Galaxy Gear เป็นชื่อเรียกทางการค้าของ Samsung Smartwatch นาฬิกาอัจฉริยะ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกับโทรศัพท์ Smartphone ของทาง Samsung ในซีรีย์ส S และ Note เท่านั้น โดยจะสามารถเป็นได้ทั้งนาฬิกา ตัวแจ้งเตือน กล้องถ่ายรูป รวมถึงเป็นหูฟังคุยโทรศัพท์ก็ยังได้ ซึ่งต้องบอกว่าเมื่อได้เห็นถึงความสามารถเต็มๆของมันแล้วหลายๆคนก็บอกตรงกันว่า “น่าสนใจ” เดี๋ยวเราไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

หน้าตาและรูปลักษณ์

ตามภาพและคำให้การจากเว็บต่างประเทศ บอกมาคล้ายๆกันว่า Galaxy Gear ทำออกมาได้ดูดีกว่าที่คิด แม้ว่าจะไม่ได้เจ๋งขนาดราคาระดับพรีเมียนมากมาย แต่ก็ใส่แล้วดูคูลไม่ใช่น้อย โดยตัวสายนั้นน่าจะใช้โพลีคาร์บอเนตในการทำ และส่วนกรอบของหน้าจอก็เป็น metal frame (ไม่แน่ใจว่าเป็นพลาสติกเคลือบอีกหรือเปล่า)  บนสายก็มีกล้องถ่ายฝังตัวมาอยู่ด้วย ให้ความรู้เป็นนาฬิกาของสายลับอะไรอย่างงั้นเลยทีเดียว  😀

 

สเปคและรายละเอียดทั่วไป

Galaxy Gear มาพร้อมกับ CPU Exynos ที่ทาง Samsung ผลิตขึ้นมาโดยเฉพาะเลย วิ่งที่ความเร็ว 800MHz ไม่ได้เร็วหวือหวาอะไรมาก ตามวิดีโอทดสอบจากเว็บต่างๆก็จะเห็นว่ามีอาการหน่วงๆอยู่ แต่ก็น่าจะเพียงพอกับการทำงานทั่วไปของ Smartwatch ถ้าทำการปรับแต่ง Software มาดีพอ

หน้าจอมีขนาด 1.63 นิ้ว พอๆกับ smartwatch ของเจ้าอื่น แต่ที่น่าสนใจคือมีความละเอียดที่สูงกว่าชาวบ้านที่ 320×320 pixels (เยอะกว่า Galaxy บางรุ่นซะอีก :P) และใช้จอ SuperAMOLED ซึ่งจะประหยัดพลังงานเมื่อแสดงผลสีดำเพราะเม็ดพิกเซลจะไม่ส่องสว่างเลย

ตัวสายนาฬิกามีการฝังกล้องความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซลเอาไว้ และมี BSI ช่วยถ่ายภาพในที่แสงน้อย และอัดวิดีโอได้ที่ความละเอียด 720p แต่ได้เพียงสั้นๆ 10 วินาทีเท่านั้น ซึ่งข้อนี้ทำให้หลายๆคนอาจจะหงุดหงิดเพราะมันมาแบบไม่เต็มเท่าไหร่นัก เข้าใจว่า Samsung ไม่ได้จะออกแบบมาให้ใช้งานด้านนี้เป็นหลัก แต่จะผลักให้ผู้ใช้ไปใช้ Smartphone แทนที่จะใช้ Galaxy Gear ครับ

Internal Memory 4GB Galaxy Gear ใส่เมมเข้ามาให้ไม่มากไม่น้อย ซึ่งเอาจริงๆเราก็คงไม่ได้เก็บภาพ เพลง คลิปลงที่ Galaxy Gear เป็นหลักอยู่ดี เพราะเมื่อไหร่ที่เราทำการถ่ายภาพบนนาฬิกา ภาพจะถูก upload  เข้าไปที่โทรศัพท์ด้วยทันที ซึ่งก็ถือว่าสะดวกไปอีกแบบ หรือเมื่อเรากดเล่นเพลง มันก็จะเป็นการควบคุมเครื่องโทรศัพท์ให้เล่นเพลงออกมา ไม่ใช่เล่นที่นาฬิกาเอง

Bluetooth 4.0 LE เบื้องหลังการเชื่อมต่อระหว่าง Galaxy Gear ไปยังอุปกรณ์ Galaxy อื่นๆ จุดเด่นของ Bluetooth เวอร์ชั่นนี้คืออัตราการกินพลังงานที่ต่ำมาก และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้มากมาย และมีอัตราการรับส่งข้อมูลที่สูงกว่า Bluetooth เวอร์ชั่นอื่นๆ หลายๆฟีเจอร์ที่ใช้งานสามารถทำงานได้อย่างกับมีเวทย์มนต์ก็เพราะเจ้านี่เนี่ยแหละ

Accelerometer และ Gyroscope เซนเซอร์จับการเคลื่อนไหวของเรา โดย Galaxy Gear จะตอบสนองต่อลักษณะท่าทางต่างๆได้ เช่น หากเราขยับข้อมือเข้าหาหน้าเพื่อดูเวลา หน้าจอก็จะติดขึ้นให้เองโดยอัตโนมัติ หรือเราจะใช้มันในการช่วยเรื่องการนับก้าวและติดตามออกกำลังกายก็ทำได้ผ่านเซนเซอร์สองตัวนี้เนี่ยแหละ

ไมค์และลำโพง มีการฟังไมค์และลำโพงเอาไว้บนนาฬิกาด้วยทำให้เราสามารถสั่งงาน รวมถึงนาฬิกาก็สามารถตอบสนองเราผ่านลำโพงได้เช่นกัน

 

ทีนี้มาดูฟีเจอร์กันต่อ ความน่าสนใจของ Galaxy Gear มันเพิ่งจะเริ่ม 😉 

Gesture Control

จากภาพของ Galaxy Gear จะเห็นได้ว่าตัวนาฬิกาจะมีปุ่ม power ด้านข้างแค่ปุ่มเดียว ที่เหลือก็จะใช้การสั่งงานผ่านหน้าจอเลย โดยการลากจากบนลงล่างก็จะเป็นการแทนปุ่ม back จากหน้า Home ลากไปด้านขวาก็จะเป็นการเลื่อนไปเมนูต่างๆ โดยมี notifications, voice memo, s voice, gallery, music

Play video

Smart Relay

อย่างที่บอกไปตอนแรกว่า Galaxy Gear มันช่วยทำหน้าที่แจ้งเตือนได้ ทำให้เราไม่ต้องคอยหยิบเอาโทรศัพท์ของเราออกจากกระเป๋า ซึ่งข้อมูลที่มันแสดงก็ดูได้ทั้งสายเข้า ข้อความ การแจ้งเตือนต่างๆ ซึ่งผู้ใช้สามารถจัดการกับการแจ้งเตือนนั้นๆผ่านนาฬิกาได้เลย แต่แค่นั้นยังไม่พอ Galaxy Gear ยังมีฟีเจอร์ Smart Relay ที่ช่วยให้เราสามารถหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความ อีเมล์ต่างๆกันทันทีที่ยกขึ้นมา โดยไม่ต้องมานั่งปลดล็อคโทรศัพท์เข้าแอพอีก!!

การทำงานของ Smart Relay เกิดขึ้นได้เพราะ Galaxy Gear ได้ทำการบอกกับ Smartphone ของเราไปเรียบร้อยว่าเรากำลังอ่านอะไรอยู่ และเมื่อเราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋าหรือโต๊ะ เจ้าโทรศัพท์ Galaxy ของเราก็จะรู้ได้ทันทีว่าเรากำลังหยิบเค้าขึ้นมาด้วย Gyrometer และปลดล็อคหน้าจอ รวมถึงเข้าไปยังแอพ เปิดอีเมล์ที่เรากำลังอ่านอยู่ทันที

 

Voice Operation

Galaxy Gear จะตอบสนองต่อการสั่งงานด้วยเสียงได้ ในกรณีที่มือเราไม่ว่าง เช่น เมื่อเราต้องการจะโทรออกแต่ว่ามือต้องถือของบางอย่างอยู่ ก็เพียงยกมือขึ้นมาสั่งงานว่าต้องการจะโทรหาใครก็ทำได้ หรือว่าจะตั้งเวลาแจ้งเตือน เขียนโน๊ต จดปฎิทิน ก็ทำได้ ส่วนนี้จริงๆก็คือ S Voice ที่เรารู้จักกันนั่นแหละ

แน่นอนว่า Voice Operation นี้ยังไม่รองรับภาษาไทยชัวร์ๆ และไม่แน่ใจว่าจะทำงานได้ดีขนาดไหนในสภาพการใช้จริงที่อาจะมีเสียงรบกวนมาก แต่ส่วนตัวก็ใช้ฟีเจอร์โทรเข้าออกด้วยเสียงอยู่เหมือนกัน สำหรับใช้เวลาขับรถอยู่ แต่ต้องมีการฝึกออกเสียง และตั้งเสียงเรียกที่ต้องการสำหรับเบอร์ที่เราใช้บ่อยๆเอาไว้หน่อย จะได้ใช้ง่ายๆครับ 😛

นอกเหนือจากการสั่งงานแล้ว ในงานยังมีการเดโมใช้ Galaxy Gear แทนหูโทรศัพท์ด้วย โดยเมื่อมีสายเข้ามา เราก็สามารถยกมือขึ้นแนบหูแล้วก็คุยได้เลย เพราะมันมีลำโพงและไม่อยู่บนนาฬิกาอยู่แล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าลำโพงมันจะดังขนาดแค่ให้เราได้ยิน หรือว่าจะดังขนาดที่คนอยู่ข้างๆสามารถเผือกได้ก็ไม่รู้นะ

 

Auto Lock

ฟีเจอร์เพื่อความปลอดภัยใการใช้งาน เพราะเมื่อเราวางโทรศัพท์เอาไว้ห่างจากตัวสัก 1-2 เมตรเมื่อไหร่ โทรศัพท์จะทำการ lock เครื่องพร้อมใส่พาสเวิร์ดเอาไว้โดยอัตโนมัติเลย และปลดล็อคให้เองทันทีเมื่อเรากลับมาใกล้ๆเครื่อง และทาง Samsung ยังมี Find My Device สำหรับสั่งให้เครื่องส่งเสียงโวยวายและสั่นเป็นจ้าเข้าได้ในกรณีที่เราหาเครื่องไม่เจอ

 

Apps

ตามที่ Samsung บอกไว้คือ Galaxy Gear สามารถดาวน์โหลดแอพได้เพิ่มจากเครื่องที่ได้ทำการ pair เอาไว้ผ่าน Samsung Apps โดยจะมีการทำแอพเพิ่มเติมมาให้ถึง 70 แอพ ครอบคลุมการใช้งานทั่วไป ทั้ง Twitter, Facebook, Evernote, Path, RunKeeper, Line, eBay, Pocket

และหน้าตาของนาฬิกาก็จะมีแอพให้สามารถทำเพิ่มได้เองด้วย แต่ ณ วันวางขายจะมีทั้งหมด 10 แบบให้เลือกใช้ก่อนได้

หน้าตาของนาฬิกาแบบต่างๆ 

ความยาวนานในการใช้งาน

ก่อนหน้าที่จะเปิดตัวไม่นานได้มีข่าวหลุดออกมาว่า Galaxy Gear จะใช้งานได้แค่ราวๆ 10 ชม.เท่านั้น ซึ่งทาง Samsung ก็ออกมาแจ้งแล้วว่าใช้งานได้หนึ่งวันสบายๆ หรือนอกจากจะใช้แบบหนักๆเท่านั้นถึงจะใช้ได้แค่ 10 ชม. แต่อย่างไรก็ยังถือว่าน่าเป็นห่วงสำหรับคนที่ใช้นาฬิกาแบบปกติ เพราะคงไม่ชินเท่าไหร่นักกับนาฬิกาที่ต้องชาร์จทุกคืน แต่ยังดีว่า Samsung ออกแบบที่ชาร์จมาให้สามารถวางทิ้งเอาไว้ตอนกลางคืนก็จะกลายเป็นนาฬิกาตั้งโต๊ะได้ทันทีครับ

ขั้วชาร์จไฟใต้นาฬิกา 

ราคาแพงไปมั้ย – ถ้ามองจากสเปคล้วนๆ หลายๆคนคงมองว่าแพงมากมาย แต่ถ้ามองว่าเป็นสินค้าแฟชั่นและเป็นนวัตกรรม เอาไว้โชว์สวยๆหล่อๆ ก็อาจจะรู้สึกอีกแบบได้ อันนี้ผมว่านานาจิตตัง ไม่ขอวิจารณ์

และเห็นถามกันมาเยอะว่ากันน้ำหรือไม่ ดูจากการที่เค้าไม่พูดอะไรถึงเรื่องนี้ก็พอจะเดาได้ว่าไม่กันน้ำชัวร์ๆ แต่เชื่อไม่ใช่โดนนิดโดนหน่อยแล้วจะเจ๊ง อย่าถึงกับเอาไปดำน้ำตกส้วมก็น่าจะรอดอยู่ แต่ข้อเสียคงเป็นที่มันเอาไปล้างน้ำไม่ได้มากกว่า

 

มีอะไรเกี่ยวกับ Google Smartwatch หรือเปล่า

เท่าที่สังเกต Galaxy Gear เวอร์ชั่นนี้ไม่น่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับ Google รวมถึง software เองก็ไม่น่าใช่ android ด้วยซ้ำไป แต่รายละเอียดน่าจะค่อยๆมีมากขึ้นหลังจากนี้ และเมื่อมันได้ทำการเปิดตัวในเมืองไทยครับ เดี๋ยวมาอัพเดทให้ต่อไปนะ

 

ราคาและวันวางจำหน่าย

ประเทศไทยน่าจะได้วางจำหน่ายพร้อมๆกับ Galaxy Note 3 ในวันที่ 25 กันยายนนี้ โดยราคาคาดกันว่าน่าจะอยู่ที่ 9,900 บาท มีสีทั้งหมด 6 สีให้เลือกคือ ดำ เทส ส้ม เบจ แดง และเขียว ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทางซัมซุงประเทศไทยจะเอาสีไหนเข้ามาขายบ้าง ไว้ยังไงจะมาอัพเดทให้อีกทีครับ

 

เท่านี้ครับ ทั้งหมดของ Galaxy Gear ที่อยากจะแชร์กัน ผมได้รวมสเปคของ Galaxy Gear เอาไว้ให้ได้ดูง่าย ยังไงก็ลองไปดูกันได้ที่อีก Blog นึงเอาเองละกัน

ถ้าใครไปเจอข้อมูลส่วนอื่นมา ยังไงก็เอามาแชร์ หรือบอกกันได้ ส่วนไหนข้อมูลผิดพลาดไปก็เชิญติได้เต็มที่จ้า

source: GSMArena, Engadget