จากประเด็นงัดข้อกันมันส์ ๆ ระหว่างรัฐบาลจีน กับ Tech Giants เบอร์หนึ่งของจีนอย่าง Alibaba Group ที่ผู้นำอย่าง Jack Ma มักจะออกมาให้ความเห็นเชิงลบต่อรัฐบาลจีนและนโยบายรัฐอยู่เนือง ๆ นั้น ล่าสุดดูเหมือนเรื่องนี้บานปลายกลายเป็นประเด็นทางการเมืองครั้งใหญ่แห่งโลกเทคโนโลยีไปเสียแล้ว หลังจากที่มีรายงานข่าวลือว่า รัฐบาลจีนกำลังวางแผนเพื่อดำเนินการยึดเอาทั้ง Alibaba และ Ant Group เข้าเป็นกิจการของรัฐให้ได้ในที่สุด
สืบเนื่องจากการดำเนินการสืบสวนขั้นต้นโดยสำนักงานกฎระเบียบตลาด (The State Administration for Market Regulation) ในช่วงหลังมานี้ ทีมบริหารจะทำการตรวจสอบ Alibaba Group โดยเข้มงวด ในพฤติการณ์ที่อาจมีลักษณะเกี่ยวข้องกับการผูกขาดการค้า – ตัวแทนของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในฐานะผู้นำรัฐบาล
นับตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2020 ที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่สอบสวนของทางการจีนได้มีการไปตั้งสำนักงานปฏิบัติการภาคสนามที่สำนักงานใหญ่ของ Alibaba เป็นที่เรียบร้อย โดยจากรายงานเผยอีกด้วยว่ามีชื่อของ E-commerce เจ้าดังแดนมังกรอย่าง Tencent Group อยู่ในลิสต์การสืบสวนประเด็นผูกขาดทางการค้าด้วย แต่ดูเหมือน Alibaba Group จะเป็นเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุด ณ ตอนนี้ เล่นเอามูลค่าหุ้นของ Alibaba ร่วงไปกว่า 8% รับสัปดาห์แรกของปีใหม่กันเลยทีเดียว
ลือ ! มีคำสั่งให้วางแผนเข้าควบคุมกิจการ Alibaba มาเป็นของรัฐ สืบสานแนวคิดพรรคคอมมิวนิสต์จีน
สำหรับประเด็นสื่อจีนและทั่วโลกเริ่มให้ความสนใจเป็นพิเศษนั้นไม่ใช่แค่ประเด็นการผูกขาดการค้าของ Alibaba แต่กลับเป็นกรณีข่าวลือว่าผู้บริหารระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน พยายามหาวิธีการเพื่อให้รัฐบาลจีนสามารถเข้าควบคุมกิจการของทั้ง Alibaba และ Ant Group ให้แปรสภาพมาเป็นกิจการของรัฐ โดยประเด็นนี้ถูกยกขึ้นมากล่าวอ้างโดย Song Qing ผู้สื่อข่าวด้านการเงินออนไลน์ของจีน
ความพยายามควบรวมเอา Alibaba และ Ant มาเป็นของรัฐนั้น มีคำสั่งมาจากเบื้องบนของพรรคคอมมิวนิสต์ พวกเขาจะเริ่มจากการเข้าสืบสวนประเด็นการผูกขาดการค้าอย่างเข้มงวดและจริงจัง ซึ่งผลที่ตามมาคือจะมีการพูดถึงการพัฒนาไปสู่สังคมที่ดีกว่าสำหรับส่วนรวม… – Song Qing ให้สัมภาษณ์กับสื่อชื่อดังหลายสำนักในจีน
เบื้องต้นยังไม่มีการให้ข้อมูลโดยตรงจากตัวแทนของรัฐบาลหรือพรรคคอมมิวนิสต์ถึงประเด็นข่าวลือเรื่องนี้ และเชื่อว่าน่าจะไม่มีใครให้ข้อมูลไปอีกสักพักจนกว่าประเด็นเรื่องการผูกขาดการค้าของมหาอำนาจโลกเทคโนโลยีของจีนอย่าง Alibaba จะมีทิศทางของความผิดหรืออำนาจเหนือตลาดที่ชัดเจนมากขึ้น เพื่อนำพาไปยังการหาทางออกของรัฐบาลจีนต่อไป
ซึ่งหากข่าวลือเรื่องนี้มีมูลจริง จะถือเป็นนโยบายเชิงรุกเรื่องแรก ๆ ที่เสมือนเป็นการย้อนกลับทางแนวคิดในการบริหารประเทศของจีนเลยก็ว่าได้ เพราะจะถือเป็นวิถีแบบสังคมนิยม (ซึ่งอันที่จริงเป็นหัวใจสำคัญในวางรากฐานพัฒนาจีนในแบบที่จีนเป็นได้อย่างในปัจจุบัน) หลังจากที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเอกชนรายใหญ่ของจีนโดยเฉพาะบรรดา Tech Giants – Tech Startups ทั้งหลายนั้นมีอิสระในการดำเนินกิจการแบบทุนนิยมสูงมาก ๆ มากเสียจน Alibaba หรือ Tencent Group นั้นสร้าง Ecosystem ของตัวเองได้จนแทบจะกินรวบตลาดแบบที่เป็นอยู่อย่างในปัจจุบัน
งานนี้รัฐบาลจีนอาจมองเห็นโอกาสว่า ด้วยศักยภาพแบบที่ Alibaba และ Ant Group มี ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล หรือนวัตกรรมทางการตลาดและการเงินนั้น หากมีการควบคุมและถือครองโดยรัฐนั้น อาจเปลี่ยนจากผลกำไรทางการเงินมาเป็นการสร้างโอกาสให้กับสังคมส่วนรวมได้มากกว่าในระยะยาวเพื่อให้จีนยิ่งใหญ่ได้ไม่ใช่ผ่านชื่อเสียงของเอกชนรายใดรายหนึ่ง แต่ไปด้วยกันแบบทั้งสังคมนั่นเอง อย่างไรก็ตาม พวกเรายังคงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อไปว่าประเด็นนี้เป็นเพียงข่าวลือหรือข่าวจริงกันแน่
อ่านเพิ่มเติม: รัฐบาลจีนเริ่มสอบสวนประเด็น “ผูกขาดทางการค้า” Alibaba โดนก่อนเพื่อน !
อ้างอิง: International Business Times
ดีครับ ถ้ารวบเข้าไปได้ชิบหายแน่ เพราะกลุ่มทุนทั้งหมดคงแตกฮือหนีตายออกมา
ประสาทดีรึเปล่า? ทำแบบนี้แล้วต่อไปใครเค้าจะกล้าลงทุน?
มีคนบอกข้อมูลว่าแจ็คหม่า มีหุ้นแค่ 3% ที่เหลือเป็นกองทุนจากตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ การหยุดครั้งนี้ น่าจะเป็นการกันไม่ให้ต่างชาติมามีอำนาจเหนือการเงินในจีนมากเกินไป
ส่วนทำแบบนี้แล้วมีใครอยากมาลงทุนไหม ไม่มาก็เรื่องเขาครับ เพราะแค่คนจีนเอง ที่พร้อมจะลงทุนทำตรงนี้มีอีกมาก แต่ก่อนนี้โดนอาลีบาบากดหัวไว้
ุถ้ากลัวต่างชาติจะเข้ามาฮุบกิจการ หรือมีอำนาจทางการเงินมากเกินไป สิ่งที่ประเทศที่เจริญแล้วทำคือออกกฎหมายมาควบคุมครับ ไม่ใช่เข้าไปฮุบกิจการเค้าเข้ามาเป็นของรัฐ แล้วบอกว่าใครไม่อยากลงทุนก็ไปที่อื่นได้
แบบนี้เอกชนจีนก็ต้องคิดแล้ว จะโตในจีนแล้ววันดีคืนดีโดยรัฐยึดข้อหาแล้วยึดกิจการไปเป็นของรัฐหรือหาทางออกไปโตนอกจีนดีกว่า
จีนอาจคิดว่าตัวเองเริ่มใหญ่ แต่อย่าลืมว่าอยู่ตัวคนเดียวในโลกไม่ได้นะ ถ้าไม่มีใครคบใครลงทุน จะอยู่ยังไง
วงจรอุบาทว์แบบนี้ไม่ได้มีแต่ที่ไทย อำนาจใครกุมไว้ใช้ทำลายคนที่เห็นต่างหมด ที่สำคัญแจ็คหม่ากับทักษิณ ดันหน้าคล้ายกันสะอีก ไม่น่าเชื่อที่คนหัวก้าวหน้ามักจะโดนเตะตัดขาเสมอ ทุกองค์กร
เหมือนบริษัทใหญ่ประเทศเราเลย
ตอนแรกก็ให้ประชาชนร่วมธุรกิจ พอธุรกิจดีก็ตีประชาชนตายหมด
ตอนนี้รวยคนเดียว น่าคบมั้ยหล่ะจีนสไตล์
ประเทศตัวเองเขาก็ป้องกันกันเต็มที่
ย้อนดูของเรา ชักศึกเข้าบ้าน