ล่าสุดมีผลสำรวจเผยออกมาว่า ตอนนี้ App Store ของทาง Apple และ Play Store ของ Google มีแอปที่โดนทิ้งร้างโดยที่ไม่ได้อัปเดตมาเป็นเวลามากกว่า 2 ปี รวม ๆ แล้วถึง 1.5 ล้านแอป ซึ่งปัญหาแอปที่ถูกปล่อยทิ้งแบบนี้นี้มันจะส่งผลกระทบกับ User อย่างเรา ๆ ยังไงบ้าง? นักพัฒนาแอป จะเจอกับปัญหาอะไรบ้างรึเปล่า? และต้นทาง Google กับ Apple จะมีวีธีจัดการกับปัญหานี้อย่างไร?
เมื่อช่วงเดือน เมษายน 2022 ที่ผ่านมา Apple ได้ออกมาเตือนเหล่า นักพัฒนาแอป ของ iOS ว่า ถ้าแอปใดที่ไม่ได้มีการอัปเดตเป็นเวลานาน Apple จะลบแอปเหล่านี้ออกจาก App Store แต่ถ้านักพัฒนาทำการอัปเดตแอปเวอร์ชั่นใหม่ภายใน 30 วันแอปพวกนี้ก็ยังได้ไปต่อ และล่าสุดทาง Apple ก็ได้ขยายเวลาให้เหล่านักพัฒนามีเวลาในการอัปเดตแอปเพิ่มขึ้นจาก 30 เป็น 90 วันแทน
Apple เตือนนักพัฒนา แอปไหนไม่ได้อัปเดตมานาน เตรียมโดนลบใน 30 วัน
นอกจากนี้ยังมีการสำรวจข้อมูลจากบริษัท Pixelate ได้ทำการรวบรวมเหล่าแอปใน Play Store และ App Store ที่ถูกทอดทิ้งไม่มีการอัปเดตเป็นเวลานานมากกว่า 2 ปี (เก็บข้อมูลล่าสุดถึงวันที่่วันที่ 31 มีนาคม 2022) พบว่าบน Play Store มีมากถึง 869,000 แอป ในขณะที่ App Store ก็มีมากถึง 650,000 แอป
และยังมีแบ่งประเภทเป็นแอปที่ไม่ได้อัปเดตมากกว่า 5 ปี บน Play Store มีจำนวน 130,000 แอป และบน App Store มีจำนวน 184,000 แอปเลยทีเดียว โดยแอปที่ไม่ได้รับการอัปเดตประเภทเกมมีจำนวนมากเป็นอันดับ 1 ส่วนแอปที่ได้รับการอัปเดตบ่อยที่สุดจะเป็นแอปประเภทการเงิน
แอปเหล่านี้ส่งผลกระทบกับผู้ใช้ยังไงกันบ้าง ?
แน่นอนว่าโดยปกติเนี่ย แต่ละแบรนด์มือถือ เค้าจะมีการอัปเดตเฟิร์มแวร์ใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว รวมถึงฝั่ง Hardware เองก็จะมีการเปิดตัวรุ่นใหม่ ๆ ควบคู่กันไปด้วย ซึ่งหากว่า Software ดีและ Hardware ก็ดี แต่ตัวแอปที่มาจากผู้พัฒนาไม่ยอมอัปเดตให้รองรับกับการใช้งานบนอุปกรณ์รุ่นใหม่ ๆ และระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ ๆ แน่นอนว่าปัญหาก็จะตกมาอยู่กับเหล่าผู้ใช้นี่แหละ เพราะจะเจอกับทั้งเรื่องความไม่เสถียรของแอป การไม่รองรับของแอปกับอุปกรณ์ใหม่จนอาจเข้าใช้งานไม่ได้อีก รวมถึงเรื่องสำคัญอย่างความปลอดภัยในการใช้งานด้วย
ถ้าเราสังเกตุกันจริง ๆ แล้ว เวลาเราเข้าไปดูรายการอัปเดตของแอป ตาม App Store หรือ Google Play Store เราจะเห็นชัด ๆ เลยว่าบริษัทผู้พัฒนาแอประดับบิ๊กเค้าจะอัปเดตแอปตัวเองบ่อยมาก ๆ เพราะนอกจากจะเป็นการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ หรือเป็นการแก้ไขบั๊กในจุดต่าง ๆ ที่ถูกรายงานโดยผู้ใช้แล้ว ยังเป็นการอัปเดตความปลอดภัยเพื่อคอยรับมือกับเหล่าแฮกเกอร์ที่คอยสรรหาวิธีใหม่ ๆ มาเจาะระบบความปลอดภัยด้วยนั่นเองครับ
ซึ่งเราก็ควรจะคอยเช็คดูเสมอว่าแอปที่เราใช้เนี่ย มีการอัปเดตบ้างรึเปล่า โดยข้อมูลการอัปเดตแอปเหล่านี้จะมีให้ดูทั้งใน App Store และ Play Store ครับ
Apple กับ Google จะมีวีธีจัดการกับปัญหานี้อย่างไร?
สำหรับ Apple ก็จะเป็นวิธีที่เราเล่าไปข้างต้นเลยคือลบแอปออกหากไม่ได้รับการอัปเดตภายใน 90 วัน ส่วนตอนนี้ทาง Google เองก็ยังไม่ได้ออกมาแถลงเรื่องนี้ว่าจะจัดการทำความสะอาดแอปที่ไม่ได้อัปเดตบน Google Play Store ของตัวอย่างไร แต่เชื่อว่าไม่นานนี้ เราน่าจะได้ยินข่าวคราวอะไรจาก Google กันบ้างแหละ
สำหรับใครที่ยังมีแอปที่ไม่ได้อัปเดตมานานติดตั้งอยู่บนเครื่อง ถึงแม้ในอนาคตทาง Apple จะลบแอปออกไปจาก App Store แล้ว แต่แอปเหล่านั้นมันก็จะยังอยู่ในเครื่องเรานะ ไม่โดนลบไปไหน ซึ่งหากว่าเรารู้ตัวแล้วว่า แอปที่เราใช้อยู่กำลังจะโดนลบแน่ ๆ เนี่ย ก็แนะนำให้เพื่อนๆ หาแอปอื่นเป็นทางเลือกไว้ใช้งานกันได้เลยนะ เพราะหากวันนึงเผลอลบแอปนั้นทิ้งไป จะไม่สามารถหาโหลดมาใช้ได้อีกแล้วนั่นเองครับ
รอกูเกิลรัวๆ บางแอพดีจริงแต่ไม่อัพเดทนาน
UX/UI ไม่เข้ากับยุคสมัย ไม่อยากโหลดมาใช้
ผมว่า แอปหลายๆ แอป ทำออกมาให้มีหน้าที่ครบถ้วนของมันเองอยู่แล้ว นักพัฒนาจึงไม่ได้ให้ความสนใจในเรื่องการอัปเดตแอปเท่าไหร่นัก ขอแค่ยังรันแอปได้อยู่ ก็พอ อีกประการที่ไม่ได้อัปเดตแอป แม้ Google และ Apple จะออกมาเตือน ก็คือนักพัฒนาเลิกทำแอปไปแล้ว หรือนักพัฒนาเสียชีวิตไปแล้ว นั่นแหละ ..กรณีที่นักพัฒนาเสียชีวิต การจะบังคับให้มีการอัปเดต มันจะเป็นไปได้อย่างไร ปลุกผีมาอัปเดตแอปรึ? แอปเก่าดีดี ก็คงจะหายไปจากการที่อัปเดตแอปไม่ได้อีกต่อไปแล้วนั่นแหละ