WH950NB หูฟังไร้สายรุ่นใหม่จาก Edifier ที่เปิดตัวที่ต่างประเทศเมื่อต้นปีที่ผ่านมา วันนี้มาอยู่ในมือของทีมงาน DroidSans เรียบร้อยแล้ว ทาง Edifier เล่าว่า ‘รุ่นนี้ก็ยังยึดมั่นในแนวทางเดิม’ คือ ราคาจับต้องง่าย แต่ได้คุณภาพเสียงและฟังก์ชันระดับพรีเมียม โดยมีค่าตัวอยู่ที่ 6,990 บาท

รีวิวนี้มีอะไรบ้าง

  • การออกแบบ วัสดุ และงานประกอบ
  • ฟังเพลง Hi-Res ได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย
  • มาครบทั้ง ANC และ Ambient Sound
  • เชื่อมต่อง่ายกว่าเดิมด้วย Fast Pair
  • สวมใส่สบายไหม หนีบหูหรือเปล่า
  • คุณภาพเสียงเป็นอย่างไร
  • แบตอึดแค่ไหน

วัสดุแข็งแรง งานประกอบประณีต

WH950NB เป็นหูฟังแบบครอบหู (บางคนอาจเรียกหูฟังฟูลไซซ์ หรือโอเวอร์เอียร์ อันนี้ตามความสะดวก แต่โดยนัยแล้วความหมายเหมือนกัน) บอดี้โดยรวม Edifier เลือกใช้วัสดุพลาสติก ซึ่งมีข้อดีในแง่ของความทนทานและน้ำหนักเบา ยกเว้นบริเวณก้านคาดหัวที่เป็นวัสดุโลหะ เพราะต้องมีคุณสมบัติด้านความยืดหยุ่น คืนรูปได้ ให้รองรับกับการง้างเข้าหรือออกขณะสวมใส่ โดย WH950NB มีน้ำหนักอยู่ที่ 296 กรัม ค่อนข้างเบาเลยทีเดียว

สำหรับฟองน้ำ หรือเอียร์แพด ไส้ในเป็นเมมโมรีโฟม หุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ ส่วนนี้ทำหน้าที่เป็น ‘ด่านหน้า’ สำหรับลดทอนเสียงรบกวนที่จะทะลุผ่านเข้าไปในหู หรือกล่าวง่าย ๆ คือ เป็นเหมือน passive noise-cancellation (PNC) ไปในตัว

ส่วนระบบควบคุมเป็นแบบปุ่มกด ไม่รองรับระบบสัมผัส หากใช้งานครั้งแรก ๆ อาจต้องใช้เวลาปรับตัว ทำความคุ้นเคย จดจำตำแหน่งปุ่มต่าง ๆ เล็กน้อย (จริง ๆ แต่ละปุ่มมันมีลักษณะนูน ๆ ให้แยกแยะออกได้ง่าย แต่ถ้ายังไม่ชิน น่าจะมีกดถูก ๆ ผิด ๆ กันบ้างอยู่ดี)

ฟังเพลง Hi-Res ได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย

WH950NB สามารถตอบสนองต่อย่านความถี่เสียงครอบคลุมตั้งแต่ 20Hz – 40kHz ตามมาตรฐาน Hi-Res ซึ่งบางรุ่นก่อนหน้านี้ของ Edifier ก็ทำได้เท่ากัน แต่ใช้งานได้เฉพาะแบบมีสาย เพราะไม่มีตัวถอดรหัส LDAC แต่พอเป็น WH950NB ที่ได้ LDAC มาด้วย ตอนนี้สามารถฟังเพลง Hi-Res ได้ทั้งแบบมีสายและไร้สายแล้ว

มาครบทั้ง ANC และ Ambient Sound

ฟีเจอร์ที่ให้มาใน WH950NB เรียกได้ว่า จัดหนัก จัดเต็ม เกินราคา โดยรองรับทั้ง Active Noise Cancellation และ Ambient Sound

ในส่วนของ Active Noise Cancellation ทาง Edifier ไม่ได้ระบุแบบชัด ๆ ว่า ตัดเสียงรบกวนได้กี่เดซิเบล แต่ถ้าให้สรุปแบบรวบรัด คงต้องบอกว่า ‘น่าพึงพอใจ’ ใช้งานบนรถไฟฟ้าหรือรถไฟใต้ดินพร้อมเปิดเพลงระดับความดังปกติ แล้วแทบจะไม่ได้ยินเสียงประกาศอย่างสิ้นเชิง ก็น่าจะเหลือเฟือสำหรับคนทั่ว ๆ ไปแล้ว

ส่วน Ambient Sound เองก็ทำได้ดีมากเช่นกัน เปรียบเทียบเสียงจากลำโพงที่หูฟังรับเข้ามา กับเสียงจริงจากโลกภายนอก มีความใกล้เคียงกันมาก ๆ ทั้งระดับความดังและเนื้อเสียงที่ไม่ฟังดูเป็นเสียงสังเคราะห์แบบดิจิทัลเท่าไหร่

เชื่อมต่อง่ายกว่าเดิมด้วย Fast Pair

ของใหม่อีกอย่างหนึ่งใน WH950NB คือ ฟีเจอร์ Fast Pair จาก Google ที่ช่วยให้การจับคู่หูฟังกับอุปกรณ์ Android ทำได้ง่ายขึ้นมาก

จากเดิม เวลาที่ต้องการเชื่อมต่อหูฟังไร้สาย เราต้องเปิดหน้าจอตั้งค่า Bluetooth และกดปุ่มสแกน เพื่อค้นหาอุปกรณ์ แล้วจึงค่อยเชื่อมต่อ แต่ Fast Pair ตัดขั้นตอนเหล่านั้นทิ้งไปทั้งหมด หากหูฟังและอุปกรณ์อยู่ใกล้กัน จะมีป๊อปอัปปรากฏบนหน้าจอ แล้วกดปุ่ม ‘เชื่อมต่อ’ เป็นอันเสร็จ แถมในป๊อปอัปนั้นยังมีทั้งชื่อยี่ห้อ ชื่อรุ่น และรูปภาพของหูฟัง แสดงผลให้ดูพร้อมสรรพ

สวมใส่สบายไหม หนีบหูหรือเปล่า

หากพูดถึงหูฟังแบบครอบหู หนึ่งในประเด็นที่หลายคนเป็นกังวลลำดับต้น ๆ คงหนีไม่พ้นปัญหาเรื่องการหนีบหู ทำให้รู้สึกไม่สบายศีรษะ และสวมใส่นาน ๆ ไม่ได้ แต่จากที่ทดสอบดูแล้วพบว่า WH950NB ไม่เจอปัญหาดังกล่าว อาจเพราะก้านคาดหัวไม่ได้บีบรัดแรงมาก ประกอบกับเอียร์แพดทั้งสองฝั่ง ต่างอยู่ในระยะห่างที่กำลังดี ไม่มากเกินไป และไม่น้อยเกินไป รวมถึงมีเมมโมรีโฟมช่วยซับแรงบีบด้วยอีกส่วนหนึ่ง

อย่างไรก็ดี WH950NB ยังคงเกิดอาการ ‘ร้อนหู’ หากสวมใส่ต่อเนื่อง เป็นจุดที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ด้วยข้อจำกัดทางกายภาพของหูฟังลักษณะนี้ ที่เอียร์แพดต้องครอบทับทั้งใบหู ซึ่งยี่ห้อไหน รุ่นอะไร ก็เป็นเหมือนกัน เมื่อใช้งานต่อเนื่องประมาณ 25 – 30 นาที จะเริ่มออกอาการแล้ว อาจต้องถอดออกมาพักบ้าง ประมาณ 2 – 3 นาที

คุณภาพเสียงเป็นอย่างไร

WH950NB มากับไดรเวอร์ขนาด 40 มม. พร้อมไดอะแฟรมที่ทำจากแผ่นฟิล์มไทเทเนียม ทาง Edifier เคลมว่า WH950NB โดดเด่นในแง่การขับเสียงที่เป็นธรรมชาติ สมดุลทุกย่านเสียง มีโหมดการใช้งานรองรับ 3 โหมด ได้แก่ โหมด Music สำหรับฟังเพลง, โหมด Theatre สำหรับดูหนัง และโหมด Game สำหรับเล่นเกม

โหมด Game ถือเป็นอีกหนึ่งความพิเศษของ WH950NB ที่ไม่ค่อยพบเห็นได้จากหูฟังไร้สายโอเวอร์เอียร์ยี่ห้ออื่น หากไม่ใช่พวกรุ่นที่เจาะกลุ่มเกมเมอร์ยิ่งแล้วใหญ่ ซึ่งในโหมดนี้จะลดความหน่วงแฝงให้ต่ำเป็นพิเศษ เหลือประมาณ 80 มิลลิวินาที

จากการทดลองฟังเพลงในโหมด Music และตั้งเอฟเฟกต์เสียงเป็นแบบ Dynamic ที่เป็นค่าเริ่มต้นของหูฟัง พบว่า WH950NB มีเวทีกว้างพอประมาณ ขับเสียงร้องและเสียงแหลมได้ชัดเจน ไม่เสียดหู เสียงเบสอาจมีอิมแพกต์น้อยไปนิด และเก็บตัวช้าไปหน่อย แต่ก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมการฟังเพลงของแต่ละคน และสามารถปรับอีควอไลเซอร์ชดเชยเพิ่มเติมได้หากแนวเสียงไม่ถูกใจ

แบตอึดแค่ไหน

WH950NB แบตอึดจนน่าตกใจ ตัวเลขที่ WH950NB ให้ข้อมูลไว้ คือ ฟังเพลงต่อเนื่องได้ 35 ชั่วโมง กรณีเปิดฟังก์ชัน ANC หรือเพิ่มเป็น 58 ชั่วโมง หากปิด ANC เปิดเพลงทิ้งไว้ข้ามวัน ยังเอาอยู่ สบาย ๆ ตบยับได้แทบทุกค่าย แบตอึดกว่าชาวบ้านแบบออกนอกหน้าไม่เกรงใจใคร

นอกจากนี้ WH950NB ยังรองรับชาร์จไว เสียบชาร์จ 10 นาที ฟังเพลงต่อได้นานสุด 7 ชั่วโมง และใช้เวลาชาร์จจนเต็มประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

จากที่ได้ทดสอบใช้งานแล้ว WH950NB ทำผลงานได้ใกล้เคียงตามที่เคลม คือ เปิดต่อเนื่อง 10 ชั่วโมงพร้อม ANC แบตลดไปแค่ 10% เท่านั้นเอง

สรุปการใช้งาน

พิจารณาจากฟีเจอร์ที่ให้มา หากจะเอาครบเครื่องแบบนี้ ถ้าเป็นหูฟังทั่ว ๆ ไป มักพบได้ในช่วงราคาประมาณ 1 หมื่นบาทขึ้นไป ดังนั้นกับ WH950NB ของ Edifier ที่มีค่าตัวแค่ 6,990 จึงเป็นตัวเลือกที่ดูน่าสนใจมาก ๆ โดยเฉพาะคนที่อยากขยับจากหูฟังแบบเอียร์บัดหรืออินเอียร์ มาเป็นโอเวอร์เอียร์ครอบหู คุณภาพเสียงโดยรวม งานประกอบ และวัสดุ ต่างจัดอยู่ในเกณฑ์ดี

ราคาและการจำหน่าย

WH950NB มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ และสีขาว ราคาปกติจะอยู่ที่ 6,990 บาท แต่ช่วงนี้จะมีโปรโมชันพิเศษ สามารถหาซื้อได้ในราคาประมาณ 4,xxx บาท หรืออาจถูกกว่านี้หากสามารถหาโค้ดส่วนลดเพิ่มได้

สั่งซื้อได้ที่ Edifier Official Store :