ตัดต่อกันนานข้ามเดือน กับรีวิว Samsung Galaxy Note 2 ที่ควงคู่มารีวิวพร้อมกับ Samsung Galaxy Note 10.1 แบบที่ให้เพื่อนๆ เอามาเปรียบเทียบกันได้เลยว่าตัวเองเหมาะกับรุ่นไหน ชอบจอเล็กหรือจอใหญ่ เพราะทั้งคู่ก็มีจุดเด่นเรื่อง S-Pen และการใช้งาน S-Note เหมือนๆ กัน แต่แตกต่างกันที่เรื่องของการใช้งานและขนาดหน้าจอครับ รวมถึงฟังก์ชั่นและการใช้งานใหม่ๆ และการโยนไฟล์ S-Note ข้ามไปมาระหว่าง 2 เครื่อง และยังสามารถใช้งานต่อได้แบบเนียนๆ เกริ่นมาพอแล้ว ขอเชิญชมวิดีโอรีวิวได้เลยครับ

== ==  VDO Review :  Samsung Galaxy Note 2 + Note 10.1 == ==

Play video

.

.

ส่วนท่านทั้งหลายที่มีปัญหาเรื่องความเร็ว internet ให้ชม Photo review ด้านล่างไปก่อน กลับบ้านค่อยไปดู vdo ได้นะจ๊ะ

 

 

 เทียบขนาดของจอ 5.5 นิ้วกับจอ 10.1 นิ้ว

 

Galaxy Note 10.1 มีระบบกันเปิดเครื่องใช้งานทันทีเมื่อดึงเอาปากกาออกมา ทั้งยังสามารถเลือกแอพที่จะเปิดได้ด้วย รวมถึงการร้องเตือนว่าปากกาไม่ได้อยู่กับเครื่อง เพื่อป้งอกันการลืมปากกาหรือทำหายนั่นเอง

 

เช่นเดียวกันกับ Galaxy Note 2 ก็มีฟังก์ชั่นนี้เช่นกันครับ และยังมี S-Pen Page เมื่อดึงเอาปากกาออกมาอีกด้วย

 

ระบบ Multi-Screen ของ 10.1 ช่วยให้หน้าจอใหญ่ๆ ไม่เสียไปเปล่าๆ เพราะเปิดทำงานได้ 2 หน้าจอพร้อมกัน

 

รวมถึงการลากข้ามไปมาระหว่างจอแบบนี้ ก็ทำได้เช่นกัน

 

ไม่ใช่แค่ทำงาน เพราะยังสามารถเปิดหนังไปจอนึง อีกจอนึงทำงานก็ยังไหว ไม่มีอาการกระตุกให้เห็น

 

รวมถึงลูกเล่นใหม่ของ S-Note อย่าง Formula Match แค่เขียนสูตรก็รู้วิธีการคำนวนรวมถึงรายละเอียดของสมการไม่ว่าจะเป็นการเขียนกราฟหรืออื่นๆ ด้วยข้อมูลจาก Wolfram Alpha

 

Shape Match ทำให้การเขียนรูปทรงเรขาคณิตไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปแล้ว

 

Polaris Office ที่ติดมากับเครื่องก็สามารถใช้งานไฟล์เอกสารต่างๆ ได้สะดวกขึ้น

 

และที่เจ๋งคือ Photoshop Touch เพราะแถมฟรี และมาพร้อมกับการสอนให้ใช้งานแบบต่างๆ ได้ด้วย

 

คราวนี้มาลองส่ง S-Note จาก 10.1 ไปให้ Note 2 กันดีกว่า เราจะใช้ WiFi Direct เพราะมันส่งข้อมูลได้เร็ว

 

ส่งปุ้บรับได้ปั้บ แถมยังเปิดใช้งาน แก้ไข หรือทำอะไรต่างๆ ต่อได้เลย

 

นอกจาก Home Screen แบบปกติ Note 2 ยังมี Basic Mode ที่ทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น

 

รวมถึง Blocking Mode ที่ช่วยบล็อกการโทร ข้อความ หรือะไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่เราไม่ต้องการถูกรบกวน

 

ส่วนนี่คือ One Hand Operation หรือการใช้งานมือเดียว เพราะหน้าจอมันใหญ่ การจะพิมพ์มือเดียวก็คงต้องย่อ Keyboard มาไว้ที่ด้านใดด้านหนึ่ง สามารถโยกซ้ายโยกขวาได้แล้วแต่ว่าเราถนัดซ้ายหรือขวา

 

ลูกเล่นใหม่ของ S-Pen ที่เราสามารถเปลี่ยนหัวปากกาไปมาได้แบบทีนทีทันใด เพียงแค่กดปุ่ม ทำให้การเขียนและวาดลื่นไหลขึ้น

 

ส่วนนี่คือ Idea Sketch ช่วยให้คนที่วาดรูปไม่เป็นอย่างผมสามารถสร้างสรรค์ภาพสวยๆ ได้ อิอิ

 

และตอนนี้ Note 2 ก็รองรับการอ่านลายมือภาษาไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขียนหรือพิมพ์ก็ทำได้ทั้งนั้น

 

ส่วนนี่คือ Quick Command ที่เราสามารถเรียกขึ้นมาใช้งานจากหน้าไหนก็ได้

 

โหมดกล้องใหม่อย่าง Share Shot ที่ถ่ายปุ้บก็แชร์ไปให้เครื่องอื่นๆ ได้ทันทีผ่าน WiFi Direct

และนี่คือฟังก์ชั่นใหม่ Best Face ที่ถ่ายรูปแล้วสามารถเลือกหน้าที่ดูดีของเพื่อนๆ แต่ละคนได้ แบบเดียวกับที่ OPPO มีใน Lomo Camera แต่ของ Note 2 แอบเจ๋งกว่านิดนึงคือเลือกหน้าแล้ว เปลี่ยนไปทั้งตัว ไม่ใช่แค่หน้าและหัวครับ

 

ส่วนนี่คือ Gallery แบบใหม่ที่สวยมากๆ (แค่สวยนะ) และก็ยังมีแบบอื่นๆ อีกด้วย


คราวนี้มาดูตัวอย่างภาพถ่ายและวิดีโอกันดีกว่า

 

  == == Galaxy Note II 8 Mpixel Main Camera Sample == ==

คลิกไปดูอัลบั้มภาพทั้งหมดของ Note II ครับ

 

== == Galaxy Note II  1080p Full HD camcorder sample == ==

ตัวอย่าง VDO จากกล้องหลัง

Play video

 มากินราเม็งชามร้อนกันดีกว่า

Play video



== == Galaxy Note 10.1 5 Mpixel Main Camera Sample == ==

คลิกไปดูอัลบั้มภาพทั้งหมดของ Note 10.1 ครับ


== == Galaxy Note 10.1  720p Full HD camcorder sample == ==

ตัวอย่าง VDO จากกล้องหลัง

Play video

  

จากการที่ได้ทดลองใช้งานทั้ง 2 รุ่นแบบแว๊บเดียว (1 สัปดาห์) ก็พบว่าทั้ง 2 รุ่นมีลูกเล่นมากมายโดยเฉพาะจุดเด่นของ S-Note และปากกาที่เพิ่มขึ้นมาเยอะแยะ ทำให้ซีรี่ย์ Galaxy Note นี่แยกกลุ่มออกมาจาก Android ทั่วไปในระดับนึงแล้ว ประกอบกับการทำงานแบบ Multi-Screen (ซึ่งตอนที่รีวิว Note 2 ยังไม่ได้รับการอัพเดทตรงนี้) ที่ทำให้คนที่ชอบทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกันแบบ Multi-task นั้นน่าจะได้ประโยชน์มากขึ้นพอสมควร และการที่ S-Note นั้นสามารถโยนข้ามไปมาระหว่างเครื่องได้นั้น ก็ช่วยให้การทำงานลื่นไหลขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นถ้าซื้อ 2 เครื่องมาใช้คู่กันก็จะแจ่มมาก (จะบ้าเหรอ นั่นมันครึ่งแสนแล้ว – -“) 

แต่เท่าที่สังเกตุมาแล้ว สำหรับคนทั่วไปถึงแม้ไม่ได้ใช้การจดบันทึก หรือปากกาเลยก็ตามทีก็ยังคงสนใจเจ้า Note II เพราะขนาดของหน้าจอมันนี่แหละครับ ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่เหตุผลในการเลือกซื้อของแต่ละคนครับ

ราคาเปิดตัวของ Galaxy Note II นั้นอยู่ที่ 22,900 บาท ส่วน Galaxy Note 10.1 นั้นอยู่ที่ 21,900 บาท

สำหรับใครที่กำลังจะไปซื้อ ก่อนจ่ายเงินก็อย่าลืมเข้า Samsung Sevice Test Mode ก่อนนะครับ ด้วยการกดปุ่มตามนี้ *#*#197328640#*#*  *#0*# แล้วก็ทำหารทดสอบต่างๆ เช่นหน้าจอ กล้อง ลำโพง ซะให้พอใจก่อนนะครับ


สวัสดี