ถึงแม้ว่า Apple จะเลิกวางจำหน่าย iPhone 12 ไปแล้ว หลังงาน Apple Event 2023 จบไปเมื่อวาน แต่ล่าสุดได้มีหน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องคลื่นความถี่ของประเทศฝรั่งเศสอย่าง France National Frequency Agency (ANFR) ได้ออกมาสั่งให้ Apple หยุดวางจำหน่าย iPhone 12 ทุกรุ่น หลังพบว่าตัวเครื่องแผ่รังสีเกินค่ามาตรฐาน

ANFR ได้นำโทรศัพท์มือถือกว่า 141 รุ่นมาทดสอบหาค่า SAR ซึ่งเป็นค่าวัดระดับรังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ออกมาจากอุปกรณ์สื่อสารที่เนื้อเยื่อของมนุษย์ดูดซับได้ และหนึ่งในรุ่นที่ถูกทดสอบอย่าง iPhone 12 มีค่า SAR อยู่ที่ 5.75 วัตต์ต่อกิโลกรัมในระยะ 5 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นระยะที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่จับถือใช้งานหรือ ใส่กระเป๋ากางเกง

ค่า SAR ดังกล่าว ถือเป็นค่าที่สูงเกินค่ามาตรฐานที่ทาง EU กำหนดไว้ที่ 4.0 วัตต์ต่อกิโลกรัม ซึ่งหากสูงกว่าที่กำหนดไว้อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพ และอาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะไปกระตุ้นโรคมะเร็งได้

หลาย ๆ ประเทศทั่วโลกจึงมีมาตรการออกมาป้องกันไว้ก่อน แต่อย่างไรก็ตามหากอ้างอิงจากข้อมูลองค์การอนามัยโลก ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า รังสีที่ปล่อยออกมาจากโทรศัพท์มือถือสามารถส่งผลเสียต่อร่างกายของมนุษย์ได้จริง

ทาง ANFR จึงได้สั่งให้ Apple ระงับการวางจำหน่าย iPhone 12 ทุกรุ่นในประเทศฝรั่งเศส และได้ส่งตัวแทนลงไปดูตาม Apple Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายว่ายังมีการขาย iPhone รุ่นดังกล่าวหรือไม่ รวมถึงอาจสั่งให้ Apple เรียกคืน iPhone 12 ทุกรุ่นที่วางจำหน่ายใน EU หากไม่แก้ไขปัญหาที่ว่านี้ภายในระยะเวลา 2 อาทิตย์ ทั้งนี้ ANFR ได้ระบุด้วยว่าหาก Apple ออกอัปเดตซอฟต์แวร์ให้อาจช่วยลดค่า SAR ได้

เบื้องต้นทาง Apple ได้ออกมาโต้กลับว่า iPhone 12 Series ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานการแผ่รังสีจากองค์กรนานาชาติ รวมถึงได้ส่งผลทดสอบในแล็บของ Apple และผลทดสอบจากแล็บนอก เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเครื่องได้ผ่านมาตรฐานค่า SAR ที่ทั่วโลกกำหนดไว้แล้วจริง ๆ

เหตุการณ์ในครั้งนี้อาจไม่ส่งผลกระทบต่อ Apple มากมาย เพราะ iPhone 12 ก็ได้ประกาศเลิกขายหลัง iPhone 15 เปิดตัวไปแล้ว แต่ก็ต้องจับตาดูกันอีกทีว่า Apple จะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร เพราะถ้า ANFR สั่งเรียกคืนตัวเครื่องจริง ๆ ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ อีกต่อไปแล้ว

ที่มา: Reuters