จากการรายงานของ Global Times ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวของประเทศจีนกล่าวว่า ประเทศจีนนั้นกำลังวางแผนที่จะปล่อย Entity List หรือบัญชีดำห้ามการค้าขายในประเทศเป็นของตัวเองบ้างแล้ว เพื่อเป็นการตอบโต้ที่ปธน.ของสหรัฐฯ อย่างโดนัลด์ ทรัมป์ที่ออกมาประกาศใส่ชื่อ Huawei ไว้ในบัญชีดำดังกล่าว ทำให้บริษัทจากแดนมังกรตอนนี้แทบจะล้มจนลุกไม่ขึ้นเลยทีเดียว
โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของประเทศจีน Gao Feng ออกมากล่าวว่า
นักประกอบการต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรหรือรายบุคคลที่ไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์การตลาด ไม่ทำตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญา ขัดขวางไม่ยอมส่งสินค้าให้กับผู้ประกอบการสัญชาติจีนเนื่องจากเหตุผลใดอื่นที่มิใช่ทางการค้า หรือละเมิดสิทธิ์และผลประโยชน์ของนักลงทุนของจีน จะถูกใส่ชื่อไว้ในบัญชีดำทันที
และถึงแม้ว่าโฆษกคนนี้จะไม่ได้กล่าวถึงประเทศสหรัฐฯ หรือว่าบริษัทสัญชาติอเมริกาเป็นการเจาะจง แต่ก็เป็นไปได้สูงว่าบริษัทที่มีฐานมาจากประเทศสหรัฐฯ จะถูกใส่เข้าไปไว้ในบัญชีดำที่ว่านี้ทั้งหมด หากแผนการสร้างบัญชีดำตัวนี้ประสบความสำเร็จเป็นความจริงขึ้นมา ซึ่งจีนเองก็ออกมาปฏิเสธที่จะอธิบายเพิ่มเติมว่ากฎระเบียบและข้อบังคับของการใส่ชื่อบริษัทต่างๆ เข้าไปไว้ในบัญชีดำนั้นมีอะไรยังไงบ้าง
พอมีข่าวแบบนี้ออกมา ก็ทำให้มันไปขัดแย้งกับคำพูดของผู้ก่อตั้งบริษัท Huawei ว่าประเทศจีนไม่ค่อยไปตอบโต้สหรัฐฯ ด้วยการแบนไม่ให้มาทำการค้าขายสินค้าแบบที่สหรัฐฯ กำลังทำอยู่กับ Huawei ซึ่งเขาเองก็ได้เสริมอีกว่า บริษัทเขามีทุกวันนี้ได้ก็เพราะ Apple ซึ่งเค้านับถือให้เป็น “ครู” และหากมีการแบนสหรัฐฯ เกิดขึ้นจริงในจีน เขาก็จะเป็นคนแรกๆ เลยที่ออกมาไม่เห็นด้วย
อย่างไรก็ตาม ประเทศจีนและ Huawei ต่างมีกระบวนการทำงานกันคนละแบบ และก็มีความเป็นไปได้สูงว่าสาเหตุที่จีนออกมาวางแผนที่จะทำบัญชีดำ (Entity List) เป็นของตัวเองนั้นก็เพื่อที่จะยืนยันกับทางโลกว่าจีนกับ Huawei นั้นแยกกันนะ หลังจากที่มีรัฐบาลจากฝั่งตะวันตกอยู่เป็นจำนวนมากที่คิดว่าทั้งจีนและ Huawei นั้นต่างถูกควบคุมโดยคนๆ เดียวกัน และก็ยังมีความเป็นได้อีกว่าหากจีนสามารถทำบัญชีดำของตัวเองขึ้นมาสำเร็จ Huawei อาจจะตกอยู่ในสภาวะที่ยากลำบากกว่าเดิม..
การถูกใส่ชื่อเข้าไปไว้ในบัญชีดำจากสหรัฐฯ ครั้งนี้ของ Huawei ทำให้บริษัทต้องสูญเสียพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่สำคัญไปรายหลายไม่ว่าจะเป็น Google, ARM, Qualcomm, Microsoft และอื่นๆ อีกมากมาย
ที่มา: AndroidAuthority
รอดู
เรื่องนี้ท่าทางจะอีกยาว 🙂 🙂