InMobi บริษัทโฆษณาบนแพล็ตฟอร์มมือถือได้จัดทำรายงานการสำรวจ State of Mobile App Developers 2016 ซึ่งเป็นการสำรวจเรื่องราวในแง่มุมต่างๆที่สำคัญของนักพัฒนาแอพบนมือถือ โดยมีเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจคือ ผลจากการสำรวจพบว่า นักพัฒนาแอพสำหรับ Windows Phone สามารถสร้างรายได้เฉลี่ยต่อเดือนมากกว่านักพัฒนาแอพบน Android ถึง 2 เท่า และหากเทียบกับฝั่ง iOS ก็ยังมากกว่าถึง 50% น่าแปลกใจมั้ยล่ะครับ? มาดูรายละเอียดกันดีกว่า

 

ผลการสำรวจนี้จัดทำกับนักพัฒนาแอพบนมือถือมากกว่า 1000 รายทั่วโลก โดย 86% เป็นนักพัฒนาแอพสำหรับ Android, 56% เป็นของ iOS และ 21% เป็นของ Windows Phone ซึ่งหากดูรายได้เฉลี่ยต่อเดือนของนักพัฒนาบน Windows Phone นั้นจะได้ที่ 11,400 ดอลล่าร์ ในขณะที่ Android และ iOS จะได้ที่ 4,900 ดอลล่าร์และ 8,100 ดอลล่าร์ตามลำดับ โดย 49% ของนักพัฒนาบน Windows Phone มีรายได้ 10,000 ดอลล่าร์ต่อเดือน ส่วนนักพัฒนา Android ที่ได้รายได้จำนวนนี้มีอยู่ 45% และของ iOS อยู่ที่ 53%

มาถึงข้อสงสัยว่า ทำไมแพล็ตฟอร์มที่มีผู้ใช้น้อยมากอย่าง Windows Phone ถึงทำรายได้มากกว่าแพล็ตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Android และ iOS? ทาง InMobi ระบุว่า เพราะการแข่งขันบน Windows Phone นั้นน้อยมาก เนื่องจากแอพมีจำนวนน้อย จึงทำให้ผู้ใช้สามารถเจอแอพที่ต้องการได้ง่ายและรวดเร็ว

“เนื่องจาก Windows Phone มีผู้ใช้งานเฉพาะกลุ่มเท่านั้น แอพภายใน Store จึงไม่กระจัดกระจาย (fragmented) เหมือนกับ Android และ iOS นี่จึงทำให้ผู้ใช้สามารถค้นเจอแอพได้ง่ายและการแข่งขันระหว่างแอพประเภทเดียวกันก็น้อย นักพัฒนาก็เลยมีรายได้ดีตามไปด้วย”

ถึงมีแม้จะมีผู้ใช้จำนวนน้อยมากบน Windows Phone หากเทียบกับผู้นำตลาด แต่นักพัฒนาส่วนหนึ่งก็ยังมองโลกในแง่ดี โดยมีอยู่ 28% ที่คิดว่าธุรกิจของตัวเองจะไปต่อได้ใน 3 ปีข้างหน้า ในขณะที่อีก 16% คิดว่าไม่นานก็เจ๊ง หากมาดูทางฝั่ง Android พบว่านักพัฒนา 75% หวังว่าธุรกิจจะโตได้อีก ส่วนอีก 19% คิดว่ากำลังจะเจ๊งเช่นกัน และท้ายสุดสำหรับ iOS มีอยู่ 61% ที่ยังโลกสวย ในขณะที่ 25% คิดว่าอาจจะไม่รอด

เพื่อนๆสมาชิกคิดว่ายังไงกันบ้าง? ถ้าใครเป็นนักพัฒนาก็ลองมาแสดงความคิดเห็นกันได้ครับ

 

 

ที่มา: InMobi ผ่าน Phonearena