สวัสดีครับเพื่อนๆชาว Droidsans ทุกท่าน วันนี้ขอมาแนะนำมือถือใหม่จาก dtac อย่าง dtac phone X3 กันสักหน่อย หลังจากมือถือรุ่นนี้มีกระแสพูดถึงกันพอสมควรเมื่อเร็วๆนี้ และจบไปแล้ว วันนี้เรามาดูกันแบบจริงๆดีกว่ามือถือรุ่นนี้มีดีอะไรบ้าง ขอบอกว่าด้วยราคา 5,690 บาท ได้มาทั้งกล้องคู่กับ Android 7.0 Nougat แถมประกันตั้ง 15 เดือน ผมถือว่ามันน่าสนใจมากเลยล่ะ มาดูรายละเอียดกันครับ

สเปกของ dtac phone X3

dtac เพิ่งเปิดตัวมือถือ Android ตระกูล dtac phone 4G ไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานี่เอง โดยมีออกมา 3 รุ่นด้วยกันคือ dtac Phone S3, T3 และ X3 สำหรับ dtac phone X3 เป็นรุ่นท็อปของมือถือตระกูลนี้ มีสเปกดังต่อไปนี้

  • ชื่อและรหัสเครื่อง : dtac phone X3
  • ขนาด : 155.35 x 75.9 x 7.08 มม.
  • น้ำหนัก : ไม่มีข้อมูล
  • หน้าจอ : IPS LCD ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด FHD (1080×1920)
  • เครือข่ายที่รองรับ:
    • 4G : LTE 900 / 1800 / 2100 / 2300 MHz
    • 3G : WCDMA 850 / 2100
    • 2G : GSM 850 / 900 / 1800 / 1900
  • SIM : 2 SIM แบบ MicroSIM + NanoSIM (Dual Standby)
  • CPU : MediaTek Helio P10 (MT6755) Octa-core 1.5GHz
  • GPU : Mali T860-MP2 650MHz
  • RAM : 3GB
  • หน่วยความจำภายใน : 32GB eMMC รองรับ microSD card สูงสุด 64GB
  • กล้องหลัง :
    • กล้องคู่ Dual Camera 13 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล (Depth sensor)
    • ค่า aperture F2.0
    • ระบบ Autofocus
    • Dual-LED flash
  • กล้องหน้า :
    • 8 ล้านพิกเซล
    • ค่า aperture F2.0
  • แบตเตอรี่ : 3000mAh พร้อมระบบ Fast Charge
  • OS : Android 7.0 Nougat
  • สแกนลายนิ้วมือ : มี
  • NFC : ไม่มี
  • OTG : มี
  • ไฟแจ้งเตือน : มี
  • เซ็นเซอร์และการเชื่อมต่ออื่นๆ:
    • GPS, A-GPS
    • Wi-Fi
    • Bluetooth 4.0
    • Micro USB 2.0
    • หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
    • Accelerometer, Ambient Light, Proximity, Magnetometer
  • สีที่มีให้เลือก : Black และ Gold
  • ราคา : 5,690 บาท

dtac-phone-x3-review-colors

แกะกล่อง

หน้าตาของกล่อง dtac phone X3 ก็ประมาณนี้ครับ เป็นกล่องกระดาษทำเป็นลายของตัวโลโก้และมือถือ ดูดีทีเดียว

dtac-phone-x3-review-unbox01

ข้างกล่องก็มีการระบุสเปกของมือถือไว้ค่อนข้างละเอียดเลย ไปยืนหน้าร้านแล้วนึกสเปกไม่ออกก็อ่านเอาจากข้างกล่อง คนที่สนใจเรื่องสเปกจะได้ตัดสินใจได้ตั้งแต่ยังไม่แกะกล่องเลย

dtac-phone-x3-review-unbox02

แกะกล่องออกมาแล้วก็มีอุปกรณ์มีให้ดังนี้

  • ตัวเครื่อง dtac phone X3
  • Adapter สำหรับชาร์จ
  • หูฟัง stereo smalltalk แบบ in-ear
  • สาย USB
  • เข็มจิ้มถาดซิม
  • เคสพลาสติกแบบขุ่น
  • ฟิล์มกันรอย (ติดมาแล้ว)
  • คู่การใช้งานและใบรับประกัน

dtac-phone-x3-review-unbox03

Adapter สำหรับชาร์จ จ่ายไฟขนาด 5.0V === 2A ซึ่งทาง dtac ระบุว่าเป็นระบบ Fast charge ซึ่งก็ชาร์จเร็วกว่าปกติทั่วไป เพราะจ่ายไฟ 2A ไม่ได้เป็นระบบพิเศษแบบพวก Quick Charge, Adaptive fast charge หรือ VOOC flash charge เป็นต้น

dtac-phone-x3-review-unbox05

หูฟัง stereo smalltalk แบบ in-ear

dtac-phone-x3-review-unbox06

สาย USB

dtac-phone-x3-review-unbox07

เข็มจิ้มถาดซิม

dtac-phone-x3-review-unbox08

คู่มือการใช้งาน มีภาษาไทยเรียบร้อย

dtac-phone-x3-review-unbox09

Hardware

dtac phone X3 มาพร้อมวัสดุที่เป็นพลาสติกแต่มีการเคลือบและขึ้นลายขัดแบบ Metallic ทำให้ดูคล้ายกับโลหะ อย่างไรก็ตามถึงจะเป็นพลาสติกแต่ก็ไม่สามารถถอดฝาหลังออกมาเปลี่ยนแบตหรืออะไรได้นะครับ นั่นก็เลยทำให้งานประกอบของมือถือรุ่นนี้แน่นหนาและดูแข็งแรงเลยทีเดียว ตัวเครื่องมีความบางเพียง 7.08 มิลลิเมตร ทำให้ไม่หนักและจับถือได้ง่าย ข้อเสียอย่างเดียวคือฝาหลังนั้นดูดคราบจากมือพอสมควร ทำให้ลื่นในบางครั้ง     

dtac-phone-x3-review-hardware01

ส่วนบนของหน้าจอประกอบด้วยกล้องหน้า, ลำโพงสนทนา และช่องเซ็นเซอร์ Proximity กับ Ambient Light ตามมาตรฐานมือถือทั่วไป จุดเล็กๆสีฟ้าด้านซ้ายคือ ไฟแจ้งเตือน (Notification LED)

dtac-phone-x3-review-hardware02

ส่วนล่างของหน้าจอมีเพียงปุ่ม Home ซึ่งฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาด้วย โดยปุ่มนี้มีฟีเจอร์พิเศษ Intelligent touch ที่จะกล่าวถึงในส่วนของซอฟต์แวร์ต่อไป อ้อ ตรงนี้เราจะเห็นฟิล์มกันรอยที่ติดมาจากโรงงานแล้ว แต่ไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ เพราะมันเบี้ยวครับ -_-”

dtac-phone-x3-review-hardware03

ด้านล่างของตัวเครื่องไล่จากซ้ายไปขวาประกอบด้วย ไมโครโฟนสำหรับสนทนา, พอร์ต microUSB และลำโพงสำหรับฟังเพลงและแจ้งเตือน สังเกตดีๆจะเห็นว่า พอร์ต microUSB ไม่อยู่ตรงกลางเครื่อง

dtac-phone-x3-review-hardware04

ด้านบนของตัวเครื่องมีรูหูฟัง 3.5 มม. เพียงอย่างเดียว

dtac-phone-x3-review-hardware05

ด้านขวาของตัวเครื่องมีการจัดเรียงปุ่มตามมาตรฐานของ Android เป๊ะเลยคือ ปุ่มปรับเสียงอยู่ด้านบนและปุ่ม Power อยู่ถัดลงมา  

dtac-phone-x3-review-hardware06

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีช่องถาดซิมที่ต้องใช้เข็มจิ้มออกมา

dtac-phone-x3-review-hardware07

พลิกมาดูด้านหลังตัวเครื่อง จะเห็นตัวเครื่องสีดำเคลือบแบบ metallic มีโลโก้ dtac และ dtac phone 4G สีทองดูดัดกับสีดำของตัวเครื่องเป็นอย่างดี ข้อเสียอย่างเดียวคือ ดูดคราบจากนิ้วมือมากๆ แถมเช็ดออกยากด้วย  

dtac-phone-x3-review-hardware08

ซูมเข้ามาส่วนบนจะเป็นกล้องคู่ Dual Camera ถัดไปด้านขวาเป็นส่วนของไฟแฟลชแบบ Dual-LED

dtac-phone-x3-review-hardware09

โดยรวมงานออกแบบของ dtac phone 3X นั้นถือว่าโอเค งานประกอบมีความแน่นหนา เพราะฝาหลังไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ การจับถือเข้ามือ ตัวเครื่องมีความบาง น้ำหนักเบา ถือว่าดูดีเลยครับสำหรับมือถือราคาระดับ 5000 บาท

 

ระบบ 2 ซิม Full Netcom

ถาดซิมของ dtac phone X3 เป็นแบบ hybrid โดย SIM1 เป็น MicroSIM ส่วน SIM2 เป็น NanoSIM และสลับใส่ MicroSD card แทนได้

dtac-phone-x3-review-hardware11dtac-phone-x3-review-hardware10

สำหรับ dtac phone X3 นั้นสามารถรองรับคลื่นความถี่ 2300MHz ที่ทาง dtac เพิ่งจับมือกับ TOT เปิดตัวไปไม่นานนี้ได้เลย และจากการทดสอบมือถือรุ่นนี้รองรับการใช้งาน 2 ซิมแบบ Full Netcom ได้ด้วยครับ จากรูปผมต่อ AIS 4G ที่ SIM2 ส่วน SIM1 ที่เป็น True ก็สามารถเชื่อมต่อ 3G ได้

dtac-phone-x3-review-dual-sim

Software

dtac phone X3 มาพร้อมกับ Android 7.0 Nougat เรียบร้อย ถึงจะไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุดแต่ก็ถือว่าใหม่ทีเดียว ในส่วนของ Security update เป็นของเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ สำหรับเรื่องการอัพเดตซอฟต์แวร์ในอนาคตคงต้องรอดูกันต่อไปว่า จะได้รับการอัพเดตหรือไม่ และรวดเร็วขนาดไหน เพราะตัวมือถือก็มีส่วนของ Wireless Update มาให้ด้วย

หน้าตาโดยรวมของซอฟต์แวร์และการใช้งานนั้นถือว่าใกล้เคียงกับ Stock Android สิ่งที่เปลี่ยนคงจะมีเป็นแค่ icon ของแอปเพียงบางส่วนเท่านั้น

 

Lockscreen

หน้าจอ Lockscreen ยังคงเป็นของ Android เดิมๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ซึ่งก็เป็นเรื่องดีเพราะใช้งานได้ง่ายอยู่แล้ว

dtac-phone-x3-review-software02

 

Homescreen

dtac phone X3 เลือกใช้ Launcher3 ของ Android AOSP ไม่ได้ใช้ Google Now Launcher แต่การใช้งานมันก็คือ Android มาตรฐานทั่วไปนี่แหละ แบบเรียบง่าย ไม่ซับซ้อนและไม่มีฟีเจอร์อะไรเข้ามาเสริม สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือ มีตัวเลขนับ Notification ของ app บนไอคอน แต่เท่าที่ใช้งานมามีขึ้นอยู่เพียง app เดียวคือ Line ครับ

สำหรับ App Drawer นั้นเป็นแบบดั้งเดิม โดยมีการเรียง app ในแนวตั้ง มีแถบให้ค้นหา app ตามชื่อได้ แต่เราไม่สามารถเรียงลำดับ app ได้เอง app ที่ติดตั้งให่จะอยู่ด้านล่างทั้งหมด

dtac-phone-x3-review-software05

 

App Manager

App ตัวนี้เอาไว้ช่วยเรื่องการจัดการขยะและ clear RAM ของเครื่องเป็นหลัก แต่ก็มีฟีเจอร์เสริมเข้ามาอีก ทั้งการ block การแจ้งเตือนของ app, การ block การใช้อินเตอร์เน็ต และการลบ app แบบหลายๆตัวพร้อมกัน

 

Gallery

dtac phone X3 มาพร้อมกับ Gallery ของตัวเอง ซึ่งก็ฟีเจอร์พิ้นฐานการแต่งรูปสำหรับ app แบบนี้ทั่วไป แต่ที่พิเศษคือ ฟีเจอร์การ refocus ของ กล้องคู่ที่ขอยกไปพูดถึงในส่วนของกล่องแล้วกันครับ

 

Fingerprint

อย่างที่บอกไปว่ามือถือรุ่นนี้มีระบบสแกนลายนิ้วมือด้วย โดยนอกจากการใช้ลายนิ้วมือปลดล็อคเครื่องเฉยๆแล้วยังสามารถกำหนดให้เปิด app หรือโทรออกหาเบอร์ที่ต้องการได้เลย รวมไปถึงการสั่ง lock app ที่ต้องการเพื่อให้เปิดได้ด้วยการสแกนลายนิ้วมือเท่านั้น

 

Intelligent touch

เป็นฟีเจอร์ในการใช้ปุ่ม Home ทำหน้าที่ 3 อย่าง คือเป็นทั้งปุ่ม Back , Home และ Recent ในอันเดียว โดยเราสามารถแตะเพื่อทำการ Back, กดเพื่อไปหน้า Home และ กด 2 ครั้งเพื่อเปิดหน้า Recent สำหรับสลับ app ได้เลย นอกจากนั้นยังสามารถกำหนดให้การกดปุ่ม Home ค้างทำการปิดหน้าจอหรือเปิด Google Assistant ได้

 

Navigation bar

ในส่วนนี้เราสามารถเลือกสลับตำแหน่งปุ่ม Back กับปุ่ม Recent ที่อยู่บน Navigation bar ได้ หรือถ้าเราเปิดระบบ Intelligent touch แล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องใช้ Navigation bar อีก สามารถเลือกซ่อนปุ่มจากตรงนี้ได้เลย

dtac-phone-x3-review-software22

 

Theme Manager

มือถือรุ่นนี้มี Theme มาให้เลือกเปลี่ยนได้ 4 แบบด้วยกัน และไม่สามารถโหลดมาเพิ่มได้นะครับ มาให้ใช้เท่านี้แหละ โดยการเปลี่ยน Theme คือการเปลี่ยน Icon และ Wallpaper ของ Homescreen เท่านั้น

 

Partial Screenshot

ฟีเจอร์อย่างหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในความสามารถของ Android 7.0 Nougat คือ Partial Screenshot หรือการจับภาพหน้าจอแบบตัดเอาบางส่วน ไม่ได้เอาทั้งหน้าจอ เราสามารถเรียกใช้งานฟีเจอร์ได้ 2 แบบคือ กดปุ่ม Power ค้างไว้แล้วเลือกเมนู Partial ScreenShot หรือกดปุม Power กับปุ่มเพิ่มเสียงพร้อมกันก็ได้ จากนั้นก็เลือกส่วนของหน้าจอที่ต้องการจับภาพได้เลย

ประสิทธิภาพการใช้งาน

dtac phone X3 ใช้ชิปเซต MediaTek Helio P10 (MT6755) Octa-core 1.5GHz และ GPU Mali T860-MP2 ในส่วนของ RAM ให้มา 3GB และ ROM 32GB เรียกว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นเกมได้บ้าง แต่เล่นเกมที่เป็น 3D แบบหนักๆคงไม่ไหวตามสเปกของชิปเซตนั่นเอง สำหรับผลคะแนนทดสอบ benchmark ก็ได้ตามนี้

Antutu Benchmark

Geekbench 4 : CPU

Geekbench 4 : GPU

ในส่วนของความเร็ว Storage จากการทดสอบด้วย AndroBench ก็ได้ความเร็วการอ่านข้อมูลประมาณ 268MB/s ถือว่าเป็น memory แบบ eMMC 5.1 ครับ

dtac-phone-x3-review-perf08

ประสิทธิภาพจากการใช้งานจริงนั้นพบว่า dtac phone X3 มีความลื่นไหลในการใช้งานพอตัว ไม่ว่าจะเป็นการเล่นอินเตอร์เน็ต, Social และถ่ายรูป ถือว่าเพียงพอใช้งานได้สบาย ส่วนการเล่นเกมนั้นเล่นได้สำหรับเหมที่ไม่ต้องการกราฟฟิกแบบหนักๆ เล่นได้ลื่นไหล แต่พอมีการใช้งานไปนานๆ ก็มีอาการกระตุกและหน่วงช้าลงเหมือนกัน น่าจะเป็นเพราะ RAM 3GB นั้นอาจจะไม่พอกับการใช้งานในปัจจุบันซะแล้ว

 

ความอึดของแบตเตอรี่

dtac phone X3 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดถึง 3000mAh ถือว่ากำลังดี จากการใช้งานปกติของผมจาก 100% ตั้งแต่เช้ากลับถึงบ้านค่ำๆ เหลือแบตเตอรี่อยู่ประมาณ 15% แสดงว่าใช้งานได้ครบ 1 วันแบบสบายๆ บางวันใช้งานไม่มากกลับถึงบ้านก็เหลือประมาณ 30% ส่วนของ Screen on time นั้นทำได้ประมาณ 4 ชั่วโมง 20 นาที ถ้าใช้งานต่อใน 15% ที่เหลือก็อาจจะได้อีก 10-20 นาทีเลย ถือว่าน่าพอใจสำหรับมือถือรุ่นนี้

นอกจากนั้น dtac phone X3 ยังมีการชาร์จเร็วจากตัว Adapter มาให้ด้วยเพราะจ่ายไฟได้ถึง 2A ทำให้การชาร์จไม่ช้าเหมือนมือถือรุ่นอื่น โดยทาง dtac บอกว่าสามารถชาร์จถึง 100% ได้ภายใน 2.5 ชั่วโมง

dtac-phone-x3-review-battery03

    

กล้องถ่ายรูปและตัวอย่างภาพถ่าย

มาถึงหัวข้อที่น่าสนใจของ dtac phone X3 แล้วนั่นคือ กล้องคู่ Dual Camera นั่นเอง โดย X3 มาพร้อมกล้องหลังแบบเซ็นเซอร์คู่ ตัวหลักความละเอียด13 ล้านพิกเซล ส่วนตัวรองเป็น Depth sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ที่กล่องระบุว่าเป็นเซ็นเซอร์ Sony IMX แต่ไม่ได้ระบุว่ารุ่นไหนครับ

dtac-phone-x3-review-hardware09

ฟีเจอร์เด่นของกล้องมือถือรุ่นนี้คือการถ่ายรูปแล้วสามารถ Refocus ทีหลังได้ เพราะกล้องตัวรองนั้นเอาไว้วัดระยะใกล้ไกลของวัตถุที่อยู่ในภาพ เพื่อนำมาใช้กำหนดจุดโฟกัสและจุดเบลอได้ทีหลังนั่นเอง ตอนที่เราถ่ายรูปด้วยโหมด Dual camera เวลาเปิดดูรูปใน Gallery จะมีสัญลักษณ์รูปชัตเตอร์สีรุ้งอยู่ เราสามารถกดเข้าไปกำหนดจุดโฟกัสบนรูปถ่ายได้ตามต้องการ

สำหรับ UI ของกล้องนั้นไม่มีอะไรซับซ้อน ด้านซ้ายมีปุ่มสลับกล้องหน้า-หลัง, ปุ่มเปิดแฟลช, ปุ่มเข้าโหมด Dual camera และปุ่ม Settings ส่วนด้านขวามีปุ่มเปิดแผงปรับค่าการถ่ายรูป, ปุ่มเลือกโหมดถ่ายรูป, ปุ่มถ่ายวิดีโอ และปุ่มดูรูปที่ถ่ายไป

dtac-phone-x3-review-camera05

หน้าตาโหมด Dual Camera

dtac-phone-x3-review-camera06

ถ่ายรูปแบบ RAW ได้ด้วยนะ

dtac-phone-x3-review-camera07

สามารถปรับ Scene, White Balance และ ISO สำหรับการถ่ายรูปได้

dtac-phone-x3-review-camera09

 

โหมดเสริมที่มีให้ใช้งานได้แก่ Super Fine ถ่ายที่ความละเอียด 23MP, HDR, Panorama, Face Beauty และ PIP Mode ครับ

dtac-phone-x3-review-camera10

สำหรับคุณภาพของรูปถ่ายต้องบอกว่า ทำได้ดีอยู่เหมือนกันกับมือถือราคาแค่ 5000 กว่าบาท ถ่ายได้ระดับนี้ถือว่าน่าพอใจ เฉพาะตอนที่สภาพแสงเพียงพอนะครับ ถ้าเป็นตอนกลางคืนหรือตอนแสงน้อยกล้องจะออกอาการทันที คุณภาพ drop แบบเกินบรรยาย มาดูภาพตัวอย่างกันดีกว่า

dtac phone X3 – Camera samples

 

กล้องหน้าของมือถือรุ่นนี้มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเรียกว่าถ่าย Selfie ได้ภาพออกมาโอเค มีโหมด Face Beauty มาช่วยเกลี่ยใบหน้าให้เนียนขึ้น แต่เปิดสุดแล้วจะออกฝันๆเบลอๆหน่อย

บทสรุป

dtac phone X3 นับว่าเป็นมือถือที่ถือคุ้มค่าต่อการซื้อไปใช้งานรุ่นหนึ่งในตลาดตอนนี้เลย ด้วยราคาเพียง 5,690 บาท แต่ได้สเปกที่ค่อนข้างดี บวกกับระบบกล้องคู่ที่คงหาไม่ได้ในมือถือราคาระดับนี้แล้ว ร่วมด้วยประสิทธิภาพของระบบซอฟต์แวร์ที่ลื่นไหลใช้ได้ ขอสรุปข้อดีและจุดที่ควรปรับปรุงไว้ดังนี้

ข้อดี

  • เครื่องสวย งานประกอบดี แข็งแรง
  • ระบบกล้องคู่ในราคาเอิ้อมถึง
  • ถ่าย RAW ได้
  • สเปกคุ้มราคา
  • Android 7.0 Nougat
  • ประสิทธิภาพดี ใช้งานสนุก
  • ประกัน 15 เดือน

จุดที่ควรปรับปรุง

  • ภาพถ่ายตอนกลางคืนค่อนข้างแย่
  • ตัวเครื่องดูดคราบนิ้วมือ เช็ดยากด้วย
  • ใช้งานไปนานๆมีหน่วง ต้อง clear หน่วยความจำ

dtac phone X3 วางจำหน่ายแล้วในราคา 5,690 บาท มี 2 สีให้เลือกคือ ดำและขาว โดยรวมถือว่าคุ้มค่าตัว ใช้งานได้ดี แถมมีประกันเครื่องยาว 15 เดือนด้วย หรือถ้าไม่ซื้อเครื่องเปล่า แต่เลือกแบบสมัครแพ็คเกจของ dtac ด้วยก็จะได้ส่วนลดค่าเครื่องอีก และได้สิทธิ์ UP ใช้ครบปีรับฟรีอีก 1 เครื่องอีกต่างหาก รายละเอียดตามรูปด้านล่างนี้เลย ในส่วนของรีวิวผมขอจบเพียงเท่านี้ กลับมาเจอกันใหม่ในรีวิวหน้านะครับ สวัสดี

dtac-phone-promotion