หลังจากที่ Samsung ประกาศเตรียมปิดโรงงานผลิตมือถือที่ประเทศจีนภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากยอดขายมือถือรุ่นต่างๆ ของ Samsung ไม่สามารถสู้กับเฮาส์แบรนด์อย่าง Huawei, vivo, OPPO และ Xiaomi ได้ (ส่วนนึงก็เพราะย้ายฐานการผลิตไปที่เวียดนามและอินเดียแทนแล้ว) แต่ถึงแม้ว่ายอดขายของมือถือ Galaxy จะร่วงหล่นลงทุกไตรมาส แต่กลับกลายเป็นว่าจีนตอนนี้กลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ของ Samsung ไปเรียบร้อยแล้ว

ผลประกอบการของ Samsung ในแผนกผลิตชิป ช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2561 สามารถทำรายได้จากการขายชิป NAND และ RAM ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดมากกว่าที่ Samsung เคยทำได้เลยทีเดียว และทาง Samsung ก็ได้เผยรายชื่อของลูกค้ารายใหญ่ที่สุดออกมาอีกด้วย นั่นคือ Huawei, Apple, Verizon, Deutsche Telekom และ Technotronics ตามลำดับ

โดยแผนกผลิตชิปของ Samsung ในไตรมาสที่ 1 – 2 ของปีนี้ สามารถทำยอดขายไปได้กว่า 37,000,000,000 ดอลลาร์ ถ้าหากแยกเฉพาะยอดขายจากประเทศจีนแล้ว จะได้เป็นจำนวนเงินถึง 11,000,000,000 ดอลลาร์ หรือคิดเป็น 30% ของยอดขายทั้งหมดเลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุหลักที่อยู่ๆ ก็ทำให้ประเทศจีนมาใช้บริการจาก Samsung เป็นเพราะเรื่องที่สหรัฐมีปัญหาหลายๆ อย่างกับจีนนั่นแหละ ก็เลยเปลี่ยนมาใช้บริการกับบริษัทในเอเชียด้วยกันซะเลย

แต่ถึงยังไงนักวิเคราะห์การตลาดก็ออกมาเตือน Samsung ว่า ควรจะระวังเอาไว้ด้วย เพราะตอนนี้ทางปักกิ่งกำลังเริ่มเอาจริงเอาจังกับธุรกิจการผลิตชิปอยู่เหมือนกัน และนั่นจะส่งผลกระทบให้กับ Samsung ได้แน่นอน

และสุดท้าย ถึงแม้ว่าในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ทาง Samsung จะทำยอดขายมือถือไม่ค่อยดีนัก (เพราะ Galaxy S9 ไม่ปังเท่าที่ควร) แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าเรือธงอย่าง Note 9 จะได้รับความนิยมดีพอสมควรเลยล่ะ เพราะตอนนี้ยอดจองของ Note 9 ทำลายสถิติของ S9 / S9+ ไปเรียบร้อยแล้วด้วย

 

ที่มา : GSMarena