ต้องบอกเลยว่า Xiaomi Mi 10T Pro หลังจากที่เปิดตัวมากระแสแรงมาก ๆ เพราะด้วยราคาเทียบกับสเปคแล้วถือว่าคุ้มสุด ๆ ทั้งใช้ชิปเซ็ตเป็น Snapdragon 865 รองรับ 5G กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 108MP ในราคาเริ่มต้นเพียง 13,990 บาทเท่านั้น ซึ่งเมื่อลองเอามาเทียบกับ iPhone 12 Pro Max ที่ราคา 39,990 บาท ทั้งสองราคาต่างกัน 26,000 บาท สเปคจะแตกต่างกันขนาดไหนมาดูกันครับ

ตารางเปรียบเทียบสเปค Xiaomi Mi 10T Pro กับ iPhone 12 Pro Max

รุ่น

Xiaomi Mi 10T Pro

iPhone 12 Pro Max

ชิปเซ็ตSnapdragon 865A14 Bionic
หน้าจอ
  • ขนาด 6.67″
  • พาเนล IPS LCD
  • ความละเอียด 1080 x 2400 px
  • ความหนาแน่เม็ดสี 395 PPI
  • HDR10+
  • ความสว่าง 500 nits
  • Contrast ratio 1,500:1
  • รีเฟรชเรท 144Hz
  • ขนาด 6.7″
  • พาเนล Super Retina XDR OLED
  • ความละเอียด 1284 x 2778 px
  • ความหนาแน่เม็ดสี 458 PPI
  • HDR10, Dolby Vision, Wide color, gamut, True-tone
  • ความสว่าง 800 nits (1200 nits peak)
  • Contrast ratio 2,000,000:1
  • รีเฟรชเรท 60Hz
Ram8GB6GB
ความจุ128GB / 256GB128GB / 256GB / 512GB
กล้องหลัง
  • เลนส์หลัก 108 MP, f/1.7, 26mm (wide), 1/1.33”, 0.8µm, PDAF, OIS
  • อัลตร้าไวด์ 13 MP, f/2.4, 123˚, 1.12µm
  • มาโคร 5 MP, f/2.4, AF
  • เลนส์หลัก 12 MP, f/1.6, 26mm (wide), 1.7µm, dual pixel PDAF, sensor-shift stabilization (IBIS)
  • กล้องเทเล 12 MP, f/2.2, 65mm, 1/3.4″, 1.0µm, PDAF, OIS, 2.5x optical zoom
  • อัลตร้าไวด์ 12 MP, f/2.4, 120˚, 13mm (ultrawide), 1/3.6″
  • TOF 3D LiDAR scanner (depth)
วิดีโอกล้องหลัง
  • 8K@30fps, 4K@30/60fps, 1080p@30/60/120/240/960fps
  • gyro-EIS
  • 4K@24/30/60fps, 1080p@30/60/120/240fps
  • 10‑bit HDR, Dolby Vision HDR (up to 60fps), stereo sound rec.
กล้องหน้า
  • 20 MP, f/2.2, 27mm (wide), 1/3.4”, 0.8µm
  • 12 MP, f/2.2, 23mm (wide), 1/3.6”
  • SL 3D, (depth/biometrics sensor)
วิดีโอกล้องหน้า
  • 1080p@30fps, 720p@120fps
  • 4K@24/30/60fps, 1080p@30/60/120fps
  • gyro-EIS
การเชื่อมต่อWi-Fi 6, Bluetooth 5.1 + aptXWi-Fi 6, Bluetooth 5.0
เสียงStereo Speakers
เซ็นเซอร์Fingerprint (ด้านข้างเครื่อง), accelerometer, gyro, proximity, compass, barometerFace ID, accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer
พอร์ตUSB Type-CLightning
กันน้ำกันฝุ่นIP68 กันน้ำลึก 6 ม. นาน 30 นาที
แบตเตอรี่
  • 5000 mAh
  • ชาร์จไว 33W
  • 3687 mAh
  • ชาร์จไว 20W
  • ชาร์จไร้สาย MagSafe 15W
  • ชาร์จไร้สาย Qi 7.5W
ขนาดตัวเครื่อง165.1 x 76.4 x 9.3 mm160.8 x 78.1 x 7.4 mm
น้ำหนัก218 g228 g
OSMIUI 12 บน Android 10iOS 14
ราคา
  • 128GB – 13,990 บ.
  • 256GB – 15,990 บ.
  • 128GB – 39,990 บ.
  • 256GB – 43,990 บ.
  • 512GB – 51,990 บ.

หน้าจอแสดงผล

ต้องบอกเลยว่าในเรื่องของหน้าจอ iPhone 12 Pro Max เรื่องสีสันความสดใสนี่บอกเลยว่าไม่มีแพ้ใครในตลาด เพราะเลือกใช้หน้าจอพาเนล OLED Super Retina XDR ความคมชัดสูง เที่ยงตรง  มีค่า Contrast ratioเท่ากับ 2,000,000:1 ซึ่งถือเป็นค่าที่สูงมาก(ยิ่งมากยิ่งดี) ในขณะที่ของ Xiaomi Mi 10T Pro ยังเป็นแค่ 1500:1 และใช้จอเป็นพาเนล IPS เท่านั้น

แต่อย่างไรก็ตามหน้าจอ iPhone 12 Pro Max ยังให้ Refresh Rate เพียง 60Hz เท่านั้น แตกต่างจาก Mi 10T Pro ที่มาแบบจัดเต็ม 144Hz ทำให้ความลื่นไหลทั้งในการปัดเลื่อนขึ้นเลื่อนลงเล่นเกมภาพจะมีความสมูธเนียนตามากกว่านั่นเอง

ส่วนในเรื่องขนาดหน้าจอทั้งคู่ถือว่าทำมาพอๆ กัน แต่ Mi 10T Pro จะได้เปรียบตรงที่หน้าจอแบบไร้ติ่ง มีกล้องหน้าเป็นจุดด้านซ้ายจุดเดียว ทำให้เวลาเล่นเกมหรือดูหนังได้ภาพที่กว้างกว่าไม่มีอะไรมาบดบังตาเท่าไร

ประสิทธิภาพการใช้งาน

สมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นถือได้ว่าใช้ชิประดับเรือธงที่สุดในปี 2020 แล้วในแต่ละฝั่งของระบบปฏิบัติการ โดยทางฝั่ง iPhone 12 Pro Max ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต A14 Bionic สุดทรงพลัง ส่วน Mi 10T Pro ใช้ชิป Snapdragon 865 แน่นอนว่าทั้งสองรองรับคลื่น 5G ในประเทศไทยได้ทุกค่าย ณ เวลานี้

แต่ในกรณีถ้าหากจะวัดเรื่องการประมวลผลล้วน ๆ แล้วละก็ A14 Bionic ของ Apple ดูจะได้เปรียบ Snapdragon 865 อยู่พอตัว ถึงกระนั้นทั้งสองชิปก็ถือเป็นรุ่นท็อปสุด สามารถใช้งานทั่วไปหรือจะเอามาเล่นเกมกราฟิกหนัก ๆ ก็ได้ทำสบาย ๆ อยู่แล้วไม่มีปัญหา

กล้องและการถ่ายภาพ

สำหรับ iPhone 12 Pro Max ถือเป็นมือถือฝั่ง iOS ที่ให้กล้องมาดีที่สุด ณ เวลานี้ จุดเด่นเลยที่ไม่มีในรุ่นไหนในโลกคือมีฟีเจอร์ sensor-shift stabilization กันสั่นในตัวเลนส์ แน่นอนว่าในเรื่องความนิ่งในการถ่ายวิดีโอไม่เป็นสองรองใครแน่นอน รวมถึงในช่วงเลนส์ที่ให้มาครบทั้ง ไวด์, อัลตร้าไวด์ กว้างสุด 123 องศา และเทเลซูมได้สุด 2.5X แบบ Optical Zoom แถมยังมีเซ็นเซอร์ LiDAR มาให้อีกด้วย

ทางด้านกล้องของ Xiaomi Mi 1oT Pro ก็จัดว่าโดดเด่นไม่แพ้กัน แม้ว่าฟีเจอร์ สเปคต่างๆ อาจจะไม่ได้เยอะเท่า iPhone แต่ก็ถือทำได้ดีมาก ๆ แล้วในช่วงราคานี้ เพราะตัวกล้องหลักเองมาพร้อมกับความละเอียดสูงสุดถึง 108MP ที่ในตลาดตอนนี้มีแค่ไม่กี่รุ่นเท่านั้นที่ทำได้ พร้อมกันสั่นแบบ OIS เลนส์อัลตร้าไวด์กว้าง 120 องศา ตัดเลนส์เทเลทิ้ง แต่ให้เลนส์มาโครมาแทน ซูมได้ใกล้สุด 2 ซม

ส่วนในเรื่องของการถ่ายวิดีโอแม้ว่า Xiaomi Mi 1oT Pro แม้ว่าจะถ่ายได้ความละเอียดสูงสุด 8K แต่คุณภาพไฟล์ยังเป็นรอง iPhone 12 Pro Max อยู่เพราะตัวไอโฟนเองสามารถถ่ายได้แบบ 10‑bit HDR, Dolby Vision HDR ความคมชัดเฉดสีบอกเลยว่าสุดจัดที่สุดแล้ว ณ ปัจจุบันนี้

เสียงและการฟังเพลง

ลำโพงทั้งของ Mi 1oT Pro และ iPhone 12 Pro Max ให้มาเป็นแบบสเตอรีโอคู่บนล่างและไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. เหมือน ๆ กัน แต่ทาง Xiaomi จะดีกว่านิดหน่อยตรงที่ตัวเครื่องจะรองรับการเชื่อมต่อหูฟังไร้สายแบบ aptX ที่จะช่วยให้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นเมื่อใช้กับรุ่นหูฟังที่รองรับ

แบตเตอรี่

จากข้อมูล iPhone 12 Pro Max ให้แบตเตอรี่มาอยู่ที่ 3687 mAh ซึ่งถ้าเทียบกับฝั่ง Androidn ในยุคปัจจุบันนี้ถือว่าน้อยมาก รุ่นท็อปในตลาดนี้มีกันระดับ 5000 mAh ขึ้นไปก็มี โดยเจ้าไอโฟนเครื่องนี้เองจะรองรับชาร์จไว 20W ผ่านสาย Lightning หรือ 15W หากชาร์จแบบไร้สายด้วย MagSafe (ซื้อเพิ่ม) ที่นอกจากใช้ชาร์จไฟแล้วยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานอื่น ๆ ได้ เช่น ซองใส่นามบัตร และในอนาคตจะใช้งานร่วมกับแอปต่าง ๆ ได้อีกเพียบแน่นอน

ในส่วนของ Mi 10T Pro จะให้ความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5000 mAh เพียงพอใช้งานได้ตลอดทั้งวันสบาย ๆ เหลือ ๆ และรองรับชาร์จไว 33W ซึ่งแถมอะแดปเตอร์ให้มาเลยในกล่องเลย ชาร์จจาก 0-100% ได้เต็มภายใน 59 นาที แตกต่างจากไอโฟนรุ่นใหม่ที่จะให้แค่สาย Lightning to USB Type-C เส้นเดียวในกล่องเท่านั้น

วัสดุและความทนทาน

ทางด้าน iPhone 12 Pro Max ดีไซน์ด้านหน้าแบบ Ceramic Shield ที่ทางด้านหลังเคลมว่าเป็นกระจกที่แข็งที่สุดในสมาร์ทโฟน ส่วนด้านหลังจะใช้กระจกแบบผิวด้านและบอดี้ตัวเครื่องเป็นสแตนเลสสตีล เครื่องความแข็งแรงทนทานเรียกได้ว่าสุดในรุ่นตอน ณ เวลานี้เลยทีเดียว อีกทั้งยังผ่านมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ลึกสุดถึง 6 เมตร

ถัดมาดูของฝั่ง Mi 10T Pro บ้างวัสดุตัวเครื่องอาจจะไม่โดดเด่นเท่าไอโฟน แต่ก็ถือว่างานประกอบต่าง ๆ ทำได้ดีอยู่เหมือนกัน ซึ่งตัวเครื่องทำมาจากอะลูมิเนียมแข็งแรง ฝาหลังเป็นกระจกด้าน ทำให้ตัวเครื่องดูมีความหรูหรามากยิ่งขึ้น และที่สำคัญภายในกล่องจะมีเคสต้านเชื้อแบคทีเรียซิลเวอร์ไอออน + ตัวป้องกันหน้าจอต้านเชื้อแบคทีเรียมาให้ด้วย ไม่ต้องหาซื้อไรเพิ่ม แต่เจ้าเสียวหมี่นี่ไม่มีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นนะ

สรุป

เอาจริงๆ แล้วทั้ง Xiaomi Mi 10T Pro กับ iPhone 12 Pro Max มีกลุ่มเป้าหมายคนซื้อชัดเจน เพราะทั้งสองเครื่องราคาต่างกันเป็นเท่าตัว ซื้อไอโฟนเครื่องเดียวสามารถซื้อเสียวหมี่ได้ถึงสามเครื่อง แน่นอนว่าหากใครที่อยากได้ iPhone อยู่แล้ว คงไม่ได้หันมามอง Mi เท่าไรนัก ซึ่งมือถือ Xiaomi จะเน้นในเรื่องความคุ้มค่าราคาประหยัดมากกว่า

อย่างไรก็ตามถ้าใครที่มีงบซื้อมือถือเครื่องใหม่ในช่วงงบ 15,000 บาท รุ่นที่น่าสนใจที่สุด ณ วันนี้ก็คงหนีไม่พ้นเจ้า Xiaomi Mi 10T Pro แน่นอนว่าหากดูจากสเปคแล้วก็ถือว่าท็อป ๆ เกือบทุกอย่างเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการรองรับ 5G ใช้ Snapdragon 865 แบต 5000 mAh กล้อง 108MP ซึ่งเอาสเปคแค่นี้ก็ถือว่าคุ้มมาก ๆ แล้วครับ

ส่วนถ้าถามว่าจะซื้อ iPhone 12 Pro หรือ iPhone 12 Pro Max ดี ส่วนตัวแนะนำว่าซื้อ 12 Pro Max ไปเลยดีกว่า เพราะนอกจากจอและแบตใหญ่กว่าแล้ว ยังไม่ได้คุณภาพกล้องที่มีกันสั่นในเลนส์อีกด้วย ซึ่งเพิ่มเงินแค่จากรุ่น Pro เพียง 3,000 บาทเท่านั้น