มาเจอกันอีกรอบเป็นประจำทุกปี หลังจาก iPhone ตัวใหม่ออกมา ซึ่งรอบนี้ iPhone 11 ก็ได้ใส่เลนส์มุมกว้างมากับเค้าสักที รวมไปถึงโหมดถ่ายภาพแสงน้อย ส่วนเลนส์ซูมก็ยังมีให้เหมือนเดิม (ยกเว้น iPhone 11 ที่ตัดออกไป) ทีนี้เราจะมาดูกันดีกว่า ว่ารอบนี้ iPhone จะทำได้ดีขึ้นกว่าเดิมขนาดไหน และเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วจะเป็นอย่างไร

ทดสอบกล้อง iPhone 11 Pro เทียบกับตัวอื่น ดีขึ้นขนาดไหน หลายสภาพแสง

ในรอบนี้ เราจะทดสอบกันเฉพาะภาพนิ่งนะครับ ในหลายๆสภาพแสงดังนี้

  • สภาพแสงกลางแจ้ง
  • สภาพแสงในร่ม
  • สภาพแสงน้อย
  • โหมดถ่ายภาพบุคคล (ทั้งกลางแจ้งและแสงน้อย)
  • กล้องหน้า (ทั้งกลางแจ้งและในร่ม)

ทั้งหมดนี้ทางเราจะขึ้นรูปเทียบให้ดู โดยจะไม่ได้ตัดสินใดๆ แต่จะมีชี้จุดให้ดูบางจุด รวมไปถึงบรรยายบรรยากาศของจริงว่าเป็นอย่างไร เพื่อให้ผู้อ่านตัดสินใจด้วยตัวเองอีกทีครับ ทุกรูปจะเรียงเหมือนกันทั้งหมดนะครับคือ

iPhone 11 Pro Max | Galaxy Note 10+ | Huawei P30 Pro | iPhone XS Max

โดยสามารถดูรูปแบบเต็มได้ที่

Google Photos Fullres

เอาล่ะเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า..

สภาพแสงกลางแจ้ง

รูปที่ 1: รูปนี้เป็นสภาพแสงกลางแจ้ง ตามแสงปกติ รูปนี้ดูความคมชัดของเลนส์ได้ครับ ลองโหลดดูภาพใหญ่แล้วซูมเข้าไปเทียบเลยครับ

เรื่องสี ทำออกมาได้ใกล้เคียงกัน แต่ถ้าจะให้บอกว่ารูปไหนสีตรงจริงกับตาเห็นที่สุด ก็คือ iPhone 11 Pro Max ครับ

 

รูปที่ 2: รูปนี้เป็นแสงกลางแจ้ง แต่ถ่ายจากในร่ม เนื่องจากรูปนี้มีความต่างของแสงค่อนข้างมาก ในร่มกับกลางแจ้ง จึงทำให้รูปนี้มีแนวโน้มว่ากล้องจะใช้ HDR แล้วเราจะดูว่าแต่ละตัวสามารถทำออกมาได้เป็นอย่างไร

จะเห็นได้ว่ารูปจาก iPhone 11 Pro Max มีความธรรมชาติดีที่สุด ส่วน iPhone Xs Max จะติดสีอมฟ้าเขียวนิดๆๆ ส่วนของ P30 Pro จะสดเข้มมาก แต่ Note 10+ จะเห็นว่าขอบๆของรูปปั้นคนทางซ้ายมีอาการขึ้นขอบจะดูเหมือนเป็นรัศมีของแสงรอบๆรูปปั้นครับ

 

รูปที่ 3: รูปนี้เป็นรูปกลางแจ้ง แต่มุมแสงจะกึ่งๆย้อนแสงนิดๆ และมีความเปรียบต่างของแสงอยู่พอสมควร ให้ลองดูสีของภาพดูครับ

จะเห็นว่า iPhone 11 Pro Max จะอมเขียวนิดๆ ส่วน Note 10+ อมแดงนิดๆ ส่วน P30 Pro จะออกฝ้าๆกว่าตัวอื่น เหมือนว่าเป็นผลจากแสงที่ย้อนเข้ามากระทบตัวเลนส์ ส่วน iPhone Xs Max จะอมฟ้านิดๆ แต่โดยรวม iPhone 11 Pro Max ก็สีตรงกับตาเห็นที่สุดครับ

 

รูปที่ 4: รูปนี้เป็นรูปกลางแจ้ง ต้นไม้ใบหญ้า มาดูความคมชัดและดูเรื่องสีกันครับ

รูปนี้สีต้นหญ้าใบไม้จาก P30 Pro จะดูตรงกับตาเห็นที่สุดครับ ถึงจะอมเขียวเกินจริงไปนิดๆก็ตาม ส่วน iPhone จะออกอมเหลืองมากไป เลยทำให้สีใบไม้เหมือนเหมือนจะแห้งเกินไป ส่วน Note 10+ สดเข้มเกินจริงไปครับ

สภาพแสงในร่ม

รูปที่ 5: รูปนี้เป็นสภาพแสงในร่ม ในห้าง รูปนี้มีมุมกว้างให้ดูด้วย ในกลุ่มนี้ จะมีเพียง iPhone Xs Max ตัวเดิมที่ยังไม่มีเลนส์มุมกว้างมาให้

เรื่องสี จุดที่เห็นคือเครื่องความนิ่งของสี ของ P30 Pro สีระหว่างกล้องปกติกับกลัองมุมว้างต่างกันอยู่ แต่กับ iPhone 11 Pro Max และ Note 10+ สีของทั้งสองเลนส์ออกมาใกล้เคียงกัน ส่วนเรื่องความคมชัด จะเห็นว่าเลนส์มุมกว้างของ iPhone 11 Pro Max จะไม่คมชัดเท่ากับเลนส์ปกติ หรือไม่คมชัดเท่ากับเลนส์มุมกว้างของตัวอื่นๆครับ

 

รูปที่ 6: จะมีรูปมุมปกติและมุมกว้างคล้ายๆรูปที่ 5 ครับ

จะเห็นว่าเลนส์มุมกว้างของ iPhone 11 Pro Max จะมีปัญหาเรื่องความคมชัดเล็กนิดหน่อย คือความคมชัดจะสู้เลนส์ช่วงปกติไม่ได้ ส่วน P30 Pro ก็ยืนยันเรื่องสีที่ไม่นิ่งระหว่างเลนส์มุมปกติและเลนส์มุมกว้าง รวมไปถึง P30 Pro ดูเหมือนจะมีปัญหาถ้าเกิดมีแสงมาโดนหน้าเลนส์เต็มๆ จะทำให้สีของภาพมีความเปรียบต่างของภาพ (Contrast) ลดลง

 

รูปที่ 7: รูปนี้เป็นรูปถ่ายในร่ม แต่ว่ามีความสว่างของด้านนอกที่แตกต่างจากได้ในมาก รูปนี้เพื่อจะดูว่าไดนามิคเรนจ์จะดีแค่ไหน หรือพูดง่ายๆก็คือภาพจะเก็บรายละเอียดในส่วนมืดและส่วนสว่างได้ดีแค่ไหน ระบบ HDR จะทำออกมาได้ธรรมชาติหรือไม่

จะเห็นว่าถ้าดูเรื่อง ไดนามิคเรนจ์ ของ iPhone Xs Max จะสู้คนอื่นไม่ได้ ส่วน Note 10+ จะเก็บรายละเอียดได้ดีที่สุด แต่ถ้ามาดูเรื่องความเป็นธรรมชาติ ภาพจาก Note 10+ จะดูผิดธรรมชาติไปนิด แต่ภาพจาก iPhone 11 Pro Max กับ P30 Pro ทำออกมาได้ธรรมชาติกว่า

 

รูปที่ 8: รูปนี้ถ่ายในล็อบบี้โรงแรม เป็นแสงภายในโทนอุ่น มีมุมกว้างเพื่อเปรียบเทียบความคมชัดเพิ่มเติม รวมไปถึงโทนสีเมื่อเทียบกับเลนส์มุมปกติ

มาดูเรื่องโทนสีมุมกว้างกันก่อน จะเห็นว่าโทนสีมุมกว้างของ P30 Pro ไม่เหมือนกับช่วงเลนส์มุมปกติ ส่วนเรื่องความคมชัดมุมกว้างของ iPhone 11 Pro Max ยืนยันได้ว่าไม่คมเท่าช่วงเลนส์ปกติ และเรื่องสุดท้าย ไดนามิคเรนจ์ ถ้ามองดูที่นาฬิกาตรงกลางอันขวา และโคมไฟทางซ้ายสุดแถวๆเค้าเตอร์ และโคมไฟติดเพดานทางขวา จะเห็นว่ามีเพียง iPhone 11 Pro Max และ Note 10+ เท่านั้นที่ยังเห็นรายละเอียดข้างในอยู่

 

รูปที่ 9: รูปนี้รูปถ่ายในห้อง มีแสงส่องลงมาที่รูปปั้นโดยตรง รูปนี้อยากให้ดูความเปรียบต่างของภาพโดยรวม รวมไปถึงรายละเอียดที่ตัวรูปปั้นที่โดนแสงส่องลงมาเต็มๆว่ายังสามารถเก็บรายละเอียดได้อยู่หรือไม่

จะเห็นว่า P30 Pro จะค่อนข้างเร่งความเปรียบต่างของแสงมาก (Contrast จัด) สิ่งที่ตามมาก็คือส่วนมืดจะไม่ค่อยเห็นรายละเอียด และส่วนสว่างบนตัวรูปปั้นมีส่วนที่รายละเอียดหายไปอยู่บ้าง ซึ่งตัวอื่นๆไม่เป็น

สภาพแสงน้อย

รูปที่ 10: เริ่มรูปสภาพแสงน้อยกันล่ะครับ รูปนี้จะมีทั้งถ่ายปกติและโหมดแสงน้อย รวมไปถึงมีมุมกว้างด้วย มาดูกันเลย

ภาพจะเรียงตามนี้ครับ

iPhone 11 Pro Max [Auto > Night > Wide] > iPhone XS Max

Galaxy Note 10+ [Auto > Night > Wide > Wide Night]

Huawei P30 Pro [Auto > Night > Wide > Wide Night]

อย่างแรกก็คือ iPhone ในเลนส์มุมกว้าง จะไม่มีโหมดถ่ายภาพกลางคืน ส่วนเรื่องภาพ ก็ต้องบอกว่าโหมดกลางคืนทำออกมาได้ตามมาตรฐาน ส่วนเรื่องเลนส์มุมกว้างของ iPhone 11 Pro Max ก็ไม่คมชัดเหมือนกับรูปอื่นๆที่ผ่านมา และถ้ามาดูเรื่องสี จะเห็นว่า iPhone 11 Pro Max ออกจะอมเหลืองกว่าที่ตาเห็นไปนิด ทีนี้มาดูภาพของ P30 Pro กลายเป็นว่าโหมดถ่ายภาพกลางคืน ออกมาสว่างจะผิดธรรมชาติเกินไปนิด กลับกลายเป็นว่าถ่ายโหมดปกติออกมาดูดีกว่า แล้วจุดที่สังเกตคือ โหมดถ่ายภาพกลางคืนของ iPhone 11 Pro Max และ Note 10+ จะเปิดชัตเตอร์น้อยกว่า P30 Pro ประมาณ 3 เท่า นั่นก็คือ iPhone 11 Pro Max กับ Note 10+ ใช้เวลาเปิดชัดเตอร์ประมาณ 2 วินาที เทียบกับ P30 Pro ที่เปิดชัตเตอร์ประมาณ 6 วินาที

 

รูปที่ 11: รูปนี้จะถ่ายผ่านกระจก โดยแปะโทรศัพท์ติดกระจกไว้ ซึ่งจะทำให้โทรศัพท์อยุ่นิ่งมากๆ ไม่มีการสั่น มาดูกันเลย

ภาพจะเรียงเป็น [Auto > Night] ของแต่ละรุ่นครับ

ภาพนี้ลองดูความคมชัดและ Noise แต่จุดที่อยากให้สังเกตอีกที คือ iPhone และ Note 10+ ในโหมดกลางคืน เปิดชัดเตอร์ประมาณ 5 วินาที แต่ของ P30 Pro เปิดชัตเตอร์นานนึง 16 วินาที อาจะเป็นเพราะจับได้ว่ากล้องไม่มีการสั่นใดๆ เลยเปิดชัตเตอร์นานขนาดนั้น

ภาพถ่ายบุคคล

รูปที่ 12: มาดูภาพถ่ายบุคคล ในโหมดปกติ (ไม่ใช้โหมดภ่ายภาพบุคคล) โดยภาพนี้ เด็กจะอยู่ในส่วนร่มของตัวบ้าน แต่สนามด้านหลังจะโดนแดดเต็มๆ ซึ่งจะดูว่าการทำให้ภาพสมดุลระหว่างบุคคลในส่วนร่มเงา และสนามในส่วนกลางแดดทำออกมาได้ดีขนาดไหน

ภาพนี้ถือว่าท้าทายพอสมควร มาดูกันทีละภาพเลยละกันครับ ของ iPhone Xs Max ก่อน ภาพจะออกมาแทบจะตรงกับที่ตาเห็น โดยแทบจะไม่มีการปรับภาพเด็กให้สว่างขึ้น แต่กับ iPhone 11 Pro Max ก็ตรงกับที่ตาเห็น แต่เหมือนว่าตัวเด็กจะมีการปรับให้สว่างขึ้นนิดๆ ซึ่งยังดูธรรมชาติสมจริงตามสภาพแสงอยู่ แต่พอมาดู Note 10+ จะเห็นได้ชัดว่าตัวเด็กมีการเร่งความสว่างขึ้นมามากพอสมควร ซึ่งหลายๆคนอาจจะชอบ เพราะเด็กไม่มืด แต่ก็ผิดธรรมชาติแสงไปนิด ส่วน P30 Pro มีการปรับภาพอย่างมากโดยการเร่งคอนทราสและปรับสีพอสมควร ซึ่งอาจจะถูกใจหลายๆคน แต่ความธรรมชาติอาจจะไม่เหลืออยู่เท่าไหร่ครับ

 

รูปที่ 13: เป็นภาพถ่ายคล้ายๆรูปที่ผ่านมา แต่ถ่ายในสภาพแสงน้อยในอาคาร

ถ้าเทียบกันระหว่าง iPhone Xs Max กับ iPhone 11 Pro Max ก่อน จะเห็นว่า iPhone 11 Pro Max ก็ทำได้ดีกว่าเดิมนิดหน่อย ส่วน Note 10+ ก็จะออกอมแดงไปนิดๆ ส่วนเรื่อง Noise ของ iPhone จะมี Noise มากกว่า แต่ก็มีรายละเอียดที่มากกว่าเช่นกัน ลองดูที่คิ้วของนายแบบสุดหล่อของเราได้ ภาพจาก Note 10+ และ P30 Pro จะไม่เหลือรายละเอียดหลงเหลืออยู่เลย เพราะโดนเกลี่ย Noise จนหลายเกลี้ยง ทีนี้ก็แล้วแต่ว่าใครจะชอบแบบไหนกันล่ะครับ

 

รูปที่ 14: เป็นภาพถ่ายบุคคลในสภาพแสงน้อยสุดๆ โดนถ่ายในโหมดปกติและโหมดถ่ายภาพกลางคืนเทียบกันด้วย

ภาพเรียงเป็น [Auto > Night] นะครับ ส่วนของ iPhone Xs Max จะไม่มีโหมด Night เลยจะมีอยู่แค่ภาพเดียว

ภาพนี้ยืนยันได้ว่าในสภาพแสงน้อยสุดๆแบบนี้ P30 Pro ทำออกได้ดีมาก โดยที่ไม่ต้องเปิดโหมดถ่ายภาพกลางคืนเลยด้วยซ้ำ ส่วนภาพในโหมดกลางคืน P30 Pro รายละเอียดและความธรรมชาติก็ออกมาดีที่สุดเช่นกัน ถึงสีจะออกอมเหลืองเขียวนิดๆก็ตาม แต่สภาพแสงจริงๆก็อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ (แสงน้อยจนตามองไม่เห็นสีแล้ว) ส่วนสีจาก iPhone ในโหมดถ่ายภาพกลางคืนรูปนี้ ดูธรรมชาติกว่าของ Note 10+ ครับ

 

รูปที่ 15: ทีนี้มาดูโหมดถ่ายภาพบุคคลบ้าง (หน้าชัดหลังเบลอ) รูปนี้เป็นรูปถ่ายตามแสง (ไม่ย้อนแสง) แต่แสงที่ฉากหลังจะสว่างกว่าด้านหน้านิดหน่อยเท่านั้น รูปถ่ายภาพบุคคลทั้งหมดจาก P30 Pro จำเป็นจะต้องถ่ายโดยใช้โหมดซูม 2 เท่า เพื่อต้องการถ่ายจากตำแหน่งเดียวกันนะครับ เลยจะให้ดูเรื่องสีและการละลายฉากหลังมากกว่าดูความคมชัดนะครับ

จุดที่ดูอย่างแรกคือความเนียนในการละลายฉากหลัง ซึ่ง iPhone ยังไม่สามารถละลายฉากหลังตรงช่องว่างระหว่างมือขวาบนแก้มกับฉากหลังได้เนียนเท่าไหร่ แต่ข้อดีคือการละลายฉากหลังมีเอกลักษณ์เฉพาะ คือจะดูละลายเป็นวงๆ คล้ายๆกับเลนส์ดีๆ ส่วน Note 10+ ข้อดีการการละลายฉากหลังทำได้เนียน โดยลองดูจากการไล่ระดับการละลายฉากหลังบนพื้นหลังตัวแบบ ซึ่งจะมีการไล่ระดับการเบลอด้วย ถือว่าทำได้เนียนที่สุด แล้วเราสามารถเลือกเอกลักษณ์การละลายฉากหลังได้ตอนถ่ายว่าจะเอาแบบไหนอีกด้วย ส่วน P30 Pro ก็ถือว่าทำได้เนียนกว่า iPhone แต่ยังไม่เท่า Note 10+

ทีนี้มาดูเรื่องสีบ้าง ของ iPhone ออกมาธรรมชาติตรงจริงสุด แต่ของ Note 10 มีการเร่งสีแดงไปหน่อย ส่วน P30 Pro มีการปรับทั้งโทนสีแดงของเสื้อให้ออกแดงชืดๆ แล้วปรับสีผิวให้อมเลืองแดง และปรับโทรสีใบไม้ให้เข้ม และเร่งคอนทราสทั้งภาพให้จัดขึ้นมา จนความเป็นธรรมชาติแทบไม่เหลืออยู่ในภาพเลยครับ

 

รูปที่ 16: รูปนี้มาลองดูความเนียนของการละลายฉากหลังกันครับ

จะเห็นว่า iPhone จะมีปัญหากับช่องว่างระหว่างตัวแบบกับฉากหลัง ให้สังเกตรางช่องว่างใต้แขน จะเห็นว่าของ iPhone จะมองว่าตรงนั้นเป็นเสื้ออยู่ เลยไม่ละลายให้ แต่กับของ Note 10+ และ P30 Pro ยังสามารถละลายฉากหลังตรงช่องว่างตรงนั้นได้ถูกต้องอยู่ครับ แต่ของ Note 10+ ยังดีกว่า P30 Pro อีกก็คือตรงราวรั้วกั้นหลังแบบ ซึ่ง P30 Pro จะละลายออกไปด้วย แต่ Note 10+ รู้ว่าราวตรงนั้นอยู่ติดกับแบบ เลยไม่ละลายให้ แต่ละลายเฉพาะฉากหลังที่อยู่ไกลออกไป

 

รูปที่ 17: เป็นภาพถ่ายบุคคลในสภาพแสงน้อย

รูปนี้ถือว่าท้าทายเช่นกัน เพราะแสงน้อย ลองดูสีและ Noise ดูครับ จะกลายเป็นว่า iPhone 11 Pro Max ภาพออกมีดูธรรมชาติที่สุดครับ และก็ดีกว่า iPhone Xs Max ขึ้นมาอีกประมาณนึงครับ

 

รูปที่ 18: เป็นภาพถ่ายบุคคลในสภาพแสงน้อยเช่นกัน

รูปนี้ก็จะคล้ายๆภาพที่แล้ว แต่ของ P30 Pro ทำได้ดีขึ้น ส่วนภาพจาก Note 10+ ออกมาค่อนข้างเบลอทุกรูปครับ

 

รูปที่ 19: จะเป็นการถ่ายภาพจากกล้องหน้าแล้วนะครับ เริ่มที่สภาพแสงกลางแจ้งกันก่อนเลย

ทั้งหมดจะปิดโหมดบิวตี้ทั้งหมดนะครับ จุดที่จะให้ดูจะเป็นเรื่องความถูกต้องของสี เสื้อคือสีม่วง ซึ่งม่วงจาก iPhone 11 Pro Max ออกมาตรงจริงที่สุดครับ ส่วนของ Note 10+ จะอมแดงอมชมพูขึ้นอีกนิด ส่วนของ P30 Pro กลายเป็นสีผสมกันไปเลย เสื้อสีม่วงกลายเป็นน้ำเงินอมม่วงไปเลย ส่วนเรื่องรายละเอียดตัดสินตามความชอบได้เลยครับ

 

รูปที่ 20: จะเปลี่ยนสภาพแสงเป็นอยู่ในร่มแต่มีแสงจากข้างนอกเข้ามาพอประมาณ

มาดูที่สีกันก่อน ภาพจาก iPhone จะอมเหลืองนิดๆ ส่วน Note 10+ จะอมแดง ส่วนของ P30 Pro สีออกมาธรรมชาติที่สุดครับ

 

รูปที่ 21: สภาพแสงจะน้อยลงไปอีก คืออยู่ในอาคาร แต่มีแสงจากด้านนอกเช้ามานิดเดียว

ก็ยังเหมือนรูปที่แล้ว คือ iPhone อมเหลืองนิดๆ Note 10+ อมแดงแต่น้อยมาก น้อยกว่ารูปที่แล้วพอสมควร ส่วน P30 Pro ตรงที่สุดครับ

 

สรุป เปรียบเทียบกล้อง iPhone 11 Pro Max

เมื่อเทียบกับ Galaxy Note 10+ และ Huawei P30 Pro และ iPhone Xs แล้ว ต้องบอกว่าเมื่อเทียบ iPhone 11 Pro Max กับ iPhone Xs Max ก่อน ซึ่งไม่มีจุดไหนเลยที่แย่ลง (แน่นอนล่ะ ไม่ควรแย่ลงอยู่แล้ว) แต่โดยรวมยังถือว่ายังคล้ายๆเดิมอยู่ แต่สิ่งที่ดีขึ้นกว่าเดิมมีดังนี้

  • มีโหมดถ่ายภาพมุมกว้างแล้ว
  • มีโหมดถ่ายภาพกลางคืนแล้ว ซึ่งจุดนี้ทำได้ดีกว่าเดิมมากและชัดเจนที่สุด และทำให้สู้กับคู่แข่งเจ้าอื่นๆได้ซะที
  • ปรับปรุงการถ่ายภาพในที่แสงน้อยให้ดีขึ้น ถึงไม่ใช้โหมดถ่ายภาพกลางคืนก็ตาม (ดีขึ้นประมาณ 10%)
  • ปรับปรุงไดนามิกเรนจ์ให้ดีขึ้น (ดีขึ้นประมาณ 5%)
  • ปรับปรุงเรื่องความถูกต้องของสีให้ดีขึ้น (ดีขึ้นประมาณ 5%)

และเมื่อเทียบ iPhone 11 Pro Max กับ Note 10+ และ P30 Pro

  • เลนส์มุมกว้าง ความคมชัดต่ำกว่าคู่แข่งแบบชัดเจน และไม่สามารถ่ายมุมกว้างแบบ Night mode ได้
  • การเบลอฉากหลังยังไม่เนียนเท่าคู่แข่ง โดยเฉพาะปัญหาช่องว่างภายในตัวแบบ มักจะมีปัญหาไม่เบลอไปด้วย
  • แต่โดยรวม ถือว่าทำเรื่องความถูกต้องของสีได้ดีกว่าคู่แข่ง

แล้วผู้อ่านคิดยังไงกันบ้างครับ ชอบหรือไม่ชอบตัวไหนยังไง คอมเมนท์มากันได้นะครับ อยากรู้ว่าคิดยังไงกันบ้างครับ