ไม่แน่ว่าข่าวนี้ อาจนับเป็นการตัดไฟดราม่าขายชาติปานกบฎเสียแต่ต้นลมจากกรณีดราม่าเมื่อช่วงวันก่อนก็เป็นได้ 😆 สำหรับ Google ที่ล่าสุดได้ออกมาประกาศยอมรับอย่างเป็นทางการ ถึงการตัดสินใจหยุดพัฒนาโครงการ Search Engine พิเศษสำหรับประเทศจีน หรือที่รู้จักกันว่า Project Dragonfly ต้องถูกหยุดเอาไว้ก่อนอย่างไม่มีกำหนด
นับตั้งแต่ปลายปี 2018 – Google นั้นถูกตั้งคำถามมากมายทั้งจากรัฐบาลสหรัฐ ฯ นักข่าวและบรรดากูรูของโลกเทคโนโลยี ถึงข่าวลือเกี่ยวกับโครงการ Search Engine รูปแบบพิเศษเพื่อให้บริการในประเทศจีน Codename ว่า “Project Dragonfly” (บริการของ Google ถูกแบนจากจีนตั้งแต่ปี 2010) จนทาง Google เองต้องออกมายอมรับว่ากำลังทำงานร่วมกับองค์กรรัฐของจีนถึงความเป็นไปได้ในการให้บริการ Search Engine ภายในประเทศจีน อย่างเร็วที่สุดในปี 2019
อย่างไรก็ดีตั้งแต่ช่วง ธันวาคม ปี 2018 เป็นต้นมา พนักงานภายในของ Google เองรวมถึงวิศวกรผู้เชี่ยวชาญของพวกเขากว่า 200 ชีวิตได้ร่วมกันทำจดหมายเปิดผนึกถึงผู้บริหารระดับสูง ให้หยุดเร่งรัดโครงการนี้และมองถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการไม่เป็นอิสระหากให้บริการ Search Engine ในจีนอีกครั้งจริง ๆ ซึ่งอาจไม่คุ้มกัน
ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทางรองประธานของ Google อย่าง Karan Bhatia ได้ให้ข้อมูลสั้น ๆ เกี่ยวกับโครงการนี้เอาไว้ว่า ทีมพัฒนาส่วนหนึ่งของโปรเจค Dragonfly นั้นได้ถูกโยกย้ายไปทำงานอื่นแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการยืนยันใด ๆ อย่างเป็นทางการว่าโครงการนี้ยังมีอยู่ และจะเปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้จริงหรือไม่
จนกระทั่งล่าสุดทาง Karan Bhatia ได้ตอบคำถามกับวุฒิสภาของสหรัฐ ฯ อย่างเป็นทางการว่า “Google ได้หยุดพัฒนาโปรเจค Dragonfly ลงไปแล้ว และยืนยันว่ายังไม่มีแผนการใด ๆ สำหรับตลาดประเทศจีนในเวลานี้” ซึ่งอาจช่วยบรรเทากรณีดราม่าดุเดือดเลือดพล่านของวันก่อนระหว่าง Google กับ Trump ลงไปได้บ้าง แต่ก็ยังไม่มีข้อยืนยันว่าเป็นเคสเดียวกันกับที่ Google ถูกกล่าวหาเป็นกบฎหรือไม่…
ที่มา: The Next Web
พักไว้ก่อนรอทรัมหมดวาระ…
ผมว่ามันไม่คุ้มแต่แรกแล้วล่ะ เพราะถ้าจะบล็อก จะเซ็นเซอร์ซะขนาดนั้น ถึงจะมีลูกค้าใหม่อีก1500ล้านคน แต่ถ้าทำให้ลูกค้าเก่ากว่า 5500ล้านคนสูญเสียความมั่นใจในเรื่องความโปร่งใสของข้อมูล ผมว่าเป็นอะไรที่ไม่คุ้มอย่างแรง
การวางจุดยืนเป็นกลางหรืออยู่ข้างฝ่ายที่เป็นใหญ่มันใช้ได้บางกรณี แต่บางกรณี การยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามก็เป็นอะไรที่ดีกว่า
เขาคงแยกออกมาอีกระบบสำหรับใช้ในประเทศนั้นโดยเฉพาะมากกว่านะ
แต่ก็นั้นแหละ ช่วงนี้ทำการค้าอะไรกับ CH ก็โดนหมดแหละ
PP เองก็มีคู่แข่งอยู่ในจีนด้วย
ก็คงต้องรอดูกันต่อไป ว่ามันเป็นสงคารความหมั่นคง หรือการค้ากันแน่
รอไปก่อนแหละกัน 🙂 🙂
แผนล้วงข้อมูลจีนของ Google ต้องมาล่มเพราะทรัมพ์เลย – -.
หรือแค่ทะเลาะกันเบื้องหน้าเพื่อให้ Google ทำงานกับจีนได้ง่ายขึ้นในภายหลัง