ดูเหมือนว่าเรือธงของ Google อย่าง Pixel 5 (และ Pixel 5 XL) อาจจะเจอกับภูเขาน้ำแข็ง ตั้งแต่ยังไม่ทันออกจากท่าเรือซะแล้ว เมื่อล่าสุดมีรายงานว่า Google อาจพิจารณาตัดฟีเจอร์ Motion Sense ทิ้ง อีกทั้งสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวอาจมาพร้อมกับชิป Snapdragon 765G แทน เนื่องจากชิปตัวท็อป Snapdragon 865 มีต้นทุนที่แพงเกินไปนั่นเอง

แหล่งข่าวจาก Stephen Hall หนึ่งในทีมงานของเว็บ 9to5google ได้ออกมากระซิบเบาๆ ว่า เรือธง Pixel 5 ของ Google รอบนี้ อาจจะตัดชิป Soli Radar ที่ใช้ในการตรวจจับการเคลื่อนไหวทิ้งไป ซึ่งชิปตัวนี้ถือเป็นฟีเจอร์จุดขายสำคัญของ Pixel 4 และ Pixel 4 XL พราะตัวชิป Soli Radar เอง จะทำให้ผู้ใช้งาน Pixel 4 ทุกคน สามารถสั่งงานมือถือได้ด้วยท่าทางผ่านฟีเจอร์ Motion Sense ชนิดที่ว่าไม่ต้องแตะหน้าจอมือถือแม้แต่นิดเดียวเลย ไม่ว่าจะเลื่อนซ้าย-ขวา, เปลี่ยนเพลง, รับสายโทรศัพท์ ฯลฯ ก็แค่ใช้มือปัดไปปัดมาเท่านั้น (น่าเสียดายที่ฟีเจอร์นี้ใช้ในบ้านเราไม่ได้)

https://twitter.com/hallstephenj/status/1261389680731475973

อย่างไรก็ตาม พอถึงเวลาใช้งานจริงๆ ผู้ใช้งานบางส่วนก็ออกมาบ่นว่า ฟีเจอร์ Motion Sense ซดแบตมหาศาล แถมการทำงานของมันดูเหมือนว่าจะยังไม่เข้าที่เข้าทางเสียด้วย นอกจากนี้ตัวชิป Soli Radar เอง ยังกินพื้นที่ด้านบนของตัวเครื่องเยอะมากๆ อีกด้วย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม Pixel 4 และ Pixel 4 XL ถึงมีดีไซน์ ขอบบนที่หนาเตอะ

โดยก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวออกมารอบนึงว่า Pixel 5 เรือธง Android พันธุ์แท้ของ Google อาจจะไม่ได้มาพร้อมกับชิป Snapdragon 865 เหมือนกับมือถือระดับไฮเอนด์รุ่นอื่นๆ ในตลาด เนื่องจากต้นทุนของตัวชิปที่แพงหูฉี่ แต่จะเลือกใช้เป็นชิประดับกลางอย่าง Snapdragon 765G แทน

 

ที่มา: phonearena