บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “ดีแทค” ได้บอกเล่าภารกิจของพวกเขาในช่วงวิกฤตโควิด-19 ผ่านแคมเปญโฆษณา “ดีทั่วถึง เพื่อชีวิตที่เท่าเทียม” ที่มุ่งเน้นไปที่กลุ่มคนที่ไม่สามารถเข้าถึงโลก Digital ได้ เพื่อโอกาสการเข้าถึงข้อมูลและแหล่งความรู้ให้เท่าเทียมกับกลุ่มคนอื่น ๆ ลดความเหลี่อมล้ำในวันที่โครงสร้างของสังคมเปลี่ยนไป

ในช่วงการระบาด COVID-19 ที่ผ่านมา ดีแทคได้สนับสนุนกว่า 2,000 ซิม ที่มาพร้อมกับแพ็กเก็จเน็ต Unlimited ความเร็ว 4 Mbps แก่กลุ่มนักเรียนที่ยากจนในเขตกรุงเทพฯ ที่ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ หลังโรงเรียนและสถานศึกษาถูกสั่งปิด ทำให้ภาคส่วนการศึกษาต้องโยกย้ายมาใช้วิธีการสอนแบบ Online ส่งผลให้เด็กนักเรียนไทยกว่า 15 ล้านชีวิต ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากเรียนในห้องเรียน มาเป็นเรียนออนไลน์ Study from Home แทน

“ดีแทคเน็ตทำกิน” ช่วยให้ผู้สูงวัยเท่าทันเทคโนโลยี

มีการคาดการณ์ว่า ในปี 2565 ที่จะถึงนี้ ประเทศไทยจะเข้าสู่ “สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์” เมื่อสัดส่วนประชากรที่มีอายุเกิน 60 ปี คิดเป็น 20% ของประชากรทั้งหมด และจะเข้าสู่ภาวะ “สังคมสูงวัยระดับสุดยอด” ในปี 2578 เมื่อประชากรสูงวัยสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 30% ทำให้ในอนาคตอาจเกิดความเหลื่อมล้ำทาง Digital ในกลุ่มคนเหล่านี้

โดยดีแทคได้ให้ความสำคัญกับการติดอาวุธสกิลให้กับ “สังคมผู้สูงวัย” ผ่านโครงการ “ดีแทคเน็ตทำกิน” เพื่อที่จะปั้นผู้ประกอบการสูงอายุที่แก่แต่ยังเก๋า 50+ เสริมสร้างทักษะและความรู้ในการค้าขายออนไลน์ แสวงหาโอกาสในการทำธุรกิจในโลก Digital รวมถึงให้ความรู้ เพื่อรับมือกับภัยต่าง ๆ ที่อาจแฝงตัวอยู่ในโลกออนไลน์ให้กับผู้สูงอายุ และยังให้ความช่วยเหลือผู้สูงวัยมากกว่า 8,000 รายจากทีม dtac Call Center ให้เข้าถึงบริการทางการแพทย์ผ่านแอปฯ ของทางโรงพยาบาลรัฐบาล

“เน็ตทำกิน” โครงการปั้นผู้ประกอบการวัยเก๋า 50+ ใช้เทคโนโลยีเลี้ยงชีพ รู้เท่าทันโซเชียล

ช่วยแรงงานไทย เพิ่มรายได้จากการขายของออนไลน์

นอกจากนี้ โครงการ “ดีแทคเน็ตทำกิน” ยังได้สอนผู้ประกอบการตัวเล็กที่มีของดี แต่ขาดทักษะการขายของในโลก Digital ให้สามารถเข้าถึงช่องทางการขายของออนไลน์เป็นครั้งแรก สร้างรายได้เพิ่มได้มากถึง 50% เลยทีเดียว

และทั้งหมดนี้ก็เป็นโครงการดี ๆ ของดีแทค ที่ได้ทำไปในช่วงการระบาดของ COVID-19 ที่ผ่านมา เชื่อว่าในอนาคต ทางบริษัทฯ น่าจะมีแคมเปญดี ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมทุกภาคส่วนออกมาเป็นแน่ครับ

 

ที่มา: อีเมลประชาสัมพันธ์