เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์โป๊ะแตกของจีนอีกแล้ว หลังจากที่ทางรัฐบาลจีนนั้นมีแผนที่จะผลักดันวิทยาการและเทคโนโลยีที่เป็นของคนจีน แต่หลายครั้งกลับกลายเป็นเรื่องหลอกลวงของคนจีนเอง กรณีล่าสุดคือภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมที่ใช้ชื่อว่า Mulan ซึ่งให้เด็กๆ ได้ใช้เรียนและจะต่อยอดในอุตสาหกรรม IoT นั้นถูกจับได้ว่าจริงๆ แล้วเป็นภาษา Python
เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา Liu Lei หัวหน้าทีมพัฒนาภาษา Mulan ของสถาบันคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี วิทยาลัยวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีนซึ่งตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่งนั้น ได้อ้างว่าภาษา Mulan (ชื่อตั้งตามวีรสตรีของประเทศจีน) นั้นเป็นการพัฒนาขึ้นมาในประเทศจีน 100% และกำลังเข้าสู่กระบวนการนำเสนอให้นำไปใช้สอนกับเด็กนักเรียนชาวจีนกว่า 700 โรงเรียน และด้วยความสามารถของมันสามารถต่อยอดไปใช้ในด้านอุตสาหกรรม และ IoT ได้ด้วย
แต่แล้วภาษา Mulan ก็โดนแหกทันที เมื่อบรรดาโปรแกรมเมอร์นั้นได้เข้าไปตรวจสอบแล้วพบว่าโค้ดหลักๆ นั้นเป็นภาษา Python ที่มีการใช้งานกันอยู่แล้วทั่วโลกกว่า 8 ล้านคน
หลังจากนั้น Liu ก็ได้ออกมาขอโทษต่อสื่อ พร้อมกับสารภาพว่าทีมของเขานั้นเขียนโค้ดเบื้องต้นง่ายๆ ให้กับ Mulan เพื่อให้เด็กๆ สามารถเข้าใจและเรียนรู้ได้ง่าย แต่ในการทำงานที่ซับซ้อนหรือใช้งานกับอุปกรณ์ต่างๆ นั้นเป็น Python และตอนนี้ทางวิทยาลัยวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีนก็ได้ระงับโครงการของเค้าและพักงานไปเป็นที่เรียบร้อย และกำลังดำเนินการสอบสวนการประพฤติตัวของเขา
แต่งานนี้บอกเลยว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่โปรเจคการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ 100% ในประเทศโดยไม่ต้องพึ่งพาต่างชาติที่รัฐบาลจีนพยายามสนับสนุนนั้นถูกแหก เพราะหากย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 ก็มีโครงการเวบราวเซอร์ Redcore ที่ประกาศว่าเป็นของจีน แต่ไส้ในดันกลายเป็น Google Chrome ซะยังงั้น ส่วนในปี 2003 ศาสตราจารย์ Chen Jin แห่งมหาวิทยาลัย Shanghai Jiao Tong ประกาศว่าสามารถผลิตชิปเซ็ตที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับชาติตะวันตกได้ จนได้ทุนไปกว่า 100 ล้านหยวน แต่สุดท้ายก็พบว่าเป็นชิปของ Motorola ที่ถูกลบชื่อแบรนด์ออกไปเท่านั้น
source : scmp
มันอยู่ใน DNA มานานหลายพันปีแล้ว และมันจะเป็นแบบนี้ตลอดไป
Mulan ในประวัติศาสตร์ ปลอมตัวจากหญิงเป็นชาย เพื่อเป็นทหารไปทำสงครามแทนพ่อ
Mulan ภาษาใหม่ ปลอมตัวจาก Python เป็นภาษาใหม่ เพื่อใช้สอนหนังสือเด็ก และต่อยอด IoT ไปทำสงครามซอฟท์แวร์
ชื่อเค้ามีความหมายแฝงแบบนี้นี่เอง