สำนักข่าว AP รายงานว่าเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นักออกกฎหมายของฝรั่งเศสได้ออกมาตรการเพื่อที่จะจี้บริษัทโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook และ Google ให้ลบคอนเทนต์ต่างๆ ที่ทางรัฐบาลฝรั่งเศสเองมองว่าเป็น “Hate Speech” หรือข้อความที่มีถ้อยคำเกลียดชัง
ข้อกำหนดดังกล่าวนี้ ซึ่งเป็นส่วนนึงของมาตรการการควบคุมอินเตอร์เน็ตของประเทศฝรั่งเศส ถูกเสนอโดยสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งถ้ามาตรการนี้ได้รับอนุมัติเมื่อไหร่ ก็หมายความว่าต่อไปนี้ Facebook และเว็บไซต์สังคมออนไลน์ต่างๆ จะต้องทำการลบเนื้อหาที่ถูกระบุ ภายใน 24 ชั่วโมง และจากการรายงานของ New York Times มาตรการดังกล่าวนี้ก็จะถูกเสนอไปถึงวุฒิสภาต่อไปในการประชุมครั้งหน้า
นอกจาก hate speech แล้วยังรวมไปถึงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการเหยียดสีผิว ชนชั้น หรือความเชื่อต่างๆ เฉกเช่นเดียวกันภาพอนาจารเด็ก ซึ่งหากเว็บไซต์โซเชียลมีเดียต่างๆ ไม่สามารถลบคอนเทนต์ที่ว่านี้ได้ภายใน 24 ชั่วโมง พวกเขาก็อาจจะต้องเผชิญกับค่าปรับมหาศาลราวๆ 1.25 ล้านยูโรหรือราวๆ 40 ล้านบาท
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีของฝรั่งเศสเองอย่าง Emmanuel Macron ก็เพิ่งออกมากล่าวว่าพฤติกรรมการเล่นโซเชียลของประชากรประเทศเขามีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ใช้ภาษาที่ก้าวร้าวและมีการเหยียดเชื้อชาติ โดยสำนักข่าว AP เปิดเผยว่า ทางรัฐบาลฝรั่งเศสเองก็ยังมีเสียงที่แตกเป็นสองฝั่งในเรื่องของมาตรฐานในการวัดว่าคอนเทนต์ไหนเข้าข่ายเป็น hate speech หรือไม่เป็น
ในปี 2018 ประเทศเยอรมันนี้ก็เพิ่งจะประกาศออกกฎหมายในลักษณะคล้ายๆ กัน ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมในปีดังกล่าวเลย โดนกฎหมายดังกล่าวจะบังคับให้เว็บไซต์อย่าง Facebook ลบคอนเทนต์ที่ผิดกฎหมายออกภายในเวลา 24 ชั่วโมง หากเว็บไซต์ดังกล่าวไม่สามารถทำตามที่ตกลงกันไว้ได้ ก็จะถูกปรับเป็นเงินราวๆ 50 ล้านยูโรหรือประมาณ 1.7 พันล้านบาทเลยทีเดียว (ซึ่งล่าสุดก็เพิ่งโดนสั่งปรับไป)
โดยที่ผ่านมา Facebook ก็ถือว่าได้รับแรงกดดันจากสังคมพอสมควรเลย เนื่องจากหากใครยังจำกันได้เมื่อช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมีเหตุการณ์ผู้ก่อการร้ายกราดยิงผู้คนที่มาทำกิจกรรมทางศาสนาที่มัสยิดในประเทศนิวซีแลนด์ โดยผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้เองก็ใช้ Facebook เป็นเครื่องมือในการถ่ายทอดสด ทำให้ทางบริษัทจำเป็นต้องออกกฎเพิ่มมาว่าห้ามโพสต์คอนเทนต์ที่เข้าข่ายนิยมคนผิวขาว (White Nationalism) และอะไรก็ตามที่คอนเทนต์ที่ส่งเสริมการแบ่งแยก (Separatism) เลย
ที่มา: TheVerge
ประเทศไทยหละ เห็นเต็มเกลื่อนในเฟสเลย ไม่มี ผู้ทรงเกียรติ คนไหนลุกออกมาแสดงความคิดแบบนี้บ้างเลย
ในไทยต้องมีด้วยแล้ว
แต่รับรอง พล่ามขาดเสรีภาพแน่นวล
face ข่าวปลอมเยอะมากกกก
face มีทั้งข่าวปลอม หลอกขายของ พี่ไทยเรามีเยอะแยะ 🙂 🙂
มันอยู่ที่หน่วยงานตรวจสอบมากกว่า ไปเกี่ยวอะไรกับเฟชบุค เรื่องไม่จริงๆ ก็ไปตามหาคนโพสสิค๊าบ