Garmin บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทวอทช์และอุปกรณ์ wearable ต่าง ๆ ต้องปิดเว็บไซต์ และบริการเซิร์ฟเวอร์ชั่วคราวหลังโดน Hacker โจมตีด้วย Ransomware เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่ง Hacker ได้ทำการเข้ารหัสล็อคข้อมูลของลูกค้า และตัวเซิร์ฟเวอร์ที่เก็บข้อมูลออกกำลังกายของอุปกรณ์ Garmin รุ่นต่าง ๆ จนไม่สามารถเข้าถึงได้

ตอนนี้ทาง Garmin กำลังวางแผนเพื่อซ่อมแซม และรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยต้องปิดการให้บริการเว็บไซต์, บริการซิงค์ข้อมูลออกกำลังกายจากอุปกรณ์ต่าง ๆ, ระบบนำทางทางอากาศของ Garmin รวมถึงสายการผลิตบางแห่งในโซนเอเชีย ซึ่งหลัก ๆ แล้วผู้ใช้งานอุปกรณ์ Garmin ที่ใช้บริการ Garmin Connect เพื่อบันทึกข้อมูลในการปั่นจักรยานหรือออกกำลังกาย จะไม่สามารถเข้าถึงบริการได้ในตอนนี้

บริการนำทางทางอากาศอย่าง flyGarmin ก็โดนผลกระทบไปเต็ม ๆ เช่นกัน ทำให้เหล่านักบินที่ใช้บริการระบบนำทาง flyGarmin และ Garmin Pilot app ต่างปั่นป่วนไปตาม ๆ กัน เนื่องจากไม่สามารถอัปเดตฐานข้อมูลการบินได้เลย

ล่าสุด Garmin ได้ออกมาประกาศผ่าน Twitter ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ Garmin จำเป็นต้องปิดบริการ Call center ทั้งทางโทรศัพท์และทาง Email ซึ่งสร้างความปวดหัวให้ทั้งทาง Garmin และลูกค้าทั้งหลายเป็นอย่างมาก ตอนนี้ทาง Garmin ยังไม่ได้มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าข้อมูล database ของลูกค้าได้รับความเสียหายแค่ไหน หรือตัวข้อมูลได้รั่วไหลไปบ้างหรือไม่ โดยจนกว่าทาง Garmin จะแก้ไขสถานการณ์ได้ ตัวบริการส่วนใหญ่นั้นจะถูกปิดให้บริการอย่างไม่มีกำหนด

นอกจากนี้ทางพนักงาน Garmin ได้มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Ransomware ที่น่าจะเป็นตัวการของปัญหาครั้งนี้ชื่อว่า WastedLocker ที่เคยออกมาระบาดเมื่อช่วงต้นปี 2020 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามได้มีผู้ใช้งาน Twitter ชื่อว่า Marco Abis ได้ออกมาให้ข้อมูลว่าคนที่ต้องการจะแบคอัพข้อมูลในการออกกำลังกายของ Garmin Fitness นั้นสามารถสำรองข้อมูลลงในคอมพิวเตอร์ได้โดยใช้สาย USB และซอฟต์แวร์ 3rd party อย่าง Strava หรือ breath ไปก่อน

เรียกว่าไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว เพราะ Garmin นับว่าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีเซิร์ฟเวอร์ และระบบความปลอดภัยแน่นหนา แต่ก็ยังโดน Hacker ดอดเข้ามาโจรกรรมข้อมูลกันได้ด้วย Ransomware แบบนี้ เพราะฉะนั้นผู้ใช้งานอุปกรณ์ IT อย่างเรา ๆ ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังให้กับตัวเองมากยิ่งขึ้นครับ

 

Source: Zdnet