ประเทศจีนเค้าเข้มเรื่องการเซนเซอร์สื่ออยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ เพราะช่องทางอย่าง VPN ให้ชาวเน็ตภายในประเทศมุดลอดออกมาเล่นเว็บจากต่างประเทศ กลับถูกแบนใช้ไม่ได้ไปหลายตัว แปลว่าจีนรู้ดีถึงปัญหาที่คนแอบเข้าถึงข้อมูลภายนอก และต้องการจัดการไม่ให้ใครได้เล็ดลอด ออกมาเห็นแสงเดือนแสงตะวันอีกเป็นอันขาด
ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา มีผู้ใช้ชาวจีนกว่าร้อยคนออกมารายงานว่า เครื่องมือลอดผ่านระบบเซนเซอร์ของรัฐบาล หรือ TLS เริ่มใช้งานกันไม่ได้แล้ว โดย TLS เป็นช่องทางส่งข้อมูลแบบเข้ารหัส ทำให้หน่วยงานรัฐไม่สามารถมองเห็นข้อมูลที่ถูกส่งภายในระบบได้
เราจึงจะได้เห็นบริการที่ใช้ระบบ TLS อย่าง virtual private network หรือ VPN เอาไว้ใช้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านเครือข่ายลับ ที่ไม่ใช่ของหน่วยงานภายในประเทศ ดังนั้นแม้ทางการจีนจะมีการบล็อกเนื้อหาเว็บไซต์ต่าง ๆ แต่เราก็ยังจะเห็นชาวจีนจำนวนมากที่มุดผ่านช่องทางแบบนี้ออกมาใช้งานกันอยู่เรื่อย ๆ
แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าหน่วยงานปิดกั้นข้อมูลของจีนเริ่มเข้มงวดมากขึ้น ได้มีการทยอยปิดกั้นช่องทางเหล่านี้ไปเรื่อย ๆ โดยใช้วิธีการแบนพอร์ตเชื่อมต่อของบริการ VPN และเมื่อผู้ใช้งานยังดึงดันที่จะเปลี่ยนไปใช้บริการอื่น ๆ อยู่ ก็จะทำการบล็อก IP ผู้ใช้คนนั้นไปด้วยเลย ดื้อนักก็ไม่ต้องใช้หรอกอินเทอร์เน็ต
และถึงแม้รัฐบาลจีนจะเคยพยายามปิดช่องทางลอดผ่านเน็ตของชาวจีนมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่เคยกวดเข้มหนักมากถึงขนาดนี้ ซึ่งขณะนี้ก็เป็นช่วงที่สถานการณ์ทางการเมืองภายในจีนกำลังเคร่งเครียด เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านผู้บริหารชุดใหญ่ ให้มาจัดการกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่ค่อยสู้ดีนักในรอบหลายปีที่ผ่านมาครับ
ที่มา : techcrunch
Comment