตเตอรี่ถึง 2 วัน นั่นหมายความว่าเหลือเวลาเปลี่ยนแบตเตอรี่เพียง 5 วันเท่านั้น

สรุปแล้วคือการที่เราจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ของ iPhone 13 mini เองเนี่ย…ต้องเสียเงินรวมแล้วเกือบ 4,000 บาท (มัดจำอีกสี่หมื่นกว่าบาท) ยังไม่รวมความเสี่ยงที่เครื่องอาจเปิดไม่ติดเพราะทำไม่ถูกต้องตามวิธีด้วยนะ…เพราะฉะนั้น ใครที่ iPhone มีปัญหา แนะนำว่าเอาเข้าศูนย์เหมือนเดิมจะดีกว่าครับ

 

ที่มา : TheVerge