ส่วนหนึ่งของกฎ Digital Markets Act (DMA) ของยุโรป ระบุว่าแพลตฟอร์มดิจิทัลรายใหญ่ เช่น Android ของ Google และ iOS ของ Apple ต้องมีหน้าจอ choice screen แสดงรายชื่อเว็บเบราว์เซอร์ที่มองเห็นได้ชัดเจน ให้ผู้ใช้งานเลือกตั้งค่าเป็นแอปเริ่มต้นของเครื่องได้สะดวก – ผ่านมา 1 เดือน หลังกฎ DMA บังคับใช้ ผู้พัฒนาเว็บเบราว์เซอร์รายย่อยหลายราย ประสานเสียงพร้อมเพรียงกัน บอกว่าจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นทันตาเห็น
สำนักข่าว Reuters บอกว่าตอนนี้มีข้อมูลจากผู้พัฒนาเว็บเบราว์เซอร์รายย่อยอยู่ในมือ 6 ราย ที่บอกตรงกันว่าจำนวนผู้ใช้งานในยุโรปเพิ่มขึ้น ได้แก่ Brave, Ecosia, DuckDuckGo, Opera, Vivaldi และ Aloha Browser โดยในรายของ Aloha Browser มีระบุเป็นตัวเลขที่ชัดเจนไว้ด้วย คือ เพิ่มขึ้น 250% เทียบกับก่อนที่กฎ DMA จะบังคับใช้
เดิมที Android และ iOS จะกำหนดให้ Chrome และ Safari เป็นแอปเว็บเบราว์เซอร์เริ่มต้นของเครื่อง ซึ่งทั้งสองแอปต่างเป็นแอปในเครือเดียวกับระบบปฏิบัติการของตน แม้ผู้ใช้งานจะสามารถเปลี่ยนการตั้งค่านี้ภายหลังเองได้ แต่เมนูการตั้งค่านั้นอยู่ค่อนข้างลึก จนบางคนอาจหาไม่เจอ หรือไม่รู้ว่าสามารถทำได้
คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) มองว่าพฤติกรรมข้างต้นก่อให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม จึงระบุเกี่ยวกับหน้าจอ choice screen เอาไว้ในกฎ DMA โดยในกรณีของ Android จะแสดงหน้าจอนี้ทันทีตั้งแต่เปิดใช้งานมือถือครั้งแรก หรือหลังจากที่มีการล้างเครื่อง คืนค่าโรงงาน และเปิดใช้งานใหม่อีกครั้ง (แต่ตอนนี้เป็นกรณีพิเศษ ที่กฎพึ่งเริ่มบังคับใช้ Google จึงแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบถึงหน้าจอ choice screen ผ่านการแจ้งเตือนในเครื่อง) นอกจากนี้ Google ยังทำหน้าจอ choice screen ของบริการค้นหา หรือเสิร์ชเอนจิน แยกออกมาต่างหากด้วย
ส่วนฝั่ง iOS เลือกที่จะแสดงหน้าจอ choice screen ตอนเปิดใช้งาน Safari ครั้งแรก กรณีนี้มีประเด็นเพิ่มเติมเล็กน้อย คือ ซีอีโอของ Vivaldi วิจารณ์ Apple ว่าจงใจทำให้การแสดงผลตัวเลือกยุ่งยาก เพราะสุดท้ายผู้ใช้งานก็ต้องเข้า Safari ก่อนอยู่ดี ทาง EC เองก็เห็นพ้องต้องกัน และประกาศออกมาแล้วว่าการกระทำของ Apple อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎ DMA ซึ่งตอนนี้ EC เริ่มดำเนินการสอบสวนแล้ว หากพิจารณาว่าผิดจริง Apple จะโดนลงโทษโดยการปรับเงินมหาศาล
ที่มา : Reuters
Comment