Apple TV เพิ่งจะเปิดแอปให้โหลดไปใช้งานบน Google และ Android TV เมื่อไม่นานนี้เอง ที่แปลกคือจนถึงตอนนี้ยังไม่มีให้โหลดบนมือถือ Android และที่แปลกไปกว่านั้นคือล่าสุด ปุ่มซื้อหรือเช่าหนังกับซีรี่ส์ได้หายไปแล้ว
จากเดิมผู้ใช้งาน Google และ Android TV สามารถกดซื้อและเช่าหนังบน Apple TV ได้ตามสบายแต่ในตอนนี้ปุ่มดังกล่าวได้หายไป และถูกแทนที่ด้วยปุ่ม “How to Watch” แทน เมื่อลองกดเข้าไปแล้ว ก็พบคำแนะนำให้ทำการเช่าหรือซื้อคอนเทนต์ผ่านอุปกรณ์ที่รองรับ Apple TV อย่างเช่น iPhone, iPad หรืออุปกรณ์อื่นๆ แทน นั่นหมายความว่าผู้ใช้งานในฝั่ง Android จะไม่สามารถซื้อหรือเช่าคอนเทนต์ใหม่ๆ ได้แล้ว ทำได้แค่เพียงรับชมคอนเทนต์ทีมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ตอนนี้ยังไม่รู้สาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น Google และ Apple ก็ไม่ได้มีการให้ข้อมูลที่แน่ชัดว่าทำไมถึงเปลี่ยนแปลงการให้บริการไปโดยที่ไม่แจ้งล่วงหน้า แต่ก็มีการคาดเดาไปว่าอาจจะเกี่ยวกับเรื่องของส่วนแบ่งรายได้ที่จะเกิดขึ้น หากมีการซื้อหรือเช่าหนังผ่าน Play Store นั่นเอง
ตามปกติแล้วทุกการซื้อขายในแอป (In-App Purchase) ที่เกิดขึ้นบน Play Store ก็ต้องมีส่วนแบ่งรายได้ 30% ให้กับทาง Google ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาของการเปิดตัวแอป Apple TV+ นั้น ทาง Apple ได้โปรโมชั่นไม่ต้องเสียส่วนแบ่งให้กับทาง Google แต่พอหมดช่วงฟรีปุ๊บ ทาง Apple ก็เหมือนจะระงับการซื้อขายทันที เรียกว่าไม่ต้องการแบ่งรายได้ให้กับทาง Google และผลักผู้ใช้งานไปซื้อผ่านช่องทางของ Apple แทน
กรณีนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะมันเคยเกิดขึ้นมาแล้วกับกับ Apple TV บน Amazon Fire ที่ผู้ใช้งานไม่สามารถซื้อหรือเช่าอะไรได้เลย ถ้ามองในแง่ธุรกิจก็คือ Apple ไม่ยอมเสียส่วนแบ่งใดๆ ให้กับคู่แข่ง และผลักภาระให้กับผู้ใช้ที่ต้องไปทำการซื้อขายผ่านอุปกรณ์อื่นๆ แทน ทั้งๆ ที่หนังหรือซีรี่ส์ที่อยากดูนั้นอยู๋ตรงหน้าแล้วแท้ๆ แต่เห็นแบบนี้แล้วก็นึกถึง กรณี Fornite ของ Epic Games เหมือนกันนะ
source : androidpolice
เก็บไว้ให้สาวกแล้วกันนะ เคยเข้าไปแล้วไม่รู้จะดูอะไรจริงๆ
ก็ว่า อยู่ๆ ทำไมซื้อไม่ได้ดูได้อย่างเดียว ยังดีที่กดสลับไปซื้อในแอป Apple TV ของ ทีวี Samsung แทนได้
คุ้มกว่าจริงๆ เหรอ การที่ทำแแบนี้น่ะป้าทิม
ป๋าอาจคิดว่าคนใช้บริการต้องมี iphone/ipad อยู่แล้วเลยให้ไปซื้อทางนั้นแทนแล้วพออยากดูจอใหญ่ๆ ก็มาดูใน tv เฉยๆ