ดูเหมือนว่าเครื่องทำเงินของ Meta ดูจะมีปัญหาซะแล้ว เพราะล่าสุดมีการประกาศผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ออกมาแล้ว พบว่า Facebook ที่มีการเติบโตของรายได้มาอย่างต่อเนื่องตลอดเวลากว่า 10 ปี ในปีนี้กลับพบว่ามีรายได้ต่อปีลดลงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของบริษัท

รายรับในไตรมาสที่ 2 ของ Facebook ลดลงไป 1% จนเหลืออยู่ที่ 28,800 ล้านดอลล่าร์ หรือประมาณ 1 ล้านล้านบาท และยังมีการคาดการณ์ว่าในไตรมาสที่ 3 น่าจะลดลงไปมากกว่านี้อีก ส่วนรายรับโดยรวมของบริษัทแม่อย่าง Meta ก็ลดลงไป 36% เหลืออยู่ที่ 6,700 ล้านดอลล่าร์ หรือประมาณ 245,000 ล้านบาท ส่วนแผนก Reality Labs ที่รับผิดชอบในส่วนของ Metaverse รายรับลดลงไปกว่า 2,800 ล้านดอลล่าร์ หรือประมาณ 102,500 ล้านบาท

จากการเพิ่ม App Tracking Transparency เข้ามาใน iOS 14.5 ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถกด Ask app not to track หรือไม่อนุญาตให้แอปติดตามข้อมูลผู้ใช้ ทำให้การยิงโฆษณาบน Facebook มีผลน้อยลง ส่งผลให้ในปีที่แล้ว Meta ทำรายได้จากการโฆษณาเพียงอย่างเดียวไปได้ 1 หมื่นล้านเหรียญ หรือประมาณ 366,430 ล้านบาท

ฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวใหม่ของ Apple ทำให้ Facebook, Twitter และ YouTube สูญเสียรายได้กว่า 3 แสนล้านบาท

แต่ถึงแม้ว่ารายได้ของ Meta จะลดลงไปแต่จำนวนผู้ใช้งานรายวันกลับเพิ่มสูงมากขึ้น 3% เป็น 1,970 ล้านคน ซึ่งดีขึ้นกว่าสองสามไตรมาสที่ผ่านมาที่มีข่าวว่าจำนวนผู้ใช้งานรายวันลดลงมาอย่างต่อเนื่อง และโดยภาพรวมแล้ว Facebook, Messenger, Instagram และ WhatsApp มีผู้ใช้งานรายวันรวมกันกว่า 2,880 ล้านคน เพิ่มขึ้นมา 4% จากปีที่แล้ว

ในขณะเดียวกันก็ยังมีการแข่งขันจากแอปคู่แข่งอย่าง TikTok ซึ่งในตอนนี้ Facebook และ Instagram กำลังพยายามพัฒนาระบบเพื่อเน้นไปที่วีดีโอแบบสั้นมากขึ้นตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งทาง Mark Zuckerberg ออกมาบอกว่า ในปีหน้าเราจะเห็นคอนเทนต์ที่มาจากแอคเคาท์ที่ไม่ได้ติดตามไว้มากขึ้นเป็นเท่าตัว และการลงทุนกับ AI ในการทำสิ่งนี้ก็ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก

Facebook ปรับหน้าตาใหม่ การทำงานคล้าย For You ใน TikTok หน้า Home เดิมถูกย้ายไปแถบ Feed

 

ที่มา : theverge