เปรียบเทียบสเปคและฟีเจอร์ Galaxy S8 vs Galaxy S7 ต่างกันยังไง คุ้มที่จะเปลี่ยนรึเปล่า?

เปิดราคา Galaxy S8 และ S8+ อย่างเป็นทางการกันไปเรียบร้อย ก็มีเสียงตอบรับถึงค่าตัวของรุ่นที่ 8 นี้อย่างอุ่นหนาฝาคั่งในเรื่องราคาที่แพงขึ้นกว่าเดิม 13-15% ทำให้บางคนที่อาจจะงบไม่ถึงก็อาจจะเริ่มมองหาตัวอื่นกันไป ซึ่งหนึ่งในตัวที่คนสนใจกันที่สุดก็คือรุ่นก่อนหน้า และอยากให้ทำการ เปรียบเทียบสเปคและฟีเจอร์ของ Galaxy S8 vs Galaxy S7 ว่าต่างกันขนาดไหน ถ้าย้อนกลับไปซื้อจะยังน่าซื้ออยู่รึเปล่า วันนี้เราจะเอารายละเอียดมากางดูไปพร้อมๆกันเลยครับ

อ่านก่อน

สำหรับการเปรียบเทียบ Galaxy S7 vs Galaxy S8 นี้จะขอแบ่งซอยย่อยๆออกเป็นส่วนๆ คือ ดีไซน์และหน้าจอ, ประสิทธิภาพการใช้งาน, กล้องหน้า-หลัง, ระบบเสียง, ความปลอดภัย, และอื่นๆนะครับ โดยสเปคและฟีเจอร์ไหนที่ Galaxy S8 เด่นกว่าชัดเจน ผมจะ Highlight สีเขียวเอาไว้ให้ ส่วนถ้าอันไหนที่ Galaxy S7 ก็ยังพอสูสี ใช้งานได้เหมือนๆกัน จะมีการระบายสีเหลืองเอาไว้ และให้อ่านข้อมูลและความคิดเห็นของผมเพิ่มเติมใต้ตารางเอานะครับ

เปรียบเทียบขนาดและสัดส่วน Galaxy S8 vs Galaxy S7

ดีไซน์และหน้าจอเรียกได้ว่าเป็นจุดต่างหลักของทั้ง 2 รุ่นนี้เลยก็ว่าได้ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ถึง 18% ขึ้นแต่ตัวเครื่องกลับมีขนาดใกล้เคียงเดิมมาก พร้อมทั้งถอดเอาปุ่ม home และสแกนลายนิ้วมือด้านหน้าออกทำให้หน้าจอเรียบเนียนเกลี้ยงไม่มีแม้กระทั่งโลโก้ของ Samsung ดูคลิปและหนังรวมถึงรูปได้เต็มอิ่มมากกว่า

Galaxy S8 แบ่งหน้าจอมัลติวินโดว์บนล่างเปิดคีย์บอร์ดขึ้นมาพิมพ์แชทคุยก็ยังมีพื้นที่เหลือใช้งานได้จริง ต่างจาก Galaxy S7 ที่คีย์บอร์ดมักจะขึ้นมาทับเนื้อหาจนใช้งานได้อย่างยากลำบากนอกจากนี้ยังมีการแก้ปัญหาพื้นที่แสดงผลให้ใช้งานมัลติวินโดว์ได้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วย snap view อีกด้วย

multi window ล็อคเฉพาะส่วนเนื้อหาที่ต้องการได้ และหน้าจอล่างก็ยังเพียงพอและพิมพ์ได้สบายๆ

กล่าวได้ว่าเรื่องดีไซน์และหน้าจอน่าจะเป็นประเด็นสำคัญที่สุดที่ทำให้เลือก galaxy s8 หรือ galaxy s7 เลย อย่างไรก็ดี Samsung ได้มีการปรับพอร์ตเอารุ่นหน้าจอเรียบออกไปเหลือไว้แต่เพียงหน้าจอโค้งแบบ edge screen เท่านั้น ใครที่ไม่ชอบหน้าจอแบบนี้ก็อาจจะต้องคิดหนักสักหน่อย

ข้อควรรู้

•  Galaxy S8 ยังมีปุ่มโฮมอยู่ แต่เป็นแบบ on-screen มีเซนเซอร์จับแรงกด Pressure Sensitivity
• เราสามารถกดปุ่มโฮมเพื่อปลุกหน้าจอได้เหมือนเดิม แม้จะไม่มีปุ่มจริงๆก็ตาม
• เราสามารถปรับความละเอียดหน้าจอให้น้อยลงที่ระดับ Full HD เพื่อการประหยัดแบตได้
• สัดส่วนหน้าจอ 18.5 : 9 บน Galaxy S8 เวลาดูคลิปทั่วไปจะโดนตัดหัวท้ายถ้าต้องการแสดงให้เต็มจอ
• สัดส่วนหน้าจอ 16:9 บน Galaxy S7 เป็นสัดส่วนมาตรฐาน ดูคลิปต่างๆได้พอดีมากกว่า
• Mobile HDR ปัจจุบันยังหาไฟล์ดูได้ยากอยู่ และต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อดู
• แม้ว่าหน้าจอจะโค้งแต่ว่า Galaxy S8 มีการป้องกันอุ้งมือไปโดนค่อนข้างดี
• Snap Window บน Galaxy S8 ทำมาแก้ปัญหาบางแอปแสดงผลไม่ดีเวลาเปิดสองหน้าจอ เช่น เมนูบนล่างใหญ่เกินไปโดยเราสามารถล็อคพื้นที่เฉพาะส่วนที่ต้องการได้

กล้องหลังบน Galaxy S7 เป็นที่หลายคนยอมรับในความสวยงามทั้งภาพถ่ายและวิดีโอ ทำได้ดีเกือบทุกสภาพแสง เมื่อมาถึงรุ่น Galaxy S8 ฮาร์ดแวร์ต่างๆแม้ว่าจะเปลี่ยนเซนเซอร์ แต่รายละเอียดยังคงเดิมๆ มีพัฒนาการเพิ่มเติมขึ้นเพียงเล็กน้อย ที่มีการใส่เทคนิค Enhanced Image Processing เข้าไป ซึ่งจะช่วยทำให้ถ่ายภาพกลางคืนและวัตถุที่เคลื่อนไหวเร็วๆได้คมชัดและมีน้อยส์น้อยลงนั่นเอง

ถ่าย 3-5 ภาพแล้วรวมภาพเข้าด้วยกันเพื่อลดความเบลอ ลดน้อยซ์ เพิ่มความคมชัด

กล้องหน้าบน Galaxy S7 มีเสียงติกันเข้ามาหนาหูในเรื่องความคมชัด เพราะตัวเลนส์มีรูรับแสงค่อนข้างกว้าง (f1.7) มีระยะภาพชัดไม่เยอะนัก แต่ตัวกล้องกลับไม่สามารถโฟกัสได้จึงทำให้เกิดปัญหามาให้ บน Galaxy S8 ได้ทำการแก้ปัญหานี้ไปเรียบร้อยโดยการใส่ AutoFocus มาให้ และเพิ่มความละเอียดเข้าไปเป็น 8 ล้านพิกเซล เท่าที่ลองมาคือกล้องหน้าของ Galaxy S8 ดีงามกว่า Galaxy S7 ค่อนข้างเยอะจริงๆ

ข้อควรรู้

• เรื่อง UI/UX ของกล้องที่ Galaxy S8 ปรับมาอีกเล็กๆน้อยๆให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น
• สามารถซูมภาพเข้าออกได้จากการลากปุ่มชัตเตอร์ซ้ายขวา
• สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ผ่านแอป Selective Focus
• Gallery บน Galaxy S8 ถูกพัฒนาให้ปรับแต่งได้ละเอียดมากขึ้นเยอะมาก

สามารถกดไปดูเปรียบเทียบภาพถ่ายจาก Galaxy S8 vs Galaxy S7 ได้เลยนะครับ

มีคนถามเข้ามากันอย่างมากมายถึงเรื่องชิปเสียงของ Galaxy S8 แต่ว่าในซีรีย์นี้ข้อมูลเรื่องเสียงไม่ค่อยถูกเปิดเผยออกมาสักเท่าไหร่นัก ซึ่งก็น่าจะใช้ DAC บน SoC ไปเลย ไม่มีแยกออกมา ส่วนว่าเสียงดีแค่ไหนนั้น ไว้ขอหาเทพหูทองมาเทียบให้อีกที แต่ถ้ามองตามสเปคแล้ว Galaxy S8 นี้มีพัฒนาการขึ้นจากเดิมเล็กน้อยที่ DAC รองรับไฟล์ 32-bit  แล้วนั่นเอง ถามว่าสำหรับคนทั่วไป ฟังเพลงแบบไม่จริงจัง ไม่น่าจะรู้สึกได้ถึงเรื่องนี้ (หาไฟล์คุณภาพระดับนี้มาฟังยังยากเลย 555)

สิ่งที่พัฒนาแบบชัดเจนเรื่องเสียง Galaxy S8 คือฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นมาจากการใช้ Bluetooth 5.0 มากกว่า เพราะตัวเครื่องสามารถต่อใช้งานกับหูฟัง Bluetooth พร้อมกันได้สองชิ้น อันนึงฟังส่วนตัว อีกอันต่อกับ Bluetooth Speaker ไป และสามารถเลือกเล่นแยกแอปได้อีกต่างหาก

แต่ที่คนน่าจะสนใจกันมากที่สุดคือการแถมหูฟัง AKG มาให้เลยในกล่องมากกว่า ทางเรายังไม่ได้ทดสอบว่าเสียงดีขึ้นเพียงใดนะครับ แต่ว่าแค่เห็นคำว่า AKG หลายๆคนก็รู้สึกดีต่อใจขึ้นเยอะแล้วล่ะ 555 ซึ่งเหตุผลที่ทาง Samsung เลือกเอาหูฟัง AKG มาแถมให้ Galaxy S8 ก็เพราะว่าทาง Samsung ได้ซื้อกิจการ Harman ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ AKG ไปเรียบร้อยแล้วนั่นเอง

ประสิทธิภาพบน Galaxy S8 ตามการเคลมของ Samsung แจ้งว่าดีขึ้นกว่า Galaxy S7 อยู่พอสมควร โดย CPU ดีขึ้น 10% และ GPU ดีขึ้นถึง 50% ทำให้สามารถโหลดเกมได้เร็วขึ้น และลื่นไหลกว่าเดิมมาก พื้นที่หน่วยความจำระดับ 64GB ก็น่าจะเพียงพอใช้งานได้สบายไม่ต้องเติม microSD เพิ่มสำหรับบางคนแล้วล่ะ

สแกนม่านตาบน Galaxy S8 ทำมาได้รวดเร็วดีมาก สามารถใช้งานแทนสแกนลายนิ้วมือได้เลย ซึ่งถ้าใครใช้ Galaxy S8+ อยู่จะบ่นคล้ายๆกันว่าตำแหน่งของที่สแกนลายนิ้วมือจะอยู่สูงเกินไป ทำให้ต้องเอื้อมนิ้วขึ้นไปกด ก็แนะนำให้ใช้งานสแกนม่านตาได้เลย แต่ก็อย่าลืมตั้งค่าให้มันปลดล็อคได้ทันทีหลังจากปลุกหน้าจอด้วยปุ่มโฮมเพื่อเพิ่มความรวดเร็วนะ

ข้อควรรู้

• 4G LTE บน Galaxy S8 รองรับ 3CA 4×4 MIMO 1024QAM ใช้งานเครือข่าย AIS และ truemove H ได้เต็มสปีดก็จริง แต่ปัจจุบันยังไม่เปิดให้ใช้งาน แต่ยืนยันว่าจะทำให้รองรับภายใน Q3 นี้
• Galaxy S8 เปลี่ยนมาใช้ USB type-C ซึ่งเป็นมาตรฐานหัวชาร์จที่เตรียมจะเปลี่ยนมาใช้กันหมดในอนาคต แต่ว่า micro USB ของ Galaxy S7 ก็ยังหาใช้งานได้ง่ายกว่ามา
• Samsung DeX เตรียมเอาเข้ามาขายในเมืองไทยแน่ๆ แต่ยังไม่ประกาศวันเวลาและราคาวางจำหน่าย
• สแกนใบหน้าเป็นการรักษาความปลอดภัยที่ไม่แข็งแกร่งนัก สามารถใช้รูปถ่ายมาหลอกได้ แต่ว่าระบบจะไม่ยอมให้ใช้งานสแกนใบหน้าสำหรับ Samsung Pay, Samsung Pass, Secured Folder ได้นะ
• Bixby ยังไม่ใช่ประเด็นที่เอามาตัดสินใจซื้อ Galaxy S8 ขนาดนั้น เพราะยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ และไม่รองรับการใช้งานในเมืองไทยเท่าไหร่นะ

ราคาที่แตกต่างกันเป็นหมื่นของ Galaxy S8 และ S7

ราคาของ Galaxy S8 และ S8+ ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการที่ 27,900 บาท และ 30,900 บาท ซึ่งแพงขึ้นกว่าเมื่อคราว Galaxy S7 เปิดตัวพอสมควร แต่ถ้ามองเทียบว่า Galaxy S8 นี้เทียบเท่ากับ Galaxy S7 edge เพราะจอโค้งเหมือนกัน ก็ทำให้ Galaxy S8 นั้นแพงขึ้นจากเดิมเพียง 1,000 บาท และได้หน่วยความจำเพิ่มขึ้นจาก 32GB เป็น 64GB ก็อาจจะดูสมเหตุสมผลขึ้นบ้าง…เหรอ ยังไงใครสนใจจะซื้อในช่วงวางขายใหม่ๆก็ลองเช็คเรื่องโปรและส่วนลดต่างๆกันก่อนให้ดีว่าที่ใดจะคุ้มสุด มีของแถมอะไรน่าใช้บ้างนะ

แต่ถ้าคิดว่าความแตกต่างด้านบนทั้งหมดที่ว่ามาของ Galaxy S8 รวมถึงความสวยงามของหน้าจอและดีไซน์ ยังไม่ดึงดูดพอ กล้องหน้าก็ไม่ได้เซลฟี่บ่อยอะไรขนาดนั้น ก็บอกเลยว่าลองหันลงมาเล่น Galaxy S7 ได้เลย ซึ่งปัจจุบันนี้สามารถหามือหนึ่งได้ที่ราคาตั้งแต่ 14,000 – 15,000 บาท (หาไม่ได้ก็ติดต่อมาหลังไมค์ได้ :P) คุ้มค่ากว่าเล่นโทรศัพท์ทุกตัวในท้องตลาดในราคาเดียวกันเลยก็ว่าได้ งบใครอยู่ราวๆหมื่นต้นๆช่วงนี้ผมแทบจะแนะนำให้เล่น S7 เกือบหมดอะ ซึ่งเหตุที่ราคา Galaxy S7 ร่วงไปได้ยาวขนาดนี้ ส่วนนึงก็เพราะอุบัติการณ์ของ Galaxy Note 7 นั่นแล หะหะ

ทั้งหมดนี้ก็เป็นการเปรียบเทียบ Galaxy S8 vs Galaxy S7 ที่ขอหยิบยกมาเปรียบเทียบให้ได้อ่านกันนะครับ ถ้าใครมีความคิดเห็นต่างออกไปก็มาเสนอแนะกันได้ในคอมเม้นท์เลยเช่นเดิมนะครับ 🙂